Profile

เราได้สูตรผิวแห้ง ขาดน้ำมาค่ะ คือตกใจมากกก มันดีกว่ารุ่นที่ขายในไทยอีกอะ มันไม่แสบหน้า ล้างเครื่องสำอางได้สะอาด โอเคว่าพวกมาสคาร่าอะไรคงไม่ออก แต่เราว่าเคลนซิ่งที่ดีนอกจากจะล้างได้สะอาด จะต้องไม่ทำให้ผิวตึง และแสบหน้า ซึ่งอันนี้ตอบโจทย์ และฉีกภาพลักษณ์เคลนซิ่งตัวเดิมที่คนบ่นๆกันเลยค่ะ

ลิปมีกลิ่นหอมแบบเดียวกันทุกสีเลย หอมเหมือนขนม เนื้อลิปมีความอะเมซิ่งวาวคล้ายกลอา สีเนียนชัดสม่ำเสมอเหมือนลิปแมทมากๆ โดยเฉพาะ3สีสุดท้าย ติดทนจนนึกว่าเป็นทิ้นท์ มีหลายสีให้เลือกใช้ตามความชอบ บางคนอาจไม่กล้าทาลิปสีฉูดฉาดเค้าก็มีสีนู้ดให้ บางคนอยากได้ความฝดใฝก็จัดไปสีแดง ส้ม แอนด์ชมพูววว สรุป ชอบมากค่ะ ป.ล.ลิปติดทนขนาดที่มีหลงหยิบสี energy peach ติดมือไปเลยอ่า แหม่ 555555 เก๊ามะได้เล่นเลย

ความรู้สึกตอนใช้คือ แปลกใจไปจากที่คิดไว้ตอนแรกมาก เพราะกันแดดนีเวียเป็นกันแดดที่หลายคนไม่ค่อยโอเค เพราะความรู้สึกฝังใจว่ามันหนืด เกลี่ยไม่ไป แต่ตัวนี้ทำได้ดีขึ้น เนื้อกันแดดมีความเหลว เกลี่ยง่าย พอทาเสร็จอาจจะมีความมันติดที่ผิวนิดหน่อย คนผิวมันจะไม่ชอบ แต่เราผิวแห้ง ค่อนข้างโอเค เพราะการที่มีอะไรติดผิวนิดๆแบบนี้เหมือนได้ทาครัม ถ้าแห้งไวไปรู้สึกว่ามันไม่มีครีม ไม่เห็นผล 5555 สำหรับการกันน้ำของเราไม่เห็นผลค่ะ ถ้าเจอน้ำแล้วถูแรงๆ หลุดแน่นอน เหมาะสำหรับวันสบายๆ ทาไปเรียน ไปทำงานมากกว่า คนผิวมันอาจจะไม่ชอบ ยิ่งมีเหงื่อออกเยอะไม่เหมาะค่ะ แต่สำหรับคนผิวแห้ง ไม่มีเหงื่อออกเยอะ ถือว่าโอเคค่ะ ใช้วันสบายๆเนาะ ในแง่ของความคุ้มค่า ใช้ทุกวันถือว่าผ่านค่ะ ราคาไม่แพง ประสิทธิภาพกันแดดสูง ลองให้เพื่อนที่คณะใช้ดู เพื่อนบางคนมีความทรงจำไม่ดีเกี่ยวกับกันแดดนีเวียตอน ม.2 พอได้ลองใช้บอกว่า ทำดีขึ้น เกลี่ยง่าย กลิ่นไม่แรง ค่ะ

ประสบการณ์ปัญหาผิวหยาบกร้านของเรา โดยพื้นฐานเราเป็นคนผิวแห้งอยู่แล้ว ถ้าลองไม่ทาครีม หน้าจะแสบมากๆเลยล่ะค่ะ ~(T.T )เวลาจะแต่งหน้ารองพื้นที่จะเลือกใช้ก็ต้องเป็นประเภทให้ความชุ่มชื้น อะไรที่วาวๆ ดิวอี้เนี่ยชอบมาก เพราะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น แต่ปัญหามันไม่หมดไปแค่ทาครีมหรือทารองพื้น เพราะการที่เราออกไปข้างนอกในแต่ละวัน เจอแสงแดดประเทศไทยดั่งความร้อนบนเตาเนื้อย่าง แล้วยิ่งเราชอบนั่งรถเมล์ไปเรียน ไหนจะเดินไปรอรถเอย พอถึงก็ต้องเดินเข้าคณะ พอตอนกลับห้องก็ต้องเดินมารอรถเมล์ ผิวเจอแดดตลอดเวลา ก็ทำให้ผิวที่แห้งอยู่แล้ว แห้งขึ้นไปอีก เกิดความหยาบกร้าน เพราะเสียความชุ่มชื้น พอกลับมาถึงห้องก็อะไรคะ เช็ดเครื่องสำอางด้วยสำลีเช็ดหน้าไง สบาย แต่การที่เอาสำลีมาเช็ดๆถูๆหลายๆรอบก็แสบหน้า (；_；)ซึ่งเราเองก็ยอมรับว่าการเทคลีนซิ่งบนสำลีแล้วเช็ดออก อาจให้ความสบายใจในเรื่องเหล่านั้นก็จริง แต่อย่าลืมนะคะว่าการที่เทคลีนซิ่งลงบนสำลีเช็ดมาบนใบหน้าในแต่ละครั้ง ซึ่งกว่าจะเช็ดเครื่องสำอางจนหมดก็ใช้ไปหลายแผ่น การเช็ดแต่ละครั้งผิวเราก็เกิดการเสียดสีมากขึ้นเช่นเดียวกัน และปัญหาที่ตามมาก็คือผิวแห้งหยาบกร้าน!!! สาวๆผิวแห้งหลายคนคงจะเป็นเช่นเดียวกัน เช็ดเสร็จแล้วรู้สึกแสบแถวรอบๆแก้ม ฮือ ไม่นะ อย่าเอาความชุ่มชื้นผิวฉันไปปป (ทำเสียงแบบในเกมเศรษฐี) ส่วนตัวเราแก้โดยการใช้น้ำแร่มาฉีดหน้าให้ความชุ่มชื้นเพื่อแก้อาการเหล่านี้ ซึ่งเลือกไม่ทาครีมเพราะยังไม่นอน 55555 (โดยส่วนตัวจะไม่ทาครีมจนกว่าจะนอน) แต่มันก็เป็นแค่การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุใช่มั้ยคะ? ในเมื่อต้นเหตุที่แท้จริงอยู่ที่การทำร้ายผิวจากการเช็ดๆถูๆจากการเช็ดหน้าเราต่างหาก เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซะแล้วล่ะ เนี่ย ก็แค่ฝากเอาไว้ให้คิดดดด ดังนั้น เราต้องรีบมาดูแลผิวตั้งแต่ขั้นตอนทำความสะอาดดีกว่า ก่อนจะสายเกินไปค่ะ ฮึ่บ! ~^ ^ ปัญหานี้จะหมดไปเพียงแค่ใช้ “Biore Cleansing Milk” ที่จะช่วยถนอมผิวเรา ไม่ทำให้ผิวเราหยาบกร้านค่ะ ~ แต่เชื่อว่าหลายคนแค่ได้ยินว่าลองล้างเครื่องสำอางด้วย Cleansing milk ก็คงจะพาส่ายหน้ากันใหญ่~ เพราะกลัวหน้าจะมัน เหนอะหนะ อุดตัน หรือต้องล้างโฟมต่อให้ยุ่งยาก จริงที่ว่าผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางมีหลากหลายยี่ห้อในท้องตลาด แต่มันก็คงมีไม่กี่ยี่ห้อที่สาวๆทั้งหลายมีความ loyalty ต่อแบรนด์ อย่างแบรนด์ Biore เนี่ย ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่สาวๆมั่นใจจะเลือกใช้ เพราะสินค้าเค้ามีคุณภาพและหลากหลาย ทุกคนให้ความไว้วางใจอยู่แล้ว เรียกว่าสาวๆทุกคนโตมากับแบรนด์นี้เลยล่ะค่ะ เวลาBiore ออกอะไรมา ก็อยากลองไปหมดเลย (*^-^*) เพราะด้วยคุณภาพที่ดีและราคาที่เข้าถึงได้ แล้วทาง Biore เองก็ได้ออกอะไรใหม่ๆออกมาให้สาวๆได้เลิกใช้สำลีทำร้ายผิวหน้าแล้ว นั่นคือ ท๊าดาาาา Biore cleansing milk นั่นเองค่า~ (ทีนี้ก็มีความสบายใจกล้าลอง Biore Cleansing milk มากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ?) “Biore Cleansing Milk” เป็นคลีนซิ่งมิลค์ สูตรใหม่ แพคเกจจิ้งยังคงเหมือนสูตรเดิม เพิ่มเติมคือสูตรใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม มีคุณเต้ย เน็ตไอดอลยุคบุกเบิกอยู่หน้าขวด ซึ่งมาบอกคุณสมบัติเบื้องต้นไว้ สำหรับบีโอเรตัวนี้ ทุกคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะมีมานานแล้ว แต่ทาง Biore ปรับสูตรใหม่ค่ะ หน้าขวดบอกไว้ว่าจะให้ความรู้สึกเบาสบายๆไม่เหนอะหนะ แถมพัฒนาสูตรให้สามารถล้างเมคอัพได้ดีขึ้น รู้สึกสะอาด ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน ผิวนุ่มจุ้มจื๊นนน โดยทั้งนี้เราไม่ต้องง้อสำลีเลย~ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าสำลีจะไม่ไปเสียดสีบนผิวหน้าของเรานั่นเอง (ถ้าใครคิดความแตกต่างนี้ไม่ออก ให้นึกภาพระหว่างลูบผิวกับเกาผิวค่ะ ความระคายเคืองต่างกันนะ!) ซึ่งใครเป็นทาสเครื่องสำอางเห็นคำเคลมขนาดนี้ก็ได้แต่พูดว่า เอาเงินหนูไปปปปปป (*≧∇≦*) ส่วนคนที่ไม่เคยใช้ Cleansing Milk ก็คงจะแบบเกิดอาการสองจิตสองใจ เหย เคลมไว้หนักมากอ่ะ แบบนี้ฉันจะลองดีมั้ยน้อ~ ก็อยากให้อ่านปากของฉันนะ ว่าลองเถอะ 55555 เราลองแล้วค่ะ จะบอกเล่าความประทับใจเพื่อเป็นเสียงหนึ่งในการช่วยทุกคนตัดสินใจนะคะ อิ_อิ แล้วทุกคนจะร้อง ว้าววว โดยเราจะพิสูจน์คำเคลมของ Biore สูตรใหม่ว่าจะทำได้จริงมั้ย (´▽｀) โดยทั้งหมดนี้ใช้วิธีการแค่ “นวดแล้วล้าง” เท่านั้นเองค่ะ! ~ ทุกคนคงทราบกันดีว่าคลีนซิ่งมิลค์เนี่ยมีความสามารถในการเกาะจับ หรือเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางออกได้ดี แถมยังช่วยลดการเสียดสีของผิวได้ เจ้า Biore ตัวนี้ก็สามารถทำหน้าที่ของมันได้ดีมากเลยค่ะ จะแต่งหน้าหนัก แค่ไหนก็ไม่กลัว เพราะแค่นวดแล้วล้างออก ไม่ต้องง้อสำลีเลย ซึ่งดีมากๆเลยค่ะ ช่วยประหยัดค่าสำลีไปเยอะเลย เย้~ ＼(^o^)／ อีกอย่างคนที่เป็นประเภทไม่ทาครีมจนกว่าจะนอนจะชอบมาก เพราะล้างเครื่องสำอางเสร็จแล้วยังคงความชุ่มชื้นไว้ ทำให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สาวขี้เกียจได้ดีมาก~ ซึ่งต้องมีประเภทแบบเราที่ชอบล้างเครื่องสำอางแล้วจะไม่ยอมอาบน้ำล้างทาครีมหน้าจนกว่าจะอาบน้ำ มั่นใจ55555 อีกอย่างบีโอเรตัวนี้ไม่ต้องล้างโฟมซ้ำ ประหยัดเวลา หน้าไม่แห้ง เอาเวลาไปนอนเล่นมือถือ ส่องเฟส ไถทวิต เสพดราม่าแล้วก็เผลอแปบเดียวก็ตี2~ 5555 (บีโอเรช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน แต่ไม่ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาจากการส่องเฟสชาวบ้านจนดึกนะคะ55555) จะว่าไปนี่ก็เป็นข้ออ้างเวลาจะซื้อของได้เลยนะ สมมุติถ้าแฟนถามว่าทำไมเธอมีไอ้เจ้าล้างเมคอัพแบบนี้เยอะจัง ก็ตอบไปว่าอันนั้นมันต้องใช้สำลี อันนี้ไม่ต้องใช้ย่ะ เหลือเงินให้เธอไปซื้อโมเดลกันดั้มได้นะ ~^ ^ ทีนี้มาดูการพิสูจน์ประสิทธิภาพ Biore Cleansing Milk กันค่ะ เครื่องสำอางที่นำมาแต่งหน้าจะเป็นประเภทติดทนนาน โดยจากในรูปที่ 3 เรามาในแนวแต่งหน้าแบบญี่ปุ่น คาวาอี้~ โดยมาในคอนเซ็ปท์ #ทดลองเป็นขวดBiore (ญี่ปุ่นพอมั้ยคะ 5555) แต่งตาสีชมพู ม่วงๆ และจะไม่ยอมม่วงไปมากกว่านี้เพราะจะเหมือนถูกต่อย ~(´;ω;`) จะว่าไป พอดูแล้วแบบนี้ถือว่าโอเลยค่ะ โอโห หน้าบานกว่าขวดอีก~ 55555 แหม่ ตัดมาเข้าสาระค่ะ จะเห็นว่าแต่งหน้าจัดเต็มจริงๆ ถ้าสาวๆแต่งขนาดนี้ก็รู้ได้เลยว่ากว่าจะเช็ดทั้งมาสคาร่า อายแชโดว์ กาวติดขนตาปลอมเอาสิ่งเหล่านี้ออกหมด ไม่ต้องทายเลยว่าต้องใช้สำลีไปทั้งหมดกี่แผ่น เนี่ย ก็บอกไปแล้วว่ายิ่งใช้สำลีเช็ดๆถูๆบ่อยๆระวังริ้วรอยถามหา~!! อาจจะเกิดคำถามว่าแล้วไม่แต่งหน้าจัดเต็มก็ไม่ต้องใช้ Cleansing Milk ก็ได้ใช่มั้ย? จะบอกว่าแม้ว่าจะทาแค่กันแดด ทาแป้ง แต่บางทีกันแดดกับแป้งเป็นประเภทกันน้ำ บางตัวเป็นประเภทที่ว่าว่ายน้ำในทะเลยังไม่หลุด ดังนั้นคลีนซิ่งปกติไม่สามารถล้างเจ้าพวกนี้ไม่สามารถออกได้หมด เป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตันได้ ฉะนั้นเรามาใช้เจ้า Biore Cleansing Milk ขวดนี้ในการทำความสะอาดเพื่อถนอมผิวหน้าของเรากันเถอะนะคะ~ รูปถัดมา เนื้อโลชั่นมีความเหลว จึงไม่ทำให้เหนอะหนะเวลานวดค่ะ ลองพลิกมือแทบจะหยดเป็นน้ำ ระวังด้วยนะคะ ไม่ใช่อะไร เสียดายง่ะ (^-^;) สำหรับวิธีใช้การใช้ก็แค่กดมันออกมา ซึ่งในนี้บอกให้กดมา 2-3ปั๊ม เรากดมา2ปั๊ม แต่ลืมไปว่าหน้าใหญ่ เอาไม่อยู่ เลยเพิ่มอีก1 ปั๊ม 55555 สัมผัสแรกคือเนื้อคลีนซิ่งบางเบา ไม่เหนียวมือ สีแบบน้ำนม คล้ายโลชั่นทาตัวเลยค่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนเลย ทำให้เราผ่อนคลายตอนนวด เราใช้แล้วไม่มีจมูกฟึดฟัดหรือเสมหะตามมาเลย ฉะนั้นคนเป็นภูมิแพ้ใช้ได้ค่า ปลื้มจังเลยน้า~ จากนั้นนวดวนรอบใบหน้าค่ะ หรือสามารถนวดตามแนวขนเพื่อให้สบายใจขึ้นในเรื่องการอุดตัน (เพราะการนวดตามแนวขนคนส่วนมากเชื่อกันว่าจะทำให้รูขุมขนไม่เปิดกว้าง เนื้อคลีนซิ่งจะไม่เข้าไปอุดตันค่ะ) แต่เราชอบแบบนวดวนค่ะ รู้สึกสะอาดกว่า นวดที่หน้าแล้ว อย่าลืมริมฝีปากนะคะ ♪(*^ ・^)ノ ส่วนที่หินที่สุดคงจะหนีไม่พ้นการลบเมคอัพรอบดวงตาออก ไม่ต้องกังวลนะคะ ก็แค่นวดวนเบาๆรอบดวงตา ตุงคะมณี (เสียงกาบินผ่าน555) เป็นการทำความสะอาดมันออกมาาาา~ ไม่ต้องใจร้อนค่ะ คิดว่ากำลังนวดหน้าผ่อนคลาย หลายคนคงกำลังคิดว่าทำแบบนี้จะแสบตามั้ย ? เจ้าตัวนี้รับประกันว่าอ่อนโยนแม้รอบดวงตา ซึ่งทริคง่ายๆคือต้องค่อยๆนวดออกจะไม่แสบตาเลยค่ะ ในขณะที่นวดก็ค่อยๆนวด ตรงขนตาใช้นิ้วชี้วางเป็นแนวนอนถูเบาๆเพื่อให้มาสคาร่าหลุดออกด้วยนะคะ ซึ่งเนื้อคลีนซิ่งจะไปสลายเมคอัพเหล่านี้ออก รับรองไม่แสบตาเลยล่ะค่ะ ~(*^-^*) หลังจากนวดวนสักพักจนจนเครื่องสำอางออกหมด จะเห็นว่าจากตาสวยๆกลายเป็นแพนด้าอย่างเห็นได้ชัดเลย （・◇・）~~ บ่งบอกได้ว่าคลีนซิ่งไปจับพวกอายไลน์เนอร์ มาสคาร่าออกมาหมด จากนั้นก็แค่ล้างหน้าออก ไม่ต้องใช้สำลีเช็ดค่ะ เครื่องสำอางก็ออกอย่างหมดจด ไม่ต้องเสียเวลาใช้โฟมต่อด้วยนะคะ สบายไปอี๊ก (คนขี้เกียจแบบเรานี่ชอบเหลือเกินนนน) หลังจากล้างเสร็จทุกคนคงอยากรู้ว่าล้างหน้าแล้วจะล้างออกง่าย จะผิวชุ่มชื้น และไม่แห้งตึงจริงมั้ย? พูดเปล่าๆก็เหมือนยกเมฆ เลยขอพิสูจน์ด้วยเครื่องวัดความชุ่มชื้นเลยค่ะ พุ่งหนักมากกกก ผิวไม่แห้งตึงเลยค่ะ แถมล้างออกได้สะอาดมากๆ ไม่เหลือเครื่องสำอางอยู่เลย ย้ำว่าไม่ต้องใช้โฟมเลยค่ะ (=ﾟωﾟ)ﾉ สำหรับคนผิวมันไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะเมื่อเราล้างเสร็จไม่ทิ้งความมันและความเหนอะหนะไว้เลย ส่วนคนผิวแห้งไม่ต้องกังวลว่าหลังล้างออกจะหน้าตึงเหมือนฉีดโบท็อกมั้ย บอกได้เลยว่า ไม่เป็นแบบนั้นเลยค่ะ ผิวนุ่มมาก แถมชุ่มชื้นด้วย ดูได้จากเครื่องค่าวัดความชุ่มชื้นค่ะ แถมทำให้หน้าสะอาดแบบนี้ก็พร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อไปแล้วค่ะ แฮ่~ ความรู้สึกหลังจากที่ใช้อีกอย่าง หลังล้างหน้าเสร็จ รู้สึกว่าสิวเสี้ยนมันลดลงนะ~ สงสัยเพราะได้นวดกระตุ้นมันออกมา ซึ่งการใช้คลีนซิ่งมิลค์นวดเมคอัพออกแทนการใช้สำลีเช็ด นอกจากจะช่วยถนอมผิวของเราแล้ว ยังเป็นการผ่อนคลายและบำรุงผิวหน้าเราไปในตัวด้วยค่ะ ทำให้ผิวเราไม่แก่ไวด้วยนะ รู้ป่ะ อาห๊ะ 555 นอกจากนี้ถ้านวดอย่างถูกวิธีก็ช่วยให้ผิวพรรณเรายกกระชับขึ้นด้วย ดีสุดๆไปเลยล่ะค่ะ~!!! ลองเปิดใจลองใช้แบบคลีนซื่งมิลค์ สักอาทิตย์ละครั้ง 2ครั้งก็ยังดีน้า วันไหนผิวหน้าเรารู้สึกล้ามาทั้งวัน ลองใช้ Biore ดูสิคะ กลิ่นหอมอ่อนๆจะช่วยผ่อนคลาย และการนวดหน้าจะช่วยให้เราหายเมื่อยล้าได้ด้วยค่ะ~ แค่นวดแล้วล้างง่ายๆแบบนี้ จะช่วยให้ประสบการณ์ผิวหยาบกร้านของเราหมดไปเลย ~~ヾ(*´∀｀*)ﾉ พูดมาขนาดนี้ สาวๆที่ยังสองจิตสองใจว่าจะลองดีมั้ย ควรรีบออกไปซื้อ Biore Cleansing Milk ติดห้องไว้ได้แล้วนะคะ ก่อนของจะหมด ฮี่ๆ~ ขอสรุปจากคุณสมบัติที่ Biore Cleansing Milk สูตรใหม่ ได้กล่าวไว้~ - มี pH Balance สมดุลกับผิวหน้า : ซึ่งการที่มี pH Balance จะทำให้หน้าไม่แห้งตึง ไม่หยาบกร้าน โดยมาดูเครื่องวัดความชุ่มชื้นก่อนค่ะ ก่อนล้างหน้าอยู่ที่ ความชุ่มชื้น -1 ,ความมัน 0 มีความหยาบกร้าน -1 แต่เมื่อล้างหน้า ความชุ่มชื้น 2 ,ความมัน ไม่มันเลยค่ะ ผิวมีความอิ่มน้ำ 5, ความหยาบกร้านเปลี่ยนเป็นความนุ่มขึ้น 2 ฉะนั้นจึงถือได้ว่าสอบผ่านค่ะ ~ (*≧∇≦*) - อ่อนโยนแม้รอบดวงตา : ค่อยๆนวดไม่แสบตาเลยค่ะ อ่อนโยนสุดