Profile

ต้องบอกเลยว่าบ้านเราแดดแสนจะร้อน แถมยังมีทั้งฝุ่น ทั้งมลภาวะต่าง ๆ อีกมากมายที่สามารถทำร้ายผิวของเราได้ วันนี้เลยอยากหยิบของดีมากบอกต่อกับโลชั่นทาผิวกาย Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive White SPF50+ PA+++ ตัวนี้ค่ะ

ปกติแล้วเราใช้โ,ชั่นตัวนี้ตั้งแต่ช่วงที่ฝุ่น PM2.5 ยังหนาแน่นอยู่แล้ว ด้วยความที่เห็นว่าเค้าสามารถปกป้องผิวจากฝุ่น PM2.5 ได้ด้วย ก็เลยซื้อมาลอง แล้วปรากฏว่ามันใช้ดีกว่าที่คิดค่ะทุกคน แม้ตอนนี้ฝุ่น PM2.5 จะบางลงจนแทบไม่มีแล้ว แต่ยังไงเราก็ต้องเจอกับมลภาวะทางอากาศอย่างอื่นอยู่ เช่นควันรถยนต์ ฝุ่นตามอากาศ ยิ่งเราทำงานที่ต้องใช้รถสาธารณะเดินทางทุกวันยิ่งเจอมลภาวะเหล่านี้เยอะมากกกกกกก 

หลาย ๆ คนอาจจะมองข้ามการปกป้องผิวกาย เพราะมัวแต่ปกป้องผิวหน้า แต่อย่าลืมว่าผิวกายเราก็โดนทำร้ายได้นะคะ! เกริ่นกันมายาวแล้ว มาดูรีวิวกันบ้าง ขวดนี้เราได้มาจากกิจกรรมของ cosmenet พอดีที่ขวดเก่าหมดไปไม่ถึงอาทิตย์เลย 5555555 

ขวดนี้เค้าจะเป็นสูตรสำหรับคนที่ต้องการให้สีผิวสม่ำเสมอ ป้องกันผิวหมองคล้ำ แถมยังช่วยลดจุดด่างดำ ป้องกันริ้วรอยก่อนวัยที่เกิดจากแสงแดดด้วยค่ะ ส่วนตัวคือตากแดดเยอะจนผิวหมอง ก็ได้ตัวนี้แหละช่วยไว้

นอกจากจะบำรุงผิวแล้ว เค้ายังช่วยป้องกันแสงแดด เพราะมี SPF50+ และ PA+++ ด้วย และอีกสรรพคุณที่เราบอกไปก็ตคือเค้าช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะด้วยค่ะ เหมาะกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันมาก ๆ 

เนื้อโลชั่นเป็นสีขาว ตอนแรกคิดว่าจะหนักมั้ยนะ จะวอกมั้ยนะ สรุปว่าไม่เลยจ้า มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เนื้อโ,ชั่นเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่หนักผิวแต่อย่างใด และพอทาแล้วก็ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เด้งดึ๋งด้วยน้า ส่วนตัวหลังจากที่ใช้หมดมา 1 หลอดก็คือประมับใจมาก รู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น ไม่ต้องมาคอยกังวล มาทากันแดดที่เนื้อหนัก ๆ หนา ๆ ไม่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราเท่าไรเลยค่ะ ตัวนี้แหละตอบโจทย์เพราะเบาสบายผิวจริง ส่วนตัวก็คือผิวมันแอบกระจ่างใสขึ้นจริงเด้อ กันน้ำ กันเหงื่อด้วยค่ะ และความบางเบานี้ ทำให้เราสามารถหยิบมาใช้ซ้ำระหว่างวันได้ด้วย ใครที่ต้องไปออกแดดเยอะ ๆ แนะนำให้ซื้อหลอดเล็กมาพกติดกระเป๋าไว้เลย ช่วยได้มากกกกก เย็นสบายผิวด้วยค่ะ ^^

ถ้าเทียบสรรพคุณกับราคา เราบอกเลยว่าเป็นโลชั่นที่ถูกและดีอีกตัวที่ต้องมีติดบ้านไว้จริง ๆ 

จริงๆแอบส่องรีวิวของตัว Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution มาสักพักใหญ่ๆแล้วล่ะ เห็นบางคนบอกเห็นผล บางคนไม่เห็นผล จนวันนี้เราได้ลองใช้ด้วยตัวเองมา 1 เดือนเต็มๆค่ะ !! เดี๋ยวมาดูผลลัพธ์กันเลย

ก่อนต้องบอกก่อนว่าเราค่อนข้างจะกังวลในเรื่องสีผิวไม่สม่ำเสมอ ช่วงรอบๆปากของเรามันจะคล้ำกว่าส่วนอื่นๆค่ะ แล้วก็มีจุดด่างดำ ฝ้าเล็กๆตรงโหนกแก้มทั้งสองข้างแล้ว (แต่ไม่ได้เข้มมาก) และมีรอยสิวค่ะ

แพ็คเกจ : เอาจริงคือชอบแพ็คเกจของ Kiehl's หลายตัวมาก ยิ่งตัวนี้ยิ่งชอบเลยค่ะ ฟีลแบบขวดแก้วใสๆ มีตัวหนังสือสีดำรอบขวด ให้ความรู้สึกเหมือนวิทยาศาตร์อะไรแบบนี้มาก ตัวนี้ต้องระวังนิดนึงนะคะ เค้าเป็นขวดแก้ว ถ้าร่วงก็คือลาก่อยเลย 55555

กลิ่น : ตอนเปิดขวดมากลิ่นแอบตีจมูกนิดนึงค่ะ ซึ่งเราก็บอกไม่ถูกว่ากลิ่นเค้าเหมือนอะไร 555555 แต่พอหยดมาบนมือและทาก็รู้สึกว่ากลิ่นไม่ได้แรงขนาดนั้น ส่วนตัวเราโอเคค่ะ ยังรับได้อยู่

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อเป็นใสๆ และเนื้อเบากว่าที่คิดค่ะ ตอนแรกคิดว่าเนื้อจะหนืดๆ แต่อันนี้คือเนื้อเบาเลย ค่อนข้างเหลว แต่ไม่ได้เหลวจนเหมือนน้ำตบนะคะ ยังคงมีความหนาแน่นอยู่ เกลี่ยง่าย ซึมเร็วมากกกก

มาดูผลลัพธ์กันบ้างค่ะ

- รูป BEFORE จะเห็นเลยว่ารอยสิวทั้งรอยดำ รอยแดงเยอะมากกกก แล้วก็พวกจุดด่างดำตามโหนกแก้ม ส่วนนี้อาจจะเห็นไม่ชัดมากค่ะเพราะยังจางๆอยู่ แต่ขนาดจางๆแบบนี้เราก็เครียดมากแล้ว แงงงง เพราะถ้าไม่รีบรักษามันจะต้องเข้มมากแน่ๆ แล้วก็ช่วงรอบปากที่เราบอกไปว่าสีผิวมันไม่ค่อยสม่ำเสมอค่ะ

- 2 อาทิตย์หลังใช้ รอยสิวจางลงอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ แต่ยังไม่หายทั้งหมดน้า เอาจริงเราใช้ตัวนี้แล้วรู้สึกว่าหน้ากระจ่างใสขึ้นด้วยอ่ะ แปลว่าเราใช้แล้วเห็นผล (แอบดีใจที่ใช้ถูกกับหน้า 55555)

- 3 อาทิตย์ รอยสิวจางลงจนแทบมองไม่เห็นแล้วค่า ผิวใสขึ้นจริง!

- 1 เดือนหลังจากใช้ จะบอกว่ามันลดรอยสิว รอยดำ รอยแดงได้ดีจริง แถมไม่เปลืองด้วย เราใช้มาเดือนนึงยุบไปประมาณ 1/4 ขวดเองค่ะ ใช้ทั้งเช้า และก่อนนอนเลย ส่วนตัวเราว่าเราใช้แล้วถูกกับหน้ามากๆ นอกจากจะช่วยเรื่องพวกรอยสิวแล้วยังช่วยให้หน้ากระจ่างใสขึ้นด้วยค่ะ ส่วนรอยจุดด่างดำฝังลึกเราคิดว่าอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย เพราะเราเคยอ่านมาเหมือนกันว่ามันรักษายาก และมีคนใช้ตัวนี้เกือบๆหมดขวดถึงจะเริ่มเห็นผลเรื่องพวกจุดด่างดำค่ะ ถ้าเราใช้หมดขวดแล้วจุดด่างดำจางลงเยอะบอกเลยว่ามีต่อขวดที่สองแน่นอนแบบไม่รีรอเลยจ้า

ถ้าคะแนนของผลิตภัณฑ์เราให้เต็มไม่หักเลย
แต่ราคาก็อาจจะสูงไปนีสสสสสส แต่ถ้าใช้หมดขวดแล้วรอยกระ รอยจุดด่างดำ และฝ้าจางลงเยอะก็ถือว่าราคาสมเหตุสมผลอยู่น้าาาาาาา

บอกเลยว่า Biore UV Aqua Rich SPF50+ PA++++ เป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่ยืน 1 ในใจเราและที่บ้านเรามากๆๆๆ โดยเฉพาะคุณแฟนค่ะ ความที่ผู้ชายเค้าจะไม่ค่อยชอบใช้อะไรที่มันหนักและเหนียวหน้าอยู่แล้ว เมื่ก่อนบังคับให้ทากันแดดก็ไม่ทาเพราะเหนียว พอมาลองใช้ตัวนี้คือกลายเป็นคนทากันแดดทุกวัน ขนาดไม่ออกไปไหนก็ยังทาเลยค่ะ ด้วยความที่เค้าเป็นเนื้อเอสเซนต์ ซึมเร็วมากกกกกกกก ไม่ทิ้งความมัน ไม่ทิ้งคราบ และไม่ทำให้หน้าเหนียวเลยค่ะ เป็นกันแดดที่เบาสบายแบบที่สุดเลยเว้ยแกร ไม่จ้อจี้

และวันนี้ที่มารีวิวคือ Biore UV Aqua Rich SPF50+ PA++++ สูตรใหม่!! ไฉไลกว่าเดิม!! ส่วนตัวสูตรเก่าเราก็ชอบอยู่แล้วค่ะ เป็นไอเทมประจำบ้าน หมดแล้วซื้อซ้ำๆๆๆๆ 

สูตรนี้เค้าเพิ่ม Micro Defense ครั้งแรกของโลก อนุภาคขนาดเล็กระดับไมโคร ตรงนี้นอกจากจะช่วยกันรังสี UV ต่างๆแล้ว ยังซึมลึกเข้าสู่ผิวชั้นในถึงชั้นคอลลาเจน ช่วยไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย ปกป้องผิวไม่ให้เกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำด้วย เลิศตรงนี้จากปกติก็เลิศอยู่แล้ว

กลิ่น : กลิ่นเหมือนกันทั้งสองสูตรค่ะ กลิ่นจะออกแนวแบบมีแอลนิดๆ แต่ไม่ฉุนและไม่แรงมากค่ะ ส่วนตัวเราไม่มีปัญหา

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เทียบทั้งสองสูตรแยกไม่ออกค่ะ เหมือนกันเลย แต่ไม่ใช่ว่าไม่ดีน้า ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์นี่แหละที่ทำให้เราและแฟนเราเลิฟมาก อย่างที่บอกไปว่าซึมเร็ว ไม่เหนียวหน้า

ที่สำคัญ!!!! เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องแต่งหน้าบ่อยๆแบบเรามากก็คือ สามารถทาทับหลังจากแต่งหน้าได้ค่ะคุณ!!! ไม่เป็นคราบแต่อย่างใด แถมยังกันน้ำ กันเหงื่อไปอีก เหมาะกับสภาพแดดและสภาพอากาศบ้านเรามากเด้อ

ทดสอบความมันให้ดูหลังจากเค้าซึมเข้าผิวเลยค่ะ จะเห็นว่าไม่ทิ้งความมันบนใบหน้าเลย ยกให้เป็นกันแดดที่ทาได้ทุกวันจริงๆ

ยิ่งตอนนี้ work from home ก็ยังทาทุกวันนะคะ เพราะแม้เราจะไม่ได้ออกไปเจอแสงแดด แต่ UV มีอยู่ทุกที่จ้าาาาาา ไหนจะแสงสีฟ้าจากหน้าจอต่างๆ อาทิ จอคอม จอทีวี อีก แสงเหล่านี้ก็ทำร้ายผิวเราได้เหมือนกันค่ะ ดังนั้นแม้จะไม่ได้ออกไปไหน แต่อย่าชะล่าใจไม่ทากันแดดน้าาาาา 

และมีเกร็ดเล็กๆมาฝาก ในการทากันแดด เนื้อแบบนี้แนะนำให้บีบออกมาสองข้อนิ้วค่ะ บางคนอาจจะตกใจ แต่มันต้องทาเท่านี้จริงๆประสิทธิภาพการกันแดดถึงจะดี ไม่ต้องกลัวจะเหนียวหนักหน้าจ้ะ ใช้ตัวนี้รับรองสบายผิวเวอร์ และใครที่ต้องออกไปเจอแดดแรงๆทั้งวัน พกติดตัวไปเลยจ้ะ หยิบมาทาระหว่างวันได้สบายๆ แนะนำเลย

ให้เลย 10 10 10 กับกันแดดตัวนี้

ปกติใช้โลชั่นของแบรนด์นี้อยู่แล้วค่ะ พอสูตรใหม่ออกมาก็ทำให้อยากใช้มากกกกกกก ความที่เค้าเป็นโลชั่นสำหรับคนผิวแห้ง เนื้อโลชั่นจะค่อนข้างเข้มข้นและเหนียวค่ะ ถ้าอยู่ไทยก็เหมาะกับทาก่อนนอนมากกว่า ทาตอนเช้าอาจจะเหนียวเหนอะหนะไปหน่อย ไม่มีกลิ่น ไม่ใส่น้ำหอม เป็นโลชั่นที่อ่อนโยนมากกกกกกกกกก

แต่ตัวนี้เรารู้สึกว่าโลชั่นซึมเร็วกว่าอีกสูตรนะ อีกสูตรจะเหนียวและซึมยากกว่า แต่ก็ไม่ได้เบาผิวขนาดนั้น

ในส่วนผลลัพธ์คือให้เต็มสิบ สิบ สิบ เลยจ้าาาา คนผิวแห้งต้องใช้จริงๆ โบกตอนกลางคืน ตอนเช้าตื่นมาผิวนุ่มมากกก ยิ่งใช้ต่อเนื่องคือผิวนุ่ม สุขภาพดีสุดๆ ไปเลย เริ้บบบบบ

ต้องบอกเลยว่าปัญหาที่เราหนักใจที่สุดบนใบหน้าคือคือพวกรอยดำ รอยแดง และจุดด่างดำค่ะ เอาจริง ๆ คือแอบเล็งตัว CLINIQUE Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter ตั้งแต่รุ่นเก่าแล้ว แต่ยังไม่ได้ลองซักที ตอนนี้ได้ลองรุ่นใหม่ เดี๋ยวจะมารีวิวสรุปให้ฟังกันเล้ย !

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ตัวนี้เค้าบอกว่าเป็นเนื้อเซรั่มเข้มข้น ซึ่งเข้มข้นจริง เนื้อไม่หนืดเกินไป เกลี่ยง่าย แต่อาจจะใช้เวลาในการซึมนิดนึงนะคะ ไม่ได้ซึมไวเวอร์เหมือนพวกน้ำตบ หรือเซรั่มบาง ๆ ตัวอื่น 

กลิ่น : กลิ่นเป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ กลิ่นสะอาด ๆ ไม่ฉุนค่ะ

ผลลัพธ์หลังใช้ทันที : ส่วนตัวเราชอบนะ เพราะเป็นคนผิวผสม ช่วงแก้มคือแห้งมากกกกก หลังทาเสร็จเค้าเหมือนจะทำให้หน้าชุ่มชื้นขึ้นค่ะ แต่มันเหมือนมีอะไรมาเคลือบหน้าหน่อย ๆ ถ้าปล่อยให้ผิวหน้าแห้งมากอาจจะซึมยาก แนะนำให้ลงพวกน้ำตบเพิ่มความชุ่มชื้นก่อน แล้วค่อยทาตัวนี้ค่ะ เราจะเน้นใช้ทาแค่ช่วงแก้ม ไม่ทาตามทีโซนเท่าไร เช้าก็ทาบาง ๆ กลางคืนทาจัดเต็มโบก ๆ ไปเลยจ้า

ผลลัพธ์หลังจากใช้ 14 วัน : สองสามวันแรกแน่นอนว่าไม่เห็นผลอะไรเท่าไหร่ค่ะ และพอดีว่าสิวเรามันดันขึ้น เราก็แกะจนเป็นรอยดำ เลยเอามาทดลองใช้ทาดูด้วยเลย ผลปรากฏว่า เค้าลดรอยดำจากสิวของเราได้อ่ะ 555555 ส่วนเรื่องจุดด่างดำและริ้วรอยคิดว่า 14 วันอาจจะยังไม่เห็นผลเท่าไรค่ะ ที่ชัดที่สุดคือรอยดำจากสิวของเราจางลงจนแทบมองไม่เห็นเลย รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย ส่วนตัวรู้สึกว่าช่วยให้หน้าแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ เราใช้แล้วไม่แพ้ ไม่อุดตัน น่าจะถูกกับหน้าเราพอสมควรเลยค่า สีผิวก็ดูสม่ำเสมอขึ้นมาด้วยนะ

ถ้าถามว่าอยากซื้อต่อไหม จริง ๆ อยากค่ะ เพราะเป็นคนชอบลองมาก ๆ ถ้า 14 วันสามารถทำให้รอยดำจากสิวจางลงได้ คิดว่าถ้าใช้แบบขวดไซต์จริงก็น่าลองอยู่ค่ะ :)

แต่สำหรับคนที่ผิวอุดตันง่าย เราว่าอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับตัวนี้น้าาาาา

มาแนะนำคลีนเซอร์ดูแลผิวหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย คนเป็นสิวอุดตันต้องลองค่ะ ! กับ "All-In-One Detoxifying Deep Cleansing Water Gel (ออล-อิน-วัน ดีท็อกซิฟายอิ้ง ดีฟ คลีนซิ่ง วอเตอร์ เจล) จากแบรนด์ DELATEX"

เค้าเป็นเจลล้างหน้าแบบ 1 step ทั้งลบเมคอัพ ล้างครีมกันแดด ดีท็อก คลีนเซอร์ สูตรอ่อนโยนพิเศษเลยค่ะ

ที่อยากแนะนำเพราะเค้าเป็นคลีนเซอร์ถนอมผิว สูตรอ่อนโยนมากกกกก เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะเลย ไม่มีน้ำหอม ไม่ใส่สี ไม่มีแอลกอฮอล์ สบู่ พาราเบน และสารซัลเฟตค่ะ ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกบนใบหน้าอย่างอ่อนโยน มีสารสกัดจากธรรมชาติ 4 ชนิด คือ ว่านหางจระเข้, บล็อคโคลี่, พืชตระกูลส้ม, ดอก Camellia จากเกาะเชจูประเทศเกาหลี

หลังจากล้างแล้ว เราชอบตรงที่มันเฟรชมากๆ แถมไม่ทำให้ผิวแห้งตึงด้วยค่ะ ยังคงความชุ่มชื้นไว้บนใบหน้า ไม่ทำให้หน้ามันระหว่างวันเด้อ ก็คือนอกจากจะช่วยคลีนผิวเราให้สะอาดหมดจด อย่างอ่อนโยนแล้ว เค้ายังช่วยบำรุงผิวหน้าเราด้วย ตัวนี้เมื่อเราใช้ติดต่อกันประมาณ 2 อาทิตย์ขึ้นไป จะสังเกตได้เลยว่าพวกสิวอุดตันลดน้อยลง ผิวเรียบเนียนขึ้น ผิวกระจ่างใสขึ้น และสิวใหม่ไม่ค่อยขึ้นด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวตัว St.Ives Face Moisturizer สูตร Renewing Soft Cream Avocado & Coconut Oil ค่ะ ส่วนคัวเราไม่เคยใช้ของแบรนด์นี้มาก่อนเลย แต่ว่าเห็นบ่อยๆ ตัวนี้เค้าจะมีด้วยกัน 3 สูตรค่ะ เอาจริงคือเลือกยากมากกกกก อยากลองทุกสูตรเลยจ้า แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกสูตรนี้มา

มาดูสรรพคุณคร่าวๆของสูตรนี้ก่อนนะคะ สูตร Renewing Soft Cream Avocado & Coconut Oil เป็นส่วนผสมของอะโวคาโด และมะพร้าวจากธรรมชาติ 100% เป็นหลัก ช่วยในเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ผลิตคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เด้งโกลว์ สุขภาพดี

มาพูดถึงปัญหาผิวของเราก่อน เราเป็นคนที่นอนดึกมากกก นอนน้อยมาก ทำให้หน้าจะค่อนข้างแห้งและโทรม ทั้งๆที่เป็นคนผิวผสม ไม่ได้เป็นคนผิวแห้งค่ะ สาเหตุหลักๆก็คือผิวค่อนข้างขาดน้ำเลย ทำให้เราเลือกสูตรนี้มาลองค่ะ 

เนื้อผลิตภัณฑ์สูตรนี้จะเป็นเนื้อครีมเนียนนุ่ม แต่ซึมเร็วและไม่หนักหน้าเลย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ความรู้สึกหลังใช้ทันทีคือเห็นได้ชัดว่าผิวดูนุ่ม ดูอิ่มน้ำ สุขภาพดีเหมือนนอนมาไม่ต้ำกว่า 10 ชั่วโมงเลยค่ะ 555555 เราทดสอบโดยการใช้เครื่องวัดความชุ่มชื้นของผิว จะเห็นได้ชัดเลยว่าก่อนใช้และหลังใช้ทันที ความชุ่มชื้นของผิววต่างกันมากกกกกก ตัวนี้ใช้ก่อนแต่งหน้าทำให้แต่งหน้าติดได้ง่ายขึ้นและทนขึ้นด้วยนะคะ

ผลลัพธ์หลังใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ในความรู้สึกของเราหลังจากลองใช้มาได้ 3 อาทิตย์คือชอบนะคะ เพราะว่าเป็นคนไม่ชอบทาสกินแคร์เนื้อหนักๆ แต่ชอบสกินแคร์ที่ทาแล้วชุ่มชื้น งงมะ แต่ตัวนี้คือตอบโจทย์เรามากจ้า เพราะเนื้อเค้าซึมไว ไม่ทิ้งความันบนใบหน้า แถมทำให้หน้าชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย รู้สึกว่าตอนนี้เหมือนผิวได้รับการปลอบประโลม ผิวดูสดใส สุขภาพดีขึ้นมากๆเลยค่ะ

สำหรับใครที่อยากลองใช้ ตอนนี้เราเห็นในเซเว่นเค้ามีแบบซองขายแล้วน้า และเราก็จัดแบบซองอีกสองสูตรมาลองแล้วด้วยค่ะ 555555 

รีวิว La Roche Posay Anthelios Shaka Fluid SPF 50+ PA++++ กันแดดเนื้อฟลูอิด

ตัวนี้ยกให้เป็นกันแดดในดวงใจอีกชิ้นเลยจ้า ส่วนตัวคือชอบมาก เพราะเราเป็นคนที่มีผิวผสม จะมันในช่วงทีโซนค่ะ ดังนั้นเวลาเลือกกันแดดก็จะเลือกตัวที่เนื้อบางเบา คุมมัน ซึมไว และตัวนี้ก็ตอบโจทย์มากๆ

เค้าบอกว่าอันนี้เป็นกันแดดเนื้อฟลูอิทค่ะ เป็นเนื้อที่ออกเหลวๆหน่อย เกลี่ยง่าย ซึมไว(มาก) ก่อนใช้ต้องเขย่าก่อนด้วยน้าาาาา ให้เนื้อกันแดดผสมเข้ากันค่า

ตัวนี้หลังทาแล้วไม่ทิ้งคราบขาว ไม่วอก ไม่ลอย ไม่เป็นคราบ ไม่ได้ช่วยปกปิดเด้อ เป็นกันแดดเน้นๆเลย สามารถใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการลงสกินแคร์ได้เลยค่ะ เค้าไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม หรือจะทาหลังจากแต่งหน้าเสร็จก็ได้เช่นกัน มันเลิศตรงนี้ ทาซ้ำ ทาทับระหว่างวันได้ด้วย เพื่อประสิทธิภาพที่ดีควรทาก่อนออกแดด 30 นาที และทาระหว่างวันทุกๆ 4-5 ชั่วโมงค่ะ

ตัวนี้กันนน้ำ กันเหงื่อได้ดีเลย สำหรับคนที่ผิวมัน หรือผิวผสมแบบเรา ถ้ากำลังมองหากันแดดอยู่ ลองซื้อตัวนี้มาใช้ค่ะ รับรองว่าเลิศ ^^

สวัสดีค่าทุกคนนนนนน วันนี้เค้าจะมารีวิว POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence ตัวที่พึ่งออกมาได้ไม่นานค่ะ

ก่อนจะไปดูรีวิวขอบอกสภาพผิวเราก่อน เราเป็ฯคนผิวผสม อายุ 26 และริ้วรอยเริ่มมาแล้วค่ะ!! โดยเฉพาะริ้วรอยร่องแก้ม เป็นอะไรที่เราหนักใจมาก ทำให้ไม่ค่อนอยากยอ้ม เพราะยิ้มที่รอยมาเต็ม หน้าดูแห้งเหี่ยวมากเลย พออ่านสรรพคุณขงตัวนี้แล้วก็อยากลองใช้ ดีใจมากที่ได้ทดลองจาก Cosmenet ค่ะ ไปดูกันเลย

เนื้อผลิตภัณฑ์ :: เนื้อเซรั่มเป็นใสๆ เนื้อบางเบาเลยค่ะ ตอนที่เราทาไปบนหน้าคือทาง่ายมากกกก เนื้อลื่นๆ บางเบา หยดแค่นี้เดียวก็ทาได้เกือบทั้งหน้าเลย แถมยังซึมไวด้วย หลังจากที่เนื้อเซรั่มซึมแล้วหน้าดูชุ่มชื้นขึ้นทันทีค่ะ ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้มเพิ่มเด้อ 

กลิ่น :: มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ผลิตภัณฑ์ : อันนี้ไม่แน่ใจว่าตัวหยดของเค้าตั้งใจทำมาให้ตอนกดหนึ่งครึ่งขึ้นมานิดนึงหรือเปล่านะคะ เพราะเราว่าถ้าเค้าตั้งใจทำมันดีสุดๆ เพราะเรากดครึ่งนึงเหมือนเค้าดึงเซรั่มมาให้พอดีปริมาณที่เราใช้เลย เราก็จะกดสองครั้ง เป็นปริมาณที่พอดีกับหน้าและลำคอ ไม่เยอะ ไม่น้อยจนเกินไปค่ะ

 วิธีใช้ :: ตัวนี้เราจะใช้ทั้งกลางวัน และกลางคืนเลย ใช้หลังจากที่ลงพรีเซรั่มเสร็จค่ะ ด้วยความที่เค้าซึมไว และไม่หนักหน้า ตอนเช้าเราสามารถทากันแดดทับไปอีกชั้นได้เลย ส่วนกลางคืนก็โบกครีมเพิ่มได้ตามสะดวกเลยค่า

ผลลัพธ์หลังใช้ 2 อาทิตย์ :: ในเรื่องริ้วรอย ด้วยความที่ริ้วรอยของเราตอนนี้ไม่ได้ชัดมากเท่าไร เลยอาจจะยังไม่เห็นผลในเรื่องนี้ค่ะ (แต่เราจะมีริ้วรอยร่องแก้มและใต้ตาบ้างแล้ว) อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ แต่ในเรื่องที่เราเห็นผลมากที่สุดและชอบมากๆเลยก็คือเค้าทำให้ผิวเราฟูม๊ากกกก ทำให้ผิวหน้าเราลื่นๆและนุ่มด้วยค่ะ ผิวอิ่มน้ำขึ้นเยอะมาก จากก่อนใช้ผิวจะค่อนข้างแห้งกร้าน แต่หน้าไม่ติด พอใช้ตัวนี้มาเรื่อยๆก็ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ รูขุมขนเล็กลง หน้ากระจ่างใสขึ้นด้วยนะคะ ผิวดูสุขภาพดีสุดๆ

ผลลัพธ์หลังใช้ 1 เดือนกว่า : ตอนใช้สองอาทิตย์อาจจะเห็นผลยังไม่ชัดในเรื่องริ้วรอย แต่พอใช้มาเรื่อยๆจนหมดไปครึ่งค่อนขวด ก็พบว่าคุณ!! ริ้วรอยร่องแก้มจางลงไปเยอะมาก ตอนแรกคือไม่ได้สังเกต จนตอนเอารูปมาเทียบกัน แบบตกใจมาก นอกจากหน้าจะชุ่มชื้นขึ้นแล้ว ริ้วรอยร่องแก้มจางลงไปเยอะมากค่ะ ทั้งๆที่ยิ้มเหมือนกันเลย เราซูมให้ดูกันชัดๆแบบไม่จกตา เราใช้ทั้งเช้ากลางวันเลยค่ะ คือประทับใจมาก ราคาก็ไม่แพง แถมผลลัพธ์คือเกินคาดไปมากๆจริงๆ และอีกอย่างที่ชอบมากคือเซรั่มมันเกลี่ยง่าย ดังนั้นเวลาใช้เราใช้แค่สองหยดทาได้ทั้งหน้าและคอเลย ใช้มาเดือนกว่าหมดไปแค่ครึ่งขวดนิดๆอีก เลิศเด้อ แปลว่าขวดนึงน่าจะใช้ได้ประมาณสองเดือนค่ะ 

โดยรวมคือประทับใจมาก ผลลัพธ์เกินคาดไปมากจริงๆ อยากให้ทุกคนได้ลอง จะได้รู้ว่าเราไม่จกตาเด้อ ราคาก็จับต้องได้ค่ะ

วันนี้เราไปก่อนน้า สวสัดีค่า xoxo

อ๊ะๆก่อนจะไปจริงๆ ใครที่อยากฟื้นฟูผิวเร่งด่วน สามารถใช้คู่กับ POND's Age Miracle Ultimate Youth Mask ได้เลยเด้อ เรามีรีวิวแยกแบบละเอียดไว้แล้วค่ะ สามารถไปดูได้เลย ใช้แผ่นเดียวหน้าเด้ง ชุ่มชื้นมั่กๆ ลองดูน้าาาาาา ไปจริงๆแล้วค่า บะบุยยย

เอาจริงๆตัวนี้เราเล็งมาค่อนข้างนานมากแล้วค่ะ ว่าอยากลองใช้ เพราะเห็นรีวิวมาจากหลายที่เลย แถมเพื่อนๆก็ยังมาบอกว่าเห๋ยมันดีเด้อ

จนได้ทดลองใช้จาก Cosmenet แล้วก็พบว่า.....มันดีจริงเว้ยยยยแกร!! คือตอนแรกที่ยังตัดสินใจซื้อไม่ได้อ่ะ เพราะเห็นขนาดขวดแล้วก็เออมันขวดเล็กจัง เทียบกับราคาจะคุ้มไหมเนี่ย แต่พอได้ใช้ก็รู้สึกว่ามันคุ้มแหละ

ตัวนี้จะเป็นสูตรไฮยาที่ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นของผิวนะคะ เนื่องจากเราเป็นคนที่ผิวผสม เดี๋ยวแห้ง เดี๋ยวมัน และขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้นด้วย เนื้อเซรั่มเกลี่ยง่าย ลื่น หยดนิดเดียวทาได้ทั้งหน้าเลย ซึมไวไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้แล้วรู้สึกหน้าชุ่มชื้นขึ้น ปลอบประโลมผิวได้ดีเลยจ้า นี่ลองใช้แฟนใช้ ปกตินางจะไม่ชอบทาสกินแคร์ตอนเช้าเพราะบอกว่าเหนียว แต่นางชอบตัวนี้นะ นางบอกไม่เหนียวหน้าดี ใช้แล้วมันดูหน้าอิ่มๆ 555555

สรุปเลยว่าชอบจ้า ผลลัพธ์เกินคาดเราไปมากๆ 
ถามว่าหมดแล้วซื้อต่อไหม ซื้อแน่นอนนน เย้

เป็นมาส์กที่ฟื้นฟูผิวได้ไวมากกกกก
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ มาส์กเกาะหน้าค่อนข้างดีเลยค่ะ 
ทำให้ตอนมาส์กไม่ต้องกลัวลื่นหลุดจากหน้าเลย

หลังจากมาส์กทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วลอกออก
รู้สึกเลยว่าหน้าชุ่มชื่นมาก นุ่มด้วย รู้สึกเหมือนได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่เลยค่ะ รู้สึกสบายหน้ามากๆ เราได้จาก cosmenet พอได้ลอง ใช้แล้วคือซื้อมาใช้เองต่อเลยจ้า ชอบมากกกกก

เนื้อเป็นเนื้อน้ำนม สีออกชมพูหน่อยๆ สำหรับเรารู้สึกว่าซึมไวอยู่นะ แต่ไม่ค่อยสบายหน้าเท่าไร หลังจากทาแอบหนักหน้านิดหน่อย  สำหรับคนที่ผิวมัน ผิวผสมแบบเราค่ะ แต่เราว่าคนที่ผิวแห้งน่าจะชอบเลย

ช่วยปรับผิวหน้าให้สว่างและเรียบเนียนขึ้น สามารถใช้แทนรองพื้นได้เลย วันไหนที่อยากแต่งหน้าแบบเบาๆ

กันเหงื่อ กันแดดได้ดี ไม่ไหลเยิ้มระหว่างวัน แต่ไม่ค่อยคุมมันเท่าที่ควรค่ะ สรุปว่าเค้าเหมาะสำหรับคนผิวแห้ง หรือคนที่ต้องทำงานในห้องแอร์ ที่ๆ อากาศไม่ค่อยร้อนค่า

เนื้อเซรั่มเข้มข้นมาก ตอนแรกคิดว่าทาแล้วจะต้องหนัก และเหนียวหน้าแน่ๆ แต่พอได้ลองใช้กับผิวหน้าจริงๆคือเค้าซึมไวมากค่ะ เกลี่ยง่ายด้วย หลังจากเซรั่มซึมก็ไม่ทำให้หน้ามันด้วยเด้อ สาวผิวมัน ผิวผสมแบบเราคือเลิฟๆเลย

เนื้อเซรั่มไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีสารกันเสียทุกชนิด ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายมากค่ะ

ตอนนี้เราทดลองใช้มาได้ประมาณเกือบๆ 1 อาทิตย์ รู้สึกได้ว่ารูขุมขนแอบกระชับขึ้นจริงๆ แถมหน้าไม่มันวาวด้วยค่ะ ในส่วนของเรื่องพวกรอยดำ รอยกระต่างๆอาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ 

เอาเป็นว่าเซรั่มตัวนี้เราให้สามผ่านเลยจ้า เลิศ !

สวัสดีค่ะทุกคนนน วันนี้เราจะมารีวิว โทนเนอร์ Clean & Clear Essentials Oil-Control Toner กันค่าาาาาา

ต้องบอกเลยว่าโทนเนอร์ตัวนี้เป็นอะไรที่เราเห็นมาอย่างยาวนานหลายปีมากๆ เราใช้ตั้งแต่ช่วง ม.ต้นเลยค่ะ เพราะช่วงวัยรุ่นคือหน้าเป็นสิวผดค่อนข้างเยอะเลย จนพอเข้ามหาลัย และมาทำงานก็หยุดใช้ไป เพราะคิดว่าเค้าน่าจะเหมาะกับพวกเด็กๆวัยรุ่นมากกว่า 555555 

และวันนี้เราก็ได้กลับมาองใช้อีกครั้งค่ะ และก็จะมารีวิวให้ทุกคนดูด้วย !
หลังจากที่เราล้างหน้าเรียบร้อย เราก็จะมาใช้เจ้าโทนเนอร์ตัวนี้เช็ดหน้ากันอีกครั้งค่ะ เขย่าก่อนใช้ด้วยเด้อ

แพ็คเกจ : ตัวนี้แพ็คเกจเหมือนเดิมเลย ตั้งแต่เรายังวัยรุ่นจนตอนนี้ แต่นั่นก็ทำให้เป็นภาพจำค่ะ คนจะจำได้

กลิ่น : ตัวนี้เราขอหักคะแนนเพราะเค้าเหมือนจะมีกลิ่นแอลกอฮอล์ด้วย

เนื้อสัมผัส : เป็นน้ำสีฟ้าใสๆ

ผลลัพธ์ : หลังจากที่เราล้างหน้า แล้วใช้ตัวนี้เช็ดแล้ว บอกเลยว่าหน้าเราหลังจากล้างคือยังไม่สะอาดพอ เพราะเช็ดแล้วสำลีดำมากกกก 555555 ตัวนี้คือคุมมันดีสุด เช็ดหน้าแล้วรู้สึกว่าหน้าสะอาดเลยค่ะ ไม่มันด้วย ใช้ไปเรื่อยๆพวกสิวผดก็แอบน้อยลง แต่เราว่าเค้ายังไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายเท่าไรค่ะ หักแค่ตรงกลิ่นแอลกอฮอลแรงไปหน่อย นอกนั้นเรื่องคุมมัน เรื่องสิว เรื่องให้ความชุ้มชื้นผิวคือดีมากจ้า

รีวิว "นูโทรจีนา ดีพคลีน คุชชั่นโฟม"
โฟมล้างหน้าตัวแรกที่ล้าง PM 2.5 ได้สะอาดล้ำลึกถึง 99%

ด้วยความที่อากาศหลายๆวันเต็มไปด้วยฝุ่น PM 2.5 หรือแม้แต่ในทุกๆวันที่เราต้องออกไปเจอมลภาวะทางอากาศ แสงแดด ฝุ่น ดังนั้นการล้างหน้าของเราถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการกำจัดเจ้าพวกนี้ออกจากใบหน้ากันเลยค่ะ ! และวันนี้ เราก็ได้ "นูโทรจีนา ดีพคลีน คุชชั่นโฟม" มาลองใช้ เราไปดูผลลัพธ์ของเค้าดีกว่า

แพ็คเกจ : แพ็คเกจสวยงามตามแบบของนูโทรจีน่าค่ะ คือเห็นปุ๊บรู้เลยว่าเป็นของยี่ห้อนี้

เนื้อโฟม : เนื้อตัวนี้ตอนบีบออกมาจะเป็นสีขาวข้นเลยค่ะ เนื้อแน่นมาก และพอผสมน้ำแล้วถูกๆ เค้าก็จะค่อยๆเกิดฟอง ฟองเยอะมากกกกกกก เป็นฟองที่หนาๆนุ่มๆเลย เค้าเรียกกันว่าคุชชั่นโฟมนั่นเองงงงง

กลิ่น : ตัวนี้ไม่มีกลิ่นค่า มั่นใจได้เลยว่าเค้าไม่ผสมแอลกอฮอลและน้ำหอมแน่นอน สำหรับเรารู้สึกว่าคนแพ้ง่ายใช้ได้

ผลลัพธ์หลังใช้ : อันนี้เราลองล้างหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางแบบไม่ได้ใช้คลีนซิ่งเช็ดออกก่อนเลยค่ะ ปรากฏว่าเค้าล้างเครื่องสำอางได้ออกแบบหมดจดเลย เว้นตัวมาสคาร่ากันน้ำ อันนี้ยอมแพ้จริง ต้องใช้รีมูฟเวอร์อายจริงๆ 5555555 แต่พวกแป้ง ลิป คิ้ว ตา ปากอื่นๆคือล้างสะอาดหมดเลยเด้อ แถมหลังล้างด้วยน้ำเปล่าหน้าไม่เอี๊ยดด้วย หน้ายังคงชุ่มชื่นอยู่ รู้สึกได้เลยว่าหน้าสะอาดมาก พอลองนำโทนเนอร์มาเช็ดหลังล้างหน้าแล้ว สำลีคือแทบไม่ดำเลยค่ะคุณ เค้าล้างสิ่งสกปรกออกจากใบหน้าได้สะอาดจริง 

ถ้าใครที่ต้องเผชิญมลภาวะทางอากาศ ฝุ่น ควันต่างๆ เครื่องสำอางต่างๆแบบเรา เราแนะนำเลยค่า อ่อนโยนด้วย เลิฟ

รีวิวโลชั่นทาผิว Aveeno Daily Moisturizing Lotion
สูตร Daily Moisturizing สำหรับผิวแห้ง !

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อสีขาวข้น แต่ไม่เหนียวจนเกินไป ซึมไว ซึมง่าย

กลิ่น : ไม่มีกลิ่นเลยค่ะ ชอบมาก ให้ความรู็สึกธรรมชาติสุดๆ

ผลลัพธ์ : ชอบมากกกกกกก ปกติคือเราจะเป็นคนที่ขี้เกียจทาโลชั่น แล้วก็ดันชอบอาบน้ำอุ่นอีก เลยทำให้นานๆไปผิวก็แห้ง แตก แล้วก็คันค่ะ เราลองใช้ตัวนี้ทาผิวเราคือเนื้อโลชั่นเค้าเข้มข้นมาก แต่ไม่ได้เกลี่ยยากเท่าไร ซึมค่อนข้างไวเลย ไม่เหนียวผิว แถมยังให้ความรู้สึกว่าผิวชุ่มชื่นสุดๆไปเลยจ้า ตอนกลางวันก็จะทาบางๆก่อนไปทำงาน ตอนกลางคืนคือโบกไปเลยหนาๆ หลังจากใช้มาแค่ 3-5 วันก็เห็นผลแล้วน้าว่าผิวเราชุ่มชื่นขึ้นเยอะมากค่ะ ตรงที่แห้ง แตกและคันก็ค่อยๆดีขึ้นเลย คิดว่าถ้าหมดขวดนี้ก็จะซื้อมาใช้เพิ่มแน่นอน จัดให้เป็นโลชั่นลูกรักอีกตัวเลย ที่สำคัญ คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้นะจ้ะ เค้าอ่อนโยนมาก แนะนำโดยแพทย์ผิวหนังเลย เด็กน้อยก็ใช้ได้ค่ะ เราเคยเห็นวางขายอยู่ในแผนกสินค้าเด็กตามห้างด้วย เลิฟมากกกกก 

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อข้นมากกกกกก มีความเหนียวเล็กน้อยตามฉบับครีมกันแดดค่ะ ต้องทาไปสักพักถึงจะซึม 

กลิ่น : ตัวนี้เราว่าไม่มีกลิ่นเลยค่ะ

ผลลัพธ์ : ด้วยความที่เค้าเนื้อข้น เวลาทาก็จะเหมือนตัวเนื้อโลชั่นเคลือบผิวอยู่ เป็นเกราะกันแสงแดดอีกชั้นเลยค่ะ เหมาะกับทาออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งมากกกกก เราทาก่อนลงว่ายน้ำ ขึ้นมาคือผิวคล้ำขึ้นนิดเดียวเอง แถมยังไม่ต้องรอนานด้วย ทาแล้วสามารถออกแดดได้ทันที กันน้ำได้ดีมากค่ะ และอีกอย่างที่ชอบคือ เค้าเป็นครีมกันแดดที่ไม่มีสารป้องกันแสงแดด อ็อกติโนเซท (Octinoxate) และอ็อกซิเบนโซน (Oxybenzone) ที่ทำร้ายปะการัง และทำให้ปะการังเกิดการฟอกขาวอีกด้วย สามารถทาแล้วลงเล่นน้ำทะเลได้ค่ะ และตัวโลชั่นยังทำให้ผิวรู้สึกชุ่มชื่นด้วย เลิฟฟฟฟฟฟ

ปล.เหมาะกับทาไปทำกิจกรรมที่ต้องโดนแดดแรงๆน้า เช่นพวกว่ายน้ำ หรือกีฬากลางแจ้งค่ะ เพราะเนื้อเค้าข้นมาก 

สวัสดีเพื่อนๆชาว cosmenet ทุกคนนะค้าาาาา หายหน้าหายตาไปนาน วันนี้เรากลับมาแล้ววววว เย้ๆๆๆ และวันนี้จะมารีวิว "ครีมลดเลือนริ้วรอย Neutrogena Rapid Wrinkle Repair Regenerating Cream" ครีมลดริ้วรอยออกใหม่ของ Neutrogena นั่นเองงับ พร้อมแล้วไปดูกัน!

แพ็คเกจ : ตัวนี้มาในแพ็คเกจสีเทาเมทัลลิก มีความวิ้งวับๆที่กระปุกด้วย

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมเป็นสีขาว ค่อนข้างข้นเลย ครีมค่อนข้างเนียนเลยค่า

กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆไม่ฉุนจนเกินไปค่ะ

ผลลัพธ์ : ตัวเนื้อครีมข้นๆแต่ว่าเกลี่ยง่ายและค่อนข้างซึมไวเลยค่ะ เราจะมีปัญหาริ้วรอยช่วงร่องแก้ม แล้วก็หน้าจะค่อนข้างแห้งขาดน้ำค่ะ เราใช้ตัวนี้ทาตอนกลางคืน แบบโปะๆหนาๆแทนมาส์กไปเลย ตื่นมาคือหน้านุ่มม๊ากกกกกกก ชุ่มชื่นแบบดีมากเลย แล้วก็วันไหนที่คิดว่าจะต้องแต่งหน้า เราก็จะใช้ตัวนี้ทาค่ะ เ้าทำให้เราแต่งหน้าติดทนและผิวชุ่มชื่นอิ่มน้ำเลย ส่วนผลลัพธ์ในเรื่องริ้วรอยอาจจะยังไม่เห็นผลมากเท่าไร เราคิดว่าเรื่องริ้วรอยต้องใช้เวลามากกว่านี้ค่ะ อันนี้เราทดลองใช้มาเกือบๆ 2 อาทิตย์งับ แต่ที่เห็นผลมากๆเลยคือในเรื่องของความชุ่มชื่นของผิวหน้าเลย เลิฟมากเด้อ ผิวแบบนุ่มๆ เด้งๆ และดูยืดหยุ่นมากเลยค่า เลิฟๆ

Review BIODERMA Sensibio Gel Moussant

แพ็คเกจ : ขวดสีชมพูฟรุ้งฟริ้ง หัวปั้มกดง่าย มีที่คาดผมน่ารักๆแถมมาด้วย ชอบมากกกกก ใช้คาดตอนล้างหน้าได้ดีเลยค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อเจลใส ไม่มีสี ฟองไม่เยอะมากเท่าไร แทบจะเหมือนไม่มีฟองเลยค่ะ 

กลิ่น : ไม่มีกลิ่นเลยค่ะ ชอบบบบบ

ผลลัพธ์หลังใช้ : หลังจากได้ทดลองใช้มาประมาณ 1 อาทิตย์ก็คือชอบมากกกก เพราะเค้าอ่อนโยนสุดๆไปเลย เนื้อเจลฟองไม่ค่อยเยอะจนแทบเหมือนไม่มีฟองเลย แต่พอล้างแล้วรู้สึกสะอาดนะคะ หลังจากที่ล้างคือไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเลยค่ะ ผิวหน้ายังรู้สึกว่ามีความชุ่มชื้นอยู่เลย ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี เหมาะกับคนที่แพ้ง่ายมากๆเลย เราลองให้คุณแฟนที่ผิวแพ้ง่ายกว่าเราสามเท่าใช้ดู สรุปว่านางก็ไม่แพ้นะคะ นางบอกอ่อนโยนดี ผู้หญิงใช้ได้ ผู้ชายก็ใช้ได้เลยจ้า

ยิ่งเราใช้คู่กับตัวเช็ดหน้าของสูตรนี้แล้ว ยิ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีเลยค่ะ เลิฟๆ

[Review] De Leaf Thanaka Duo Translucent Loose Powder แป้งฝุ่นโปร่งแสง เนื้อนุ่มละเอียดบางเบา รวม 2 เฉดสี พร้อมคุณสมบัติครบครันไว้ในหนึ่งเดียว!

แพ็คเกจ : แพ็คเกจน่ารักมากก ตัวตลับเปิดมาจะเจอพัพ พัพนุ่มมากค่ะ หนาด้วย มีที่ใส่นิ้วทำให้จับถนัดมือ มีพลาสติกปิดกันแป้งหก และตรงฟังก์ชั่นหมุนเพื่อเปลี่ยนแป้งชอบมากค่ะ ครีเอทมาก ใช้ง่ายด้วย

กลิ่น : เราว่ากลิ่นเค้าบางมาก ขนแทบจะไม่มีกลิ่นเลยค่ะ เราชอบนะ

เนื้อสัมผัส : เนื้อแป้งละเอียด เกลี่ยง่าย

ผลลัพธ์หลังใช้ : เริ่มจากตัวบิดที่ 1 แป้งทานาคา : เนื้อแป้งจะเป็นสีออกเหลือง ซึ่งเรารู้ดีอยู่แล้วว่าทานาคาเค้าช่วยในเรื่องคุมมันได้ดีมาก ทาแล้วหน้านวล คุมมันได้ดีจริงๆค่ะ

บิดที่ 2 ทับทิม : อันนี้ถือว่าแปลกสำหรับเรา เพราะเราไม่เคยใช้แป้งทับทิมมาก่อน ตัวนี้เนื้อแป้งสีชมพู มีความวิ้งๆชิมเมอร์เล็กๆ ทาแล้วหน้าดูวิ้งๆวับๆเลยค่ะ สว่างใสขึ้น

บิดที่ 3 ทับทิม+ทานาคา : อันนี้ดี! ดีมากกกกก เราชอบมาก เพราะแป้งสองตัวนี้ตอนผสมกันคือลงตัวมาก ปกปิดไม้ไม่มากนะคะ ด้วยความที่เค้าเป็นแป้งโปร่งแสง จะเน้นในเรื่องควบคุมความมัน ทาบางๆ ไม่ทำให้หน้าดูหนาเกินไป เอาไว้ใช้แบบวันเบาๆอยากพักหน้าอะไรแบบนั้น เพราะนอกจากจะเป็นแป้งแล้วเค้ายังช่วยบำรุงหน้าเราด้วย ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาตินั่นเอง เนื้อแป้งเกลี่ยง่าย ยิ่งใช้พัพยิ่งง่ายเลยค่ะ ส่วนตัวแล้วชอบมาก เพราะเราจะติดแป้งฝุ่นอยู่แล้ว นอกจากจะต้องไปออกงานถึงจะใช้รองพื้นกับแป้งพัพค่ะ 

สวัสดีเพื่อนๆชาว cosmenst ทุกคนจ้าววววว วันนี้เราจะมารีวิว Sun Body Daily Protect Whitening Sun Serum SPF50 PA+++ กันแดดเนื้อเซรั่ม ที่นอกจากจะกันแดดแล้ว ยังช่วยปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอไม่เป็นผิวสองสีแบบลาเต้ด้วยค่า

บรรจุภัณฑ์ : ขนาดใหญ่ ใช้ได้นาน ตรงฝาขวดจะมีซีนสีเหลืองไว้กันคนเปิดอีกหนึ่งชั้น ดีมากกก

เนื้อผลิตภัณฑ์ : อันนี้คือชอบมากกกกกกกก เพราะเนื้อของนางเป็นเซรั่ม ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ยิ่งอากาศแบบบ้านเรา ออกไปข้างนอกทีคือโลชั่นที่ทาไปละลาย เหนียวม๊ากกก เนื้อตัวนี้คือซึมไว เกลี่ยง่าย ทาง่าย ชอบมากค่ะ

กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนเกินไป

ผลลัพธ์หลังใช้ : ตอนนี้ได้ลองใช้ติดต่อกันเป็นขวดที่สองแล้วค่า ขวดแรกได้จาก cosmenet แล้วก็ชอบมากเลยไปซื้อใช้ต่อเอง 55555 รู้สึกชอบมากกกกก ซึมไว ไม่เป็นคราบ ไม่เหนียว ผิวกระจ่างใสขึ้นเยอะเลย คาดว่าอีกไม่นานผิวลาเต้ของเราต้องกลับมาเนียนสวยเหมือนเดิมแน่ๆ นอกจากจะกันแดดแล้ว ยังช่วยปรับสภาพผิวอีก จะมีอะไรเลิศไปกว่านี้ ><

Review Shu Uemura Brow Unlimited สี Babelicious Purple

- อันนี้ต้องบอกเลยว่าชอบมากเหมือนกัน ด้วยความที่เราจะต้องแต่งหน้าคอสเพย์แบบบ่อยๆอยู่แล้ว ยิ่งเจอมาสคาร่าของตัวนี้ไป นางดีตรงที่ว่าสามารถใช้ได้ทั้งปัดขนตา และยังสามารถปัดขนคิ้วได้ด้วย

- สีสวย เม็ดสีชัด และติดทนมากกกกกกกกกก

- หัวแปรงขนาดกำลังพอดีมือ ใช้ง่ายมากค่ะ ได้ทั้งขนตาบน ขนตาล่าง และขนคิ้วเลย

- แห้งไว ไม่เกาะเป็นก้อน ติดทน กันน้ำกันเหงื่อได้ในระดับนึง ถ้าไม่ไปแช่น้ำยังไงก็ไม่หลุดค่ะ 

Shu Uemura Waterpaint: Ink สี Berry Red

- เราค่อนข้างชอบเลย หัวแปรงคือมันจะคล้ายๆพู่กัน ไม่เหมือนหัวแปรงของอายไลเนอร์ทั่วไปที่เราเคยใช้ เราว่าเขียนง่ายมากกกกก

- สีสวยและติดทนสุดๆ แต่เราว่าเนื้อของเค้าจะค่อนข้างบาง ให้อารมณ์แบบวาดสีน้ำเลย ถ้าอยากให้เข้มๆต้องย้ำอย่างน้อยสองรอบ 

- สีที่ลองใช้เป็นสี Berry Red หลังจากทาออกมาแล้วสีค่อนข้างไปทางแดงจนเกือบม่วงเลยค่ะ สีสวยมั่กๆ

- เนื้ออายไลนเนอร์แห้งไวมากกกกก ไวจนแอบตกใจเลย กันน้ำ กันเหงื่อได้ในระดับนึงเลย เราทาออกไปถ่ายรูปทั้งวัน ก็ยังไม่เลือนนะคะ แต่นางล้างออกง่าย ไม่ต้องถูแรงเลย

แพ็คเกจ : ตัวนี้เห็นครั้งแรกเรานึกถึงผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายเลยค่ะ เพราะมันเด่นและแปลกมาก ด้วยความที่ขวดเป็นสีดำด้วย แต่เราว่าสวยดี แล้วก็แปลกใหม่สำหรับของผู้หญิงนะคะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นแบบคลีนซิ่งน้ำ และน้ำมันแยกชั้นก่อน ก่อนใช้ต้องเขย่าให้เข้ากันก่อน

กลิ่น : เป็นกลิ่นอ่อนๆ จนแทบไม่มีเลยค่ะ

ผลลัพธ์ : คือดีย์ ! นางล้างเครื่องสำอางออกหมดจดจริงๆ เครื่องสำอางกันน้ำก็สามารถเช็ดได้หมด ไม่ระคายเคืองด้วย สามารถใช้เช็ดที่ตาได้เลยค่ะ ไม่แสบตา ไม่แสบผิว อ่อนโยนสุดๆไปเลย หลังจากเช็ดแล้วไม่รู้สึกว่าหน้าแห้งตึงเกินไป หรือมันเกินไปนะคะ กำลังดีเลย หน้านุ่มชุ่มชื่น 

Review SNAILWHITE Crème Body Wash

สูตร AROMA RASHALL ROSE
ผ่อนคลายความตึงเครียด ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น เต่งตึง ด้วยสารสกัดจากดอกกุหลาบ ช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำความสะอาดผิวกาย ให้ผิวของคุณแลดูกระจ่างใสสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมช่วยปกป้องผิวจากแบคทีเรีย 

แพ็คเกจ : ขวดใหญ่มั่กๆ ใช้ได้นาน ตรงหัวปั๊มต้องบิดก่อนหนึ่งทีถึงจะามารถใช้ได้

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ปกติเราจะชินกับของ snail white ที่นางจะเป็นเนื้อข้นๆ ตบแล้วยืดๆ แต่พอมาเจอสูตรนี้ นางเป็นสูตรแบบเนื้อโลชั่นจ้า

กลิ่น : กลิ่นกุหลาบ แบบกุหลาบจริงๆเลย เหมือนอาบน้ำอยู่ในสปาเลยจ้า เราชอบมาก เพราะนางไม่ฉุนเกินไป ค่อนข้างผ่อนคลายตอนอาบ

ผลลัพธ์ : ตัวนี้ฟองค่อนข้างเยอะเลย แต่ล้างออกง่ายนะ ตอนล้างออกรู้สึกว่าผิวนุ่มๆลื่นๆ ไม่แห้งตึงเหมือนครีมอาบน้ำบางยี่ห้อที่เคยใช้ แต่รู้สึกว่าผิวสะอาดมาก แถมกลิ่นยังติดตัวอีกด้วย กลิ่นกุหลาบหอมอ่อนๆ ปกติเราใช้ยี่ห้อนี้อยู่แล้วค่ะ แต่ใช้กลิ่นอื่นสูตรอื่น พึ่งเคยลองสูตรนี้กลิ่นนี้ ชอบมากกกกกกกกก ซื้อต่อแน่นอนค่ะ 

วันนี้เราจะมารีวิว Natural Power C Miracle Brightening Complex Advanced Brightening Serum with 100% Pure Vitamin C 10% กันค่าาาาา 

โดยส่วนตัวคือใช้สูตรวิตามินซีของแบรนด์นี้อยู่แล้ว แต่ตัวนี้ยังไม่เคยลองเลยค่ะ เห็นรีวิวผ่านตามาเยอะมากเหมือนกัน จนทาง cosmenet ส่งมาให้ลองใช้ มาดูผลลัพธ์กันเล้ย

แพ็คเกจ : ขวดและกล่องสีส้มที่ดูแล้วต้องคิดถึง Vitamin C เลยจริงๆ ตัวขวดก็ใช้งานง่ายค่ะ เวลาจะใช้เราก็หมุนเพื่อให้ตัวปั๊มขึ้นมา ตอนใช้เสร็จก็หมุนกลับค่ะ เราว่ามันทำให้สะดวกมากขึ้นด้วยพอเป็นแบบนี้

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ในใจตอนแรกพอเห็นว่าเป็นเซรั่มเราก็จะคิดว่าเป็นเนื้อเหลวๆหนืดเล็กๆ แต่ของตัวนี้เป็นเนื้อที่เหลวและหนืดพอสมควรค่ะ เป็นเนื้อคล้ายๆ oil เลย แต่บางเบากว่า ที่แปลกคือนางซึมไวนะคะ ใช้แค่ 2-3 หยดทาได้ทั้งใบหน้าและลำคอเลย 

กลิ่น : ไม่มีกลิ่น

ผลลัพธ์หลังใช้ทันที : เราใช้ตอนกลางคืน ตื่นขึ้นมารู้สึกว่าหน้าเนียนขึ้น อิ่มน้ำขึ้นในระดับนึงเลย แต่งหน้าติดทนด้วย

ผลลัพธ์หลังใช้ 2 อาทิตย์ : ส่วนตัวคือชอบมากกกกก แต่เราจะติดตรงที่เราเป็นคนผิวผสม เลยจะใช้แค่ตอนกลางคืนเท่านั้น ด้วยความที่เนื้อนางค่อนข้างเหมือน oil เวลาทาไปซึมไวแต่ว่าจะคงความมันและความชุ่มชื้นบนใบหน้าอยู่มากกว่าครีมหรือเซรั่มทั่วไปค่ะ แต่คนผิวแห้งนี่คือใช้ดีทั้งกลางวันกลางคืนเลย เรารู้สึกว่าหน้ากระจ่างใสขึ้น เนี่ยนขึ้นด้วย และที่สำคัญคือรู้สึกเลยว่าพอใช้เจ้าตัวนี้ นางทำให้เราทาแป้ง หรือแต่งหน้าติดดีขึ้นค่ะ นอกจากหน้ากระจ่างใสขึ้นแล้ว พวกจุดแดง จุดดำก็ยังจางลงด้วย ผิวหน้าอิ่มน้ำ ชุ่มชื่นขึ้นเลยค่ะ 

สวัสดีจ้าทุกคนนนนนน วันนี้เราจะมารีวิว Concept Anti Melasma Cream (คอนเซ็ปท์ แอนตี้ เมลาสม่า ครีม) เป็นครีมทาฝ้านั่นเองงงงง

ด้วยความที่แดดเมืองไทยนั้นร้อนเกินบรรยาย ไม่ว่าจะไปมุมไหนก็เจอแต่แสงแดด นั่นทำให้พักหลังมานี้เราเริ่มมีฝ้าที่เกิดจากแสงแดด !! คุณพระ ไหนจะจุดด่างดำอีก คือปกติไม่เคยสังเกตุหน้าตัวเองดีๆเลย แล้วพอได้สังเกตุคือแบบ เห้ยแกนี่มันรอยอะไรรรรร !!! และก็ได้ความว่านางคือรอยฝ้าจากแสงแดด ที่กำลังก่อตัวขึ้นมา กำลังเข้มขึ้นเรื่อยๆ และเราโชคดีมากที่ไหวตัวทัน ได้มาลอง Concept Anti Melasma Cream ตัวนี้ ก่อนที่ฝ้าจะขึ้นเยอะและเข้มกว่านี้ เรามาดูผลลัพธ์กันดีกว่า

แพ็คเกจ : จริงๆชอบแพ็คเกจมาก ชอบกล่องที่เค้าให้มา มหึมาสุดๆ 55555 มาดูที่กล่องเล็กข้างใน เราชอบความตรงฝาเปิดมาเค้ามีเขียนบอกว่าให้ใช้จนหมดแบบตัดหลอดกันเลย เป็นการประหยัดและลดโลกร้อนด้วยนะเออ ส่วนตัวหลอดครีมสีขาวแดงตัดกัน ใช้ง่าย ฝาแน่นจ้า

กลิ่น : กลิ่นเค้าจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่แรง กำลังสบายจมูกเลย

เนื้อครีม : เนื้อครีมสีขาว เกลี่ยง่าย ตัวเนื้อครีมไม่หนาจนเกินไป ไม่เป็นคราบ ทาบางๆที่ฝ้าได้เลย

วิธีใช้ : หลังล้างหน้า เช็ดหน้าให้แห้ง ทาครีมบาง ๆ บริเวณที่เป็นฝ้า ทุกเช้าและก่อนนอนได้เลย และตรงนี้สำคัญมาก !! ใครที่เคยใช้ครีมทาฝ้าของตัวอื่นอยู่ ให้หยุดใช้ก่อน 1 สัปดาห์เพื่อให้หน้าได้พักและปรับสมดุลของผิวเรานะคะ ถึงจะมาเริ่มใช้ตัวใหม่นี้ได้

ผลลัพธ์หลังใช้ทันที : หลังทาแล้วเรารู็สึกว่าครีมมันเกลี่ยง่าย ซึมไว และไม่เป็นคราบด้วย ที่สำคัญคือนางไม่แห้ง ทาไปแล้วยังมีความชุ่มชื่น อาจจะเป็นเพราะนางมีส่วนผสมของสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าเราด้วยแหละ ดีไปอีก 

ผลลัพธ์หลังใช้ 1 อาทิตย์ : หลังใช้มาสักพักเราก็ยงไม่รู้สึกว่าฝ้าเราจางลงเท่าไร ก็เริ่มงอแงหาข้อมูลเพิ่มเติม เท่าที่หารีวิวคือมีแต่คนบอกนางใช้ดีเด้อ เอ้ะหรือหน้าเราหนาไป 55555 จนได้ความว่าไอ้ฝ้าแดดฝังลึกเนี่ย เอาจริงๆมันหายยากม๊ากกกกกก ถึงมากที่สุด ไอ้ 1 อาทิตย์เนี่ยยังไม่เห็นผลหรอกคุณ ต้องอย่างน้อย 3 อาทิตย์ขึ้นไป คือถ้าครีมตัวไหนรักษาฝ้าได้ภายใน 1 อาทิตย์นี้ฟันธงได้เลยว่าต้องมีสารอันตรายแน่ๆ ส่วนตัวครีมทาฝ้าคอนเซ็ปท์เนี่ย เราหาข้อมูลมาแล้วว่าประกอบไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ Alpha-Arbutin ที่ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง และสถาบัน Spincontrol Asia ซึ่งปลอดภัย หน้าไม่บาง ไม่ทำร้ายผิวแน่นอน ดังนั้นเราเลยต้องใช้ต่อไปเรื่อยๆจนครบ 3 อาทิตย์

ผลลัพธ์หลังใช้ 3 อาทิตย์ : เห้ยแกรรรรรรร ฝ้ามันจางลงจริงๆอะ ไม่ใช่แค่ฝ้านะ จุดด่างดำช่วงนั้นของเราก็จางลง จางลงแบบเห็นได้ชัดเลยละ ถึงจะยังไม่หายสนิทก็เถอะ เพราะยังไงฝ้าพวกนี้ก็หายยากอยู่แล้ว ได้ผลลัพธ์มาแบบนี้เราโครตพอใจแล้วเลย เอาจริงๆคือหาข้อมูลนานมากนะกว่าจะตัดสินใจลอง เพราะบางคนเคยใช้บางยี่ห้อแล้วมันกัดแสบหน้าอะ แต่ด้วยที่ตัวนี้ของเค้ามีส่วนผสมคือ Alpha Arbutin 1.2% และ Vitamin B3 (Niacinamide) ที่ทั้ง 2 ตัวนี้ มีคุณสมบัติช่วยลดเม็ดสีผิว(หรือเม็ดเมลานีน) และยังทำให้กระ ฝ้าจางลงได้อีก เลยทำให้รู้สึกว่านางแก้ปัญหาในเรื่องของการเกิดฝ้าได้ดีทีเดียว หน้าไม่ด่างเป็นวงอีกด้วย เอาไปเลย 10 10 10 จ้าาาาา  

แล้วก็จะบอกเพื่อนๆว่า อย่าปล่อยให้ฝ้าขึ้นจนกลายเป็นฝ้าฝังลึกนะคะ เราต้องรีบแก้ไขให้อย่างตรงจุด เรายังดีที่สังเกตุเห็นก่อน ตั้งแต่นางยังไม่เข้มมากจนต้องหลั่งน้ำตา เลยรีบหาทางแก้ไขได้ทัน   

และสำหรับใครที่อ่านรีวิวนี้แล้วรู้สึกว่าชั้นต้องโดนแล้วละ ! สามารถหาซื้อได้ที่ Watsons,CJ Express ร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ หรือ สั่งซื้อ สินค้า Online ผ่านทาง LAZADA  , Line @ConceptCream เลยนะจ้ะ      

สวัสดีเพื่อนๆชาว Cosmenet ทุกคนนะคะ 

วันนี้เราจะมารีวิว Ultimate Renewal Concentrated Serum เซรั่มบำรุงผิวสูตรเข้มข้นจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยสารสกัดธรรมชาติพิเศษเฉพาะจาก Oriental Princess ไม่ต้องห่วงเลยว่าจะมีสารอันตรายที่ทำให้เราแพ้ เพราะ Oriental Princess เค้าคิดค้นสูตรนี้ขึ้นมา จากสารสกัดธรรมชาติเลยค่ะ ปลอดภัยแน่นอน

ที่เค้าบอกมาว่า นอกจากจะช่วยในเรื่องริ้วรอย ทั้งแนวตั้ง แนวนอน แนวลึกแล้ว เค้ายังช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นบนใบหน้า แน่นอนว่าถ้าหน้าเราชุ่มชชื่นอิ่มน้ำแล้ว จะทำให้หน้าดูเต่งตึง ริ้วรอยจางลงด้วยค่ะ

และต้องขอบอกทุกคนไว้ก่อนเลย ว่าเราและคุณแม่เป็นแฟนคลับของ Oriental Princess อยู่แล้ว สกินแคร์และน้ำหอมที่ใช้ 70% เป็นของแบรนด์นี้ทั้งหมดเลยค่ะ คุณแม่ชอบมาก

มาเกริ่นกันมายาวแล้ว เรามาดูถึงตัวผลิตภัณฑ์ และผลลัพธ์กันดีกว่า

ตัวผลิตภัณฑ์ : เริ่มตั้งแต่กล่องเลย กล่องดูพรีเมี่ยมมากเพราะเป็นสีที่เรียบหรู ดูแพง และเป็นกล่องที่เป็นสีแมตต์ เลยทำให้ทั้งดูหรูและทันสมัยไปในตัว ส่วนตัวขวดผลิตภัณฑ์เป็นขวดที่ดูแพงเช่นกัน สีสวยทั้งฝาและตัวขวดเลย ในมุมมองของเราที่เป็นนักออกแบบ เราว่าเค้าออกแบบมาได้ดีมาก สีลงตัวกัน เข้ากันได้ดีสุดๆสำหรับตัวนี้ ตัวหัวปั๊มใช้ง่าย กดง่าย สะดวกใในการใช้ ฝาปิดแน่นค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดถ้าจะพกออกไปต่างจังหวัด แน่นหนาแน่นอน

ปริมาณบรรจุ : 30 ml. ราคา : 1,375 THB 

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อเซรั่ม ที่ไม่เหลวและไม่ข้นจนเกินไป เนื้อเซรั่มกำลังพอดี เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เป็นคราบ ไม่หนักหน้าและไม่เหนียวหน้าเลยค่ะ

วิธีใช้ : ใช้เป็นขั้นตอนก่อนที่เราจะลงสกินแคร์ตัวอื่นนะคะ ใช้ได้ทั้งกลางวัน และกลางคืนเลย

กลิ่น : ถ้าใครใช้แบรนด์ Oriental Princess อยู่แล้ว จะรู้เลยว่าสินค้าของแบรนด์นี้เค้าจะมีกลิ่นค่ะ ซึ่งตัวนี้ก็เช่นกัน เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน ไม่แสบจมูก เราว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่เราดมแล้วรู้สึกผ่อนคลายนะคะ 

ปัญหาริ้วรอยของเรา : ก่อนจะพูดถึงผลลัพธ์ เราอยากจะพูดถึงปัญหาริ้วรอยของเราก่อน หลายๆคนจะชอบคิดว่าคนอายุ 25 แบบเราจะมีริ้วรอยแล้วหรอ ซึ่งบอกเลยว่า มีค่ะ เราจะมีเรื่องปัญหาของริ้วรอยร่องแก้ม จริงๆคือเราเริ่มมีปัญหานี้มาตั้งแต่ประมาณอายุ 22 แล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้ชัดมาก และเราก็เป็นคนนึงที่เคยคิดว่าเอ้อฉันอายุยี่สิบต้นๆเอง จะมีริ้วรอยได้ไง จนปล่อยปะละเลยมาถึงอายุ 25 ริ้วรอยร่องแก้มเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ชัดจนตอนนี้คือเห็นตั้งแต่ระยะไกลเลยค่ะ ยิ่งถ้าเราหัวเราะหรือยิ้มมากๆ ริ้วรอยยิ่งเห็นชัดมากกกกกกกก ชัดจนเพื่อนหลายคนทักเลยค่ะ บางทีทำให้ไม่ค่อยกล้ายิ้มมากๆ หรือหัวเราะแรงๆด้วย เพราะจะทำให้เห็นริ้วรอยชัดไปอีก เคยหาข้อมูลว่าจะไปเติมร่องแก้มให้ตึง ก็สู้ราคาไม่ไหว และมันต้องไปทำตลอดเลย จริงๆคือ BA ที่ร้านเคยแนะนำเรามาก่อนแล้วค่ะ แต่ด้วยความที่เรายังไม่เปิดใจว่าสกินแคร์จะช่วยได้มากกว่าการไปฉีด เลยยังไม่ลอง จนได้สินค้าทดลองมาจาก cosmenet เราเลย เอาสิ่!ลองสักตั้งก็ไม่เสียหายเนอะ

ผลลัพธ์หลังใช้ทันที : ตอนใช้ไม่ต้องกดออกมาเยอะนะคะ 2-3 ปั้มคือทาได้ทั้งหน้าทั้งคอเลยค่ะ ด้วยความที่ตัวเซรั่มซึมไว ไม่เหนียวหน้าค่ะ หลังทาแล้วมีความรู้สึกว่าหน้าชุ่มชื่นขึ้นกว่าเดิม รู้สึกเด้งๆ อิ่มๆ ส่วนตัวแล้วชอบนะคะ เพราะไม่ทำให้หน้าแห้ง หรือเหนียวจนเกินไป 

ผลลัพธ์หลังใช้ 2 อาทิตย์ : ให้ภาพมันเล่าเรื่องได้เลยค่า ริ้วรอยร่องแก้มเราคือตื้นขึ้นมามากกว่าเดิมค่ะ ริ้วรอยดูจางลงมากจริงๆ คือเอาจริงตกใจนะคะ ว่าสกินแคร์มันช่วยเรื่องริ้วรอยได้ขนาดนี้เลยหรอ เราว่าส่วนนึงเป็นเพราะหน้าเราค่อนข้างแห้งตรงส่วนแก้มและปากด้วย ทำให้เห็นริ้วรอยชัดกว่าเดิม และเซรั่มตัวนี้นอกจากเค้าจะช่วยในเรื่องริ้วรอยแล้ว เค้ายังช่วยในเรื่องกักเก็บความชุ่มชื่นให้ใบหน้าด้วย คือตัวนึงได้ทั้งลดริ้วรอย และช่วยเรื่องความชุ่มชื่นเลยค่ะ ดีมากๆเลย ตอนที่หัวเราะหนักๆอาจจะยังเกิดริ้วรอยอยู่ แต่ไม่ชัดเท่าตอนก่อนใช้แล้วค่ะ ทิ้งไว้สักพักผิวก็เด้งกลับมาเหมือนเดิม ไม่ค่อยเห็นริ้วรอยแล้ว บอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ กับราคานี้แต่ได้ผลลัพธ์เท่านี้ ต่อจากนี้ก็กล้าหัวเราะเยอะๆ และยิ้มเยอะๆ ไม่กังวลริ้วรอยร่องแก้มแล้วค่ะ ^^ ตอนนี้เราก็ใช้มาเกือบเดือนแล้ว ริ้วรอยเราจาง และตื้นขึ้นเยอะมากค่ะ

และหลังจากเราได้ลองใช้จนเห็นผลลัพธ์แล้ว วันแม่ปีนี้เราได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดพอดี เห็นคุณแม่บ่นว่าครีมหมดแล้ว เลยเซอร์ไพร์ด้วย Ultimate Renewal Concentrated Serum ตัวนี้เล้ยยยยยย แถมแป้งให้ด้วยอีกหนึ่งตลับ คุณแม่ยิ้มแก้มปริเลยค่า นอกจากผิวเราจะกลับมาสดใส และดูเด็กลงแล้ว เราก็ยังอยากให้คุณแม่กลับมามีผิวสดใสและเด็กเหมือนกันด้วยค่ะ เราจะสวยไปพร้อมๆกันเลย ตามสโลแกน "ผู้หญิงอย่าหยุดสวย" แม้จะอายุมากน้อยแค่ไหนก็ต้องสวยไว้ค่ะ เย้ !

ใครที่อ่านรีวิวแล้วสนใจ ก็สามารถไปซื้อมาทดลองใช้ได้นะคะ ที่ร้าน Oriental Princess ทุกสาขาเลย (แอบกระซิบว่าใครเป็นสมาชิกเค้าจะมีส่วนลดให้ตลอดเลยค่ะ และบางครั้งยังมีของแถมให้ด้วย คุ้มมาก)

สำหรับวันนี้เราขอตัวพาคุณแม่ไปเที่ยวก่อน ถ้ามีโอกาสจะมาอัพเดตผลลัพธ์หลังคุณแม่ได้ทดลองใช้นะคะ แต่เราเชื่อว่าคุณแม่ต้องชอบมากแน่ๆ เพราะเราชอบ ฮ่าาาาาา สวัสดีค่าาาา ^^

โดยส่วนตัวไม่เคยใช้ลิปของ Lancome เลย เคยใช้แต่รองพื้น 

วันนี้ได้ลองใช้ลิปรุ่นนี้ เบอร์ 378 สี Rose Lancome เป็นเนื้อแมทท์ 

คือชอบมากกกกก นางแมทท์ แต่ไม่ได้แมทท์จนแห้งนะคะ เป็นแมทท์แบบ Velvet matte คือยังคงความนุ่ม ชุ่มชื่น แต่ไม่วาว อันนี้คือเราลองปาดนิดเดียวแล้วใช้นิ้วแท็บๆเอาให้ทั่วปาก สีละมุนมาก

จริงๆครั้งแรกเห็นสีก็แอบตกใจเพราะมันดูเข้ม ดูแบบชมพูบานเย็น แต่พอทาลงปากจริงๆ สวยเด้อออออ สีติดทนทั้งวันไปอีก ชอบมาก

ชอบมากกกกกกกกก 

ตัวนี้เป็น SPRING 2017 Collection

เราได้คุชชั่น เบอร์ 00 เป็น Highlighter มา

สีสวย เกลี่ยง่าย ไม่หลอกตา ช่วยให้หน้ามีมิติมากๆ หรือจะช่วยตบๆในตอนที่อยากจะแต่งหน้าฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลีก็ได้

ตลับน่ารัก พกพาสะดวกค่ะ 

ปกติเราจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสิว สิวส่วนมากจะเป็นสิวฮอร์โมนเลย

แต่เวลาสิวขึ้นทีคือนางจะอักเสบมาเลยจ้าาาาา เม็ดใหญ่ หัวใหญ่มาเลย

เห็นรีวิวตัวนี้ว่าดี เราเลยลองซื้อมาใช้ มาดูผลลัพธ์กัน

แพ็คเกจ : แพ็คเกจขาวเขียวตามฉบับของ Eucerin เป็นแบบหัวปั้ม ขวดขนาดปานกลาง แต่เราว่าใช้ได้นานเลยละ

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อเป็นสีเหลืองอ่อนๆ กดนิดเดียวใช้ได้เยอะ เกลี่ยง่าย ซึมไว และไม่เป็นคราบเลย

ผลลัพธ์ : ตัวนี้เราได้มาตอนที่สิวกำลังเปล่งและอักเสบพอดีเลย ครังแรกไม่ได้อ่านละเอียดมาก นึกว่าเค้าให้ทาแต้มแค่ที่หัวสิว แต่พอมาอ่าน เอ้าเค้าทาได้ทั้งหน้าไปอีก แถมยังช่วยคุมมันบนใบหน้า ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว และยังลดสิวอุดตันได้ด้วย ในรูปคือเราใช้ต่อเนื่องแค่ 3 วันเอง วันแรกคือสิวค่อยๆยุบแบบเห็นได้ชัดเลย ทั้งที่ปกติสิวอักเสบเรานางจะอยู่เป็นอาทิตย์ สองอาทิตย์เลย แถมทิ้งรอยดำไว้ด้วย ทาก่อนออกจากบ้านคือคุมมันตลอดทั้งวัน หน้าแมตต์ไปอี๊ก ชอบก็ตรงนี้ เพราะเราเป็นคนที่ผิวผสม คือมันในช่วงบริเวณที่โซนนั่นเอง

ใครที่สนใจก็ลองไปหามาใช้กันได้นะ

ตอนนี้ที่วัตสันมีโปรโมชั่นอยู่ แถมมีทั้งเซ็ตเลย


#Eucerin #ยูเซอริน #EucerinProAcne #EucerinMATTFLUID

สวัสดีเพื่อนๆชาว cosmenet ทุกคนน้าาาาาาาา
วันนี้เราจะมารีวิว Smith Prive' Aesthetique Total Sunscreen SPF50+ PA+++ ครีมกันแดดตัวดังจาก Smith หรือคุณหมอโอ๊คนั่นเอง

ซึ่งตัวนี้ก่อนจะทดลองเราได้อ่านรีวิวมาจากหลายๆที่ แล้วก็รู้สึกว่าเออ มันน่าใช้แฮะ น่าลองมาก มาดูผลลัพธ์กัน

แพ็คเกจ : ต้องบอกเลยว่าชอบแพ็คเกจมากกกกก ด้วยความที่ทุกอย่างเป็นสีขาว ทำให้ผลิตภัณฑ์ดู minimal ดูเรียบหรูน่าใช้สุดๆ ไปเลย ทั้งตัวกล่อง ที่ตัวหลอดครีม ตัวหลอดใช้ง่าย บีบง่าย ฝาก็หมุนง่ายสุดๆ

เนื้อครีม : ตอนแรกที่เราลองลงเนื้อครีมที่มือก็ตกใจนิดหน่อย เพราะเนื้อครีมมีสีเนื้ออ่อนๆด้วย เราก็เกรงว่าถ้าลงที่หน้า หน้าจะลอยหรือเปล่า สรุปพอได้ลองลที่หน้า มันไม่ลอยแฮะ มันเนียนไปกับผิวหน้าเลย ซึมไว ไม่เป็นคราบด้วย

กลิ่น : ไม่มีกลิ่นจ้า แถมยังไม่มีสารเคมีด้วย เหมาะกับผิวแพ้ง่าย (อันนี้เราคอนเฟริมเพราะเราลองใช้แล้วไม่แพ้แต่อย่างใด)

ผลลัพธ์หลังใช้ : นางคุมมันได้ดีในระดับนึงเลย แถมเรารู้สึกว่านางปรับผิวเราให้ไบร์ขึ้นด้วย ผิวดูสดใสขึ้นเลย กันแดดได้ดีสุดๆ นอกจากแสงแดดจากดวงอาทิตย์แล้ว แสงจากหน้าจอคอมก็กันได้น้า (เหมาะกับเราที่นั่งทำงานหน้าคอมมากๆ) หลังจากออกไปใช้ชีวิตทั้งวัน กลับมาก็รู้สึกว่าไม่ค่อยดรอปและไม่ค่อยมันมากกว่าเดิมเท่าไร ส่วนตัวโครตชอบ โดยเฉพาะที่นางไม่มีสารเคมี เหมาะกับคนแพ้ง่าย อันนี้ชอบมาก

มาดูสรรพคุณคร่าวๆของนางกัน

- ครีมกันแดดสูตรปราศจากสารเคมี จึงอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิว ปกป้องยาวนานตลอดวัน

- ปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB, รังสี Infrared และ Blue-Light แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์
- สูตรปราศจากสารเคมี จึงอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิว
- เนื้อบางเบา ไม่อุดตัน ไม่ก่อให้เกิดสิว
- ปกป้องยาวนานตลอดวัน

เป็นกันแดดที่เหมาะมากๆเลยสำหรับสาวออฟฟิตที่นั่งหน้าคอมแบบเรา 
สำหรับใครที่สนใจก็สามารถหาซื้อมาลองกันได้เลยน้า เราแนะนำจริงๆ

ราคาอาจจะแรงไป แต่เราว่านางใช้ได้นาน และสรรพคุณก็สมกับราคามากๆเลยเด้อ 

สวัสดีเพื่อนๆชาว cosmenet ทุกคนนนนนน มาเจอกันอีกแล้วนะคะ วันนี้เราจะมารีวิวรองพื้นของใหม่! LANCÔME Teint Idole Ultra Wear Foundation กัน !! ซึ่งเจ้าตัวรองพื้นอันนี้เป็นตัวที่พึ่งออกใหม่เลยจ้า และเค้าก็ผลิตมาเพื่อเอาใจสาวๆเอเชียแบบเราเลย เพราะเค้ามีเฉดสีให้เลือกถึง 24 เฉดสี ! คุณพระ เยอะมากกกกก นางเป็นรองพื้นเนื้อแมทท์ ที่คุมมันด้วย แถมมีค่ากันแดด spf ถึง 38 เลยทีเดียว ซึ่งเราว่ามันเหมาะกับบ้านเรามากกกกกกกกก พร้อมแล้วไปดูกันเล๊ย !!

- เริ่มจากผิวของเราก่อนเลย : สภาพผิวเราจะเป็นคนที่ผิวผสม คือจะมันในช่วงทีโซนนั่นเอง แถมดันมีภาวะผิวขาดน้ำด้วย ทำให้แต่งหน้าไม่ค่อยติด ทารองพื้นทีไรลอกเป็นขุยตลอด เราเลยไม่ค่อยใช้รองพื้นเลย แล้วก็เราเคยไปตรวจดูว่าผิวเราอันเดอร์โทนไหน ผิวเราอันเดอร์โทนออกไปทางเหลืองค่ะ 

- เบอร์ที่เราใช้คือเบอร์ B-03 เป็นเฉดสีโทนเหลือง เพราะเราเป็นคนที่ผิวออกไปทางอันเดอร์โทนเหลืองค่ะ แต่ทางผู้ตรวจเค้าก็บอกนะว่าเราไม่ได้เหลือง 100% เราสามารถใช้พวกแป้งหรือรองพื้นสีชมพูได้ แต่โดยส่วนตัวเราลองใช้พวกที่เป็นของผิวชมพูแล้วรู้สึกว่าหนาลอย และมันวอกมาก เลยไม่โอเคจริงๆ ขอใช้โทนเหลืองดีกว่า เบอร์ B-03 คือมันเข้ากับผิวเรามากที่สุดเลย คือกลืนไปกับผิวจรืงๆ หน้าเนียนสว่างขึ้นมาไม่เยอะมาก เพราะส่วนตัวเราชอบให้หน้าดูไม่วอก ให้ดูเป็นธรรมชาติค่ะ

  - แพ็คเกจ : แค่กล่องก็หรูหราแล้ว เป็นสีเงินเมทัลลิคหรูหรามาก ส่วนตัวขวดจะเป็นหัวปั้ม ใช้ง่าย กดง่าย ไม่เลอะมือ มีฝาปิดอย่างดี

- เนื้อสัมผัส : เนื้อรองพื้นตัวนี้เป็นเนื้อที่ค่อนข้างบางเบา แต่นางปกปิดดีมากกกกกกกกก เนื้อเกลี่ยง่ายสุดๆ เนียนไปกับผิวเลย ไม่ลอกเป็นขุยด้วย ปกติที่ไม่ชอบทารองพื้นเพราะรู้สึกว่ามันหนา แต่พอมาใช้ตัวนี้รู้สึกเลยว่ามันบางเบาจริง เหมือนไม่ได้ทารองพื้นเลย ไม่หนักหน้า แต่ปกปิดดีสุดอะไรสุด คุมมันด้วย  

- ความรู้สึกหลังใช้ : - เริ่มที่การคุมมันกับความติดทนเราให้ 9/10 เลย กรี๊ดมากกกกกกกก นางคุมมันดีอย่างที่บอกจริงๆ คือเราทาก่อนออกไปทำงาน ออกจากห้องตั้งแต่ 9:30 น. ละเดินทางแบบโลดโผนสุด ทั้งเดินไปห้อย BTS แบบคนเยอะๆ ร้อนก็ร้อน เดินออกมาเจอแสงแดดกับฝุ่นที่พร้อมจะเผาเราได้เลยไปอีก ทุกคนก็รู้ว่าบ้านเรานั้นร้อนแค่ไหน กว่าจะเดินถึงออฟฟิตก็แทบตาย เหงื่อไหลไคลย้อย กลางวันก็ฝ่าแดดออกไปทานข้าวอีก กว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาไปเกือบๆ 11 ชั่วโมง (คุณพระ) ถึงห้องประมาณ 20:00 เลย เดินไปส่องกระจก กร๊ดดดดด (อีกรอบ) เพราะหน้ายังนวลเนียนอยู่เลย รองพื้นยังติดทน ไม่ดรอปลงเท่าไรด้วย ไม่มันเยิ้มเหมือนทุกครั้งที่กลับถึงห้อง มีมันขึ้นบ้างจากตอนเช้าแต่ไม่เยอะมาก เพราะปกติถ้าเราถึงห้องหน้าจะเยิ้ม มันจนกลัวหน้าตัวเองเลยค่ะ ฮ่าาาาาา สภาพรูปเราคือไม่ได้แต่งหน้าเพิ่ม ไม่ได้ทาแป้งเพิ่ม ไม่ได้ซับมันใดๆทั้งสิ้นเลย สังเกตุได้จากตรงจมูกแอบมีรอยหยดเหงื่อด้วย เพราะมันร้อนมากจริงๆเธอ  

- การปกปิดเราก็ให้ 9/10 : นางปกปิดได้ดีมากนะ ในรูปคือเราใช้น้อยมาก บีบออกมาไม่เยอะ ทาได้ทั้งหน้า ปกปิดได้ดีเลย เบลอรูขุมขนได้ดีม๊ากกกกกกก แถมหน้าไม่วอก ไม่ลอยด้วย กลืนไปกับผิวแบบเนียนๆอย่างเป็นธรรมชาติเลย รักกกกกกกกกกกก  

- คะแนนรวมของตัวนี้เราให้ 9/10 ไปเล๊ยยยยยยยยยย ขอหัก 1 คะแนนที่ราคาอาจจะแรงไปสำหรับคนไม่มีเงินแบบเรา 5555555555 แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพนางดีมากนะคะ คุ้มมากซื้อเถอะขวดนึงใช้ได้นานสุดๆ   

สำหรับคนที่สนใจเราแนะนำให้ไปที่เค้าเตอร์นะคะ ไม่ควรสั่งออนไลน์ เพื่อไปเทสสีรองพื้นด้วยตัวเอง เพราะนางมีให้เลือกตั้ง 24 เฉดสีแหนะ คือมันเยอะมากจริงๆ ครั้งแรกเราดูเฉดสีทางออนไลน์ยังคิดว่าเออผิวเราน่าจะใช้เบอร์ B0-02 ได้แน่ๆ แต่พอไปลองเองที่เค้าเตอร์คือนางขาวกว่าผิวเราม๊ากกกก ตกใจเลย หน้าวอกไปอีก ทั้งๆที่ดูผ่านจอก็คิดว่าสีนี้แหละที่เหมาะแล้ว ดีที่ไม่โป๊ะเพราะไปลองเอง นี่ถึงกับไปลองแล้วบอกเค้าขอเวลาเดินเล่นโฉบเฉี่ยวไปมาสักพักก่อน เพื่อดูว่าหลังเวลาผ่านไปมันจะดรอปมันจะหมอง มันจะเยิ้มลงเยอะไหม (ต้องเลือกมากนิดนึงค่ะเพราะราคาไม่แพง ซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้มันจะเจ็บหัวใจ 555555)    อะสรุปแล้วคือนางดีเด้อ เกิดมาเพื่อสาวเอเชียมากๆ เกิดมาเพื่อสภาพอากาศบ้านเรามากๆ ควรไปตำเลยจ้าาาาาา 

ปล.สีรูปอาจจะไม่เหมือนกันนะคะ เพราะแสงตอนถ่ายมันดันไม่เท่ากัน แต่ให้โฟกัสดูที่การปกปิด และการคุมมันค่า

สวัสดีเพื่อนๆชาว cosmenet วันนี้มาเจอกันอีกแล้ว และแน่นอนว่าเจอกันทุกครั้งคือเราต้องมาสินค้าดีๆมารีวิวแน่นอน และสินค้าที่จะมารีวิวในวันนี้ก็คืออออออออ ครีมอาบน้ำ Parrot Natural Filler Hyaluron กลิ่น MORNING PEONY ที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอน ฟิลเลอร์ธรรมชาติ + ทริปเปิ้ลมอยส์เจอร์ เป็นกลิ่นหอมสไตล์หวานโรแมนติก จากดอกพีโอนี่ ที่เค้าเคลมว่ารังสรรค์โดย Perfume Master ระดับโลก! และเจ้าตัว เนเชอรัล ฟิลเลอร์ ไฮยาลูรอน ที่อยู่ในครีมอาบน้ำสูตรนี้เนี่ย มันจะทำให้ผิวเรา แลดูอ่อนเยาว์ ผิวชุ่มชื้นขั้นสุด ผิวเนียนเด้งอิ่มน้ำ สรรพคุณเยอะขนาดนี้ ไม่ลองไม่ได้แล้ว มีทั้งหมดสามขนาดนะจ้ะ คือ 90 มล. 200 มล. และ 450 มล. ดูแค่รูปถ่ายผิวและอ่านรีวิวอาจจะยังไม่ทำให้เชื่อ หรือเห็นภาพมากเท่าไร วันนี้เราเลยมีตัวช่วย นั่นก็คือ “เครื่องวัดความชุ่มชื้นในผิว” เลขข้างบนคือน้ำมัน เราไม่ต้องไปสนใจ เพราะเราจะมาดูเลขข้างล่าง คือค่าความชุ่มชื่นนั่นเอง วิธีใช้เจ้าเครื่องนี้ก็มีดังนี้ โดยเราจะทดสอบให้ดูบริเวณท้องแขน - วัดในอุณหภูมิห้องปกติ (ในหน้าร้อน) - อาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ - ตัวเลขบนจะเป็น ช่วงการวัดระดับน้ำมัน : 0 ~ 99.9% - ตัวเลขล่างจะเป็น ช่วงการวัดระดับความชุ่มชื้น : 0 ~ 99.99% - ค่าความชุ่มชื้นที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 45-55% (สำหรับอากาศของเมืองไทยเรา) ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย มาเริ่มกันที่สภาพผิวของเรา : จริงๆแล้วเราเป็นที่สภาพค่อนข้างแห้ง ก็คือวันไหนอาบน้ำเสร็จแล้วลืมทาโลชั่น ผิวจะแห้ง แตกเลยทีเดียว แล้วเราก็เป็นคนที่ค่อนข้างขี้ลืมด้วย บางทีอาบน้ำเสร็จก็ลืมทาโลชั่น เลยทำให้เราค่อนข้างพิถีพิถันในการเลือกครีมอาบน้ำ จะเลือกและลองใช้ครีมอาบน้ำที่มีคุณสมบัติทำให้ผิวชุ่มชื้นนั่นเอง และก็ได้เจ้า ครีมอาบน้ำ Parrot Natural Filler Hyaluron มาทดลองพอดี หลังจากได้อ่านคุณสมบัติของนางแล้วก็ยิ่งทำให้สนใจมากขึ้น ที่เราได้มาวันนี้จะเป็นกลิ่น MORNING PEONY ที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอน ฟิลเลอร์ธรรมชาติ + ทริปเปิ้ลมอยส์เจอร์ เป็นกลิ่นหอมสไตล์หวานโรแมนติก จากดอกพีโอนี่ ที่เค้าเคลมว่ารังสรรค์โดย Perfume Master ระดับโลกเชียว ! คุณสมบัติครบขนาดนี้ ไม่ลองไม่ได้แล้ว เนื้อผลิตภัณฑ์ : จะเป็นเนื้อสีชมพูอ่อนฟรุ้งฟริ้ง มีความเหลวแบบครีมอาบน้ำปกติ ฟองค่อนข้างเยอะ แม้ไม่ได้ใช้ที่ตีฟอง ใยตีฟอง แถมล้างออกง่าย แต่ถ้าใครที่ชอบฟองแบบฟูๆ หนาๆ ก็สามารถใช้ใยตีฟองในการอาบน้ำได้ จะแบบใช้ใยหรือไม่ใช้ใยตีฟอง ก็อาบน้ำได้ฟินเหมือนกัน กลิ่น : กลิ่นหอมมากกกกก แค่เปิดฝามากลิ่นก็ตีจมูกแล้ว แถมยังติดทนเกือบทั้งวันอีกด้วย อาบไปผ่อนคลายไปกับกลิ่น ชอบนกแก้วก็ตรงนี้ เหมือนอาบน้ำท่ามกลางกลิ่นดอกไม้จริงๆ ได้อาบน้ำแถมยังฟินไปกับกลิ่น ไม่มีอะไรจะผ่อนคลายไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว ยิ่งถ้าได้อาบไปแช่น้ำในอ่างไป ให้ความรู้สึกแบบอยู่สปาเลย ฮ่าาาาาา ^^ ตัวผลิตภัณฑ์ : ชอบความกราฟฟิกบนขวดที่มีความฟรุ้งฟริ้ง ล้อมลอบปด้วยดอกไม้ ดูโดยรวมแล้วทำให้รู้สึกถึงความหรูหรา ดึงดูดใจ แต่ก็ยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของความเป็นครีมอาบน้ำนกแก้วนะจ้ะ จะมีทั้งขนาดพกพาที่เป็นขวดแบบบีบง่าย และขนาดใหญ่เป็นขวดปั้มที่ก็ใช้งานง่ายเช่นกัน ก่อนใช้ : จากรูปคือจะเห็นได้เลยว่าผิวเราแห้งมาก เข้าขั้นวิกฤตกันเลยทีเดียว ความชุ่มชื้นแทบไม่มีเลย อีกหน่อยคงแห้งเหมือนทะเลทราย 55555 เพราะแบบนี้ไงคนขี้ลืมแบบเราถึงต้องซีเรียสกับการเลือกใช้ครีมอาบน้ำมากๆ ต้องใช้แบบที่ทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นจริงๆ เผื่อวันไหนลืมทาโลชั่น หลังใช้ทันที : เอ้อ !!! อยากจะอุทานออกมาดังๆ เห้ยแก ! มันดีมากเลยเว้ย ! ดูจากเลขบนเครื่องวัด ความชุ่มชื่นของผิวเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างเยอะเลย บอกเลยว่านี่แหละคือครีมอาบน้ำที่ตามหามานาน เพราะลองใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำยี่ห้ออื่น หลังจากอาบเสร็จก็มีแต่ทำให้ผิวแห้งมากกว่าเดิม TT จะบอกเลยว่าครีมอาบน้ำตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งแบบเรามากๆเลย เราว่าน่าจะเป็นเพราะมีไฮยาลูรอน กับทริปเปิ้ลมอยส์เจอร์จากธรรมชาติเป็นส่วนผสมด้วยแหละ เลยช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่น เนียนเด้งอิ่มน้ำแบบนี้ ทั้งหอม ทั้งทำให้ผิวอิ่มน้ำ ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ผลลัพธ์หลังใช้ 1 อาทิตย์ : รู้สึกได้เลยว่าผิวชุ่มชื้นขั้นสุด ผิวเนียนเด้งขึ้น และดูอิ่มน้ำมากขึ้น และพอผิวอิ่มน้ำ และชุ่มชื่นมากกว่าเดิม มันเลยทำให้ผิวของเรานั้นดูอ่อนเยาว์ลงจากเดิม เพราะผิวไม่แห้ง ไม่แตก ไม่เหี่ยวอีกแล้ว วันไหนที่ลืมทาโลชั่นหลังจากอาบน้ำ เราก็ไม่กลัวผิวแห้งอีกแล้ว กรี๊ดดดดด ฟินมาก ทุกวันนี้ก็กล้าอวดผิวมากขึ้น ผิวหอมทั้งวัน แถมยังเนียน นุ่ม เด้ง จนตอนนี้ใช้ขวดเล็กหมด ก็รีบพุ่งตัวไปซื้อขวดใหญ่มาตุนไว้เลย อยากจะลองให้ครบทุกกลิ่น แต่ต้องค่อยๆใช้ให้หมดไปทีละขวดก่อน ^^ สำหรับสบู่เหลวอาบน้ำ Parrot Natural Filler Hyaluron เค้ามีให้เลือกด้วยกัน 4 กลิ่นนะจ้ะ คือ - MORNING PEONY (กลิ่นดอกพีโอนี่) ที่เรามารีวิว - SECRET BLOSSOM (ดอกทิวลิป) - FRESH BREEZE (ดอกไวท์ ทิวลิป) - SOFT CASHMERE (ดอกแดฟโฟดิล) ใครชอบกลิ่นไหนก็ไปเลือกซื้อกันได้เลยนะจ้ะ ขอบอกเลยว่าของเค้าดีจริงๆ ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวปกติ หรือผิวมันก็ใช้ได้น้าาาา ^^

เช็ดล้างเครื่องสำอางค์ได้หมดจด เพียงแค่แปะทิ้งไว้ไม่กี่วิแล้วรูดออกได้เลยค่ะ ที่สำคัญไม่ระคายเคือง ไม่แห้งตึงเลย หลังจากเช็คแล้วให้ความรู็สึกว่าผิวชุุ่มชื่นดีค่ะ

ใช้แล้วหน้าไม่แห้ง ตึง ชอบตรงที่หลังล้างหน้าแล้วหน้านุ่มมากกกกก จับแล้วหยุ่นๆเลย กลิ่นหอมเฟรชๆ ล้างเครื่องสำอางค์ได้หมดจดดีค่ะ ฟองนุ่ม แต่ฟองไม่ค่อยเยอะมากเท่าไร รวมๆแล้วเลิฟเลยยยย

สวัสดีชาว cosmenet ทุกคนค่าาาาาา วันนี้เราจะมารีวิว NIVEA Sun Protect & White Instant Aura Serum SPF50+ PA+++ กัน !! ตัวแพ็คเกจ : ตัวแพ็คเกจจะเป็นหลอด พกพาสะดวก แถมบีบใช้ง่าย เค้าปรับแพ็คเกจและสูตรใหม่ทำให้สะดุดตามากขึ้นด้วยสีชมพูฟรุ้งฟริ้งนั่นเอง เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นสีชมพูอ่อน เนื้อครีมเป็นเซรั่ม เกลี่ยง่าย ล้างออกง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่หนักหน้า ผลลัพธ์ : ครั้งแรกที่อ่านสรรพคุณและเห็นสีของเนื้อครีมก็คิดเหมือนกันว่าจะรอดไหม หน้าจะเทาไหม จะหนักหน้าเหมือนทารองพื้นหนาๆหรือเปล่า แต่พอได้ลองใช้ เห้ย ! มันดี ! มันเป็นเนื้อเซรั่มที่เกลี่ยง่าย แถมยังทำให้หน้าดูสว่างขึ้น แบบไม่วอกจนเกินงาม ปกปิดได้ในระดับนึง ไม่เป็นคราบ แถมช่วยให้แต่งหน้าติดทน คือลองทาแล้วออกไปข้างนอกทั้งวัน ผิวแทบไม่ดรอปลงเลย ไม่ค่อยมันด้วย ซึ่งปกติเราจะเป็นคนผิวผสม จะมันในช่วงทีโซนนั่นเอง กันแดดได้ดีจ้า ออกแดดทั้งวันหน้าไม่หมองเลย เย้ คะแนน 10/10 ไปเลย ชอบมากกกกกกกกก

ขอเกริ่นก่อนว่าเราเป็นคนมีผิวผสม เป็นผิวมันในช่วงทีโซน เลยใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสำหรับคนผิวมันมาตลอด แต่มาช่วงหลังๆรู้สึกทำไมผิวอยู่ดีๆก็แห้ง แต่บางทีก็มัน และผิวลอก เราเลยสับสนว่าตกลงเราเป็นคนผิวแบบไหนกันแน่ เลยได้มีโอกาสไปตรวจสภาพผิว สรุปคือเราผิวผสม (มันช่วงทีโซน) แต่มันขาดน้ำ !!! และไอ้ผิวขาดน้ำเนี่ย มันเลยทำให้ผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ ไม่สดใส และมันมากกว่าเดิม ในชั้นผิวของเราจะมีน้ำและน้ำมันเป็นส่วนประกอบ น้ำจะอยู่ชั้นบนสุด และเป็นน้ำมัน และทีนี้พอน้ำในผิวเราน้อย ทำให้บางครั้งหน้าเราก็มันมากๆ เพราะเราไม่มีน้ำไปกักเก็บความมันบนชั้นผิว ทำให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น มากขึ้น จนหน้าเยิ้ม กลายเป็นคนหน้ามันที่ดูหมองคล้ำไปด้วย เศร้า TT จนได้มาเจอกับเจ้าสิ่งนี้ !! Eucerin Aquaporin Active Gel Cream ที่เค้าเคลมมาว่าเหมาะกับคนผิวขาดน้ำมากๆ เพราะเจ้าตัวนี้มันจะช่วยฟื้นบำรุงผิวบอบบาง ขาดน้ำ และยังสร้างเกราะความชุ่มชื้น กักเก็บน้ำในผิว เพื่อผิวเนียนนุ่ม ดูมีสุขภาพดีอีกด้วย ตัวผลิตภัณฑ์ : กระปุกสีขาว สวยๆคลีนๆ พอเปิดฝามามีตัวซีนครีมไว้ด้วย กลิ่น : ตัวนี้จะไม่ผสมน้ำหอม แต่ก็มีกลิ่นของผลิตภัณฑ์จางๆ เฟรชๆ เนื้อผลิตภัณฑ์ : ดูด้วยตานางจะเป็นเนื้อครีมสีขาว แต่พอทาลงไปบนผิวนางกลายเป็นเจลเว้ย ! และบางเบามาก ผลลัพธ์หลังใช้ทันที : หน้าชุ่มชื่นขึ้นทันทีจริงๆ รู้สึกผิวอิ่มขึ้นทั้งวัน แถมยังบางเบา สบายหน้า ผลลัพธ์หลังใช้ 1 อาทิตย์ : หน้าอิ่มขึ้นมากกกกกกก ชุ่มชื่นขึ้น พอผิวเราเริ่มกลับสู่ปกติ หน้าก็มันน้อยลง เย้ ที่สำคัญ นางเหมาะกับคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายด้วยนะ ใครที่กำลังมีปัญหาของภาวะผิวขาดน้ำ แนะนำตัวนี้จริงๆจ้า นางดีจริงๆ รักเลย <3

วันนี้จะมารีวิว White Beauty BB CC Cream SPF30 กันจ้า ^^ นอกจากจะเป็น BB+CC ครีมที่เค้าเคลมว่าปกปิดพร้อมบำรุง เบลอรูขุมขน รอยดำ แถมยังกันแดดด้วย SPF 30 PA+++ ด้วย ! กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนเกินไป แพคเกจ : มีขนาดปานกลาง ดูน่ารักน่าใช้ ผลลัพธ์หลังใช้ : หน้าดูอิ่ม สว่างใสขึ้น ปกปิดรอยได้ค่อนข้างดี คุมมันระดับปานกลาง เราจะใช้สำหรับผิวขาวและผิวสองสีผสมกัน เพื่อไม่ให้ขาววอกจนเกินไป แต่ถ้าวันไหนอยากแต่งลุคเกาหลีก็ใช้แบบสำหรับผิวขาว วันไหนอยากสายฝอก็จัดสำหรับผิวสองสีไปเลยจ้า และสำหรับผิวสองสีเราสามารนำมาปรับใช้เป็นคอนทัวร์ได้อีกด้วย ว๊าวววว ประโยชน์เยอะจริงๆ

ขออภัยทุกคนนน รีวิวนี้อาจไม่ค่อยสุภาพเพราะมีแต่รูปเท้า แฮ่ >"< และเจ้าสิ่งนี้ก็คือ มาร์คเท้าของ Baby Foot สินค้าขายดีอันดับ 1 ที่ญี่ปุ่น เค้าเคลมว่ามันจะขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพภายใน 1 อาทิตย์ หลังจากเท้าเริ่มลอก จะเผยเท้าเนียนนุ่มดุจเท้าเด็กกันเลยทีเดียว . หลังจากเราได้ลองใช้แล้วมันเวิคมาก ตั้งแต่แพ็คเกจที่เป็นพลาสติกให้เราสวมเข้าไป ไม่ทำให้เลอะเทอะ กลิ่นหอมไม่แสบจมูก หอมอ่อนๆ เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติแหละแก ไม่โม้ให้เสียเวลา แต่มีรูปมาให้ดู จริงๆเขินมากเพราะเท้ามีความด้านสุด 555555555 พลีชีพสุด ตอนนี้เท้านุ่มขึ้นมาก ของเค้าดีจริง แอบแพงนิดนึง แต่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์และความคุ้มค่าบอกเลยว่าดีมากกกกกกก เหมาะสำหรับคนที่ต้องใส่รองเท้าเปิดส้นมากกกๆๆๆ คนที่ทำงานแบบต้องยืนบนเวที โชว์ส้นเท้าอันเนียนนุ่ม เหมาะมากเวอร์ ไปตำค่าาาาาาาา

สวัสดีสาวๆ cosmenet ทุกคนนนนน วันนี้เราจะมารีวิว Dove Moisture Care Treatment ที่เค้าเคลมว่าเป็น Best seller ที่ญี่ปุ่นกัน ! มาเริ่มต้นที่สภาพผมเราก่อนเลย : เนื่องจากเราเป็นคนที่ชอบทำสีผม กัดผม ดัดผม ทำเคมีต่างๆ แต่ ! ดันขี้เกียจดูแล ล่าสุดก็ไปกัดผมมาจนผมแห้งเสีย ไม่มีน้ำหนัก ชี้ฟู จนคิดอยากจะซอยทิ้งให้มันจบๆไป แต่ก็เสียดายผม TT แล้วก็ได้เจ้าตัว Dove Moisture Care Treatment สำหรับผมที่แห้งเสียมากมาใช้ มาดูผลลัพธ์กันเลย! แพ็คเกจ : ขนาดใหญ่มากกกกก น่าจะใช้ได้นานพอสมควรเลยละ กลิ่น : โดฟจะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่แล้ว ถ้าใครที่ใช้โดฟจะจำกลิ่นได้ดี เพราะกลิ่นของโดฟจะเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างเฟรชๆ ไม่ฉุนจนเกินไป เนื้อครีม : เนื้อครีมตัวนี้คือข้นมากกกกกก ถึงมากที่สุด ข้นขนาดที่ว่าคว่ำมือลงยังคงเดิมเลย 55555 เนื้อเป็นสีขาวขุ่นๆ แต่ดันล้างออกง่ายสะงั้น ไม่เหนียวเหนอะหนะเส้นผมแน่นอน ล้างแล้วก็สบายหัว ไม่หนักหัว วิธีใช้ : ตัววิธีใช้คือน่าสนใจมาก เพราะเค้าบอกว่าให้ชโลมทิ้งไว้หลังสระผมเพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้น และใช้เพียงแค่กลางผมถึงปลายผม ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่าง (ตอนแรกก็คิด 30 วิจะมาทำอะไรกับผมเราที่เสียขนาดนี้ได้ ?) ผลลัพธ์หลังใช้ทันที : รู้สึกได้ตั้งแต่ใช้ครั้งแรกเลยค่ะว่าผมนุ่มขึ้น ทิ้งตัวมากขึ้น ไม่ชี้ฟูเท่าตอนแรก เพียงแค่ 30 วินาทีตามที่เค้าบอกเท่านั้น โดฟทำได้จริงๆ แต่สำหรับคนผมเสียกู้ยากแบบเรา อยากเห็นผลลัพธ์ที่มากกว่านี้ เลยขอลองใช้ไปเรื่อยๆสัก 1 อาทิตย์ก่อน ค่อยตัดสินใจมารีวิว ผลลัพธ์หลังใช้ 1 อาทิตย์ : คุณพระ !! เชื่อแล้วว่าของเค้าดีจริงๆ ผมทิ้งตัวลงเยอะมากกกกก ไม่ค่อยชี้ฟูเท่าเดิมอีกแล้ว ผมที่เสีย ที่แตกปลายก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังใช้โดฟแค่เป่าให้แห้งผมก็ทิ้งตัวสวยแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้าทั้งหนีบ ทั้งไดร์แปปเดียวผมก็แห้ง ชี้ฟู แล้วก็ไม่อยู่ทรงแล้ว เป็น 1 อาทิตย์ที่คุ้มค่ากับการลองใช้โดฟตัวนี้มาก ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ ใช้จริง รีวิวจริง ดีจริง ! ตามที่โดฟเค้าบอกไว้ว่า ความสวยใครกำหนด? ผมแบบไหนก็มั่นใจ หลังจากนี้ก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าเวลาทำเคมีกับผม ไม่ว่าจะย้อม ดัด หรือทำอะไรแล้วผมจะแห้งเสีย เพราะเราค้นพบโดฟตัวนี้แล้ว เอาอยู่แน่นอน รัก -3- สำหรับใครที่อยากหามาลองใช้ดูบ้าง ตอนนี้เค้ามีขายที่ Tops เท่านั้นเด้อออออ อยากให้ลองจริงๆ ^^ ปล.ผมยังเป็นสีเดิม แต่ที่ดูแตกต่างเพราะหลังจากใช้โดฟแล้วผมส่วนที่เป็นสีดำมันทิ้งตัว ไม่แดะเหมือนตอนก่อนใช้ เลยจะยาวปิดสีทองข้างในไว้ ไม่ได้ย้อมผมใหม่นะฮับ ^^

ด้วยความที่เป็นแฟนคลับของ NYX อยู่แล้วด้วย เซตนี้ถือว่าเป็นเซตที่คุ้มมากกกกกก มีเฉดสีให้ใช้หลากหลาย เม็ดสีแน่นชัด แพ็คเกจพกพาสะดวก แถมยังสวย และมีกระจกในตัว เรียกได้ว่าเซตเดียวอยู่เลย รักเลยค่ะ <3

ขอเกริ่นก่อนว่าเราเป็นคนที่ผิดค่อนข้างขาดน้ำ ที่เกิดจากหลายๆปัจจัย เช่น ดื่มน้ำน้อย ไม่ค่อยทาโลชั่น ไม่ได้ผิวแห้งแต่กำเนิด เลยทำให้ผิวลอกเป็นขุยอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะหน้าหนาว จนมาเจอเจ้าโลชั่นตัวนี้ Eucerin pH5 Lotion กลิ่น : มีกลิ่นหอมอ่อนๆไม่ฉุนมาก เนื้อโลชั่น : เนื้อโลชั่นค่อนข้างเหลว ซึมไว และคงความชุ่มชื้นได้ดีมาก ผลลัพธ์หลังใช้ : ผิวชุ่มชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย มันจะนุ่มๆ หลังจากใช้ไปได้สักพักผิวดีขึ้นมากกกกกก ชุ่มชื่น ผิวที่เคยแห้งจนลอกเป็นขุยๆเริ่มดีขึ้น ที่สำคัญไม่แพ้เลย !! เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายมากๆค่ะ แนะนำสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง และผิดวขาดน้ำค่ะ ^^ #Eucerin #ยูเซอรินพีเอช5 #EucerinpH5 #pH5LOTION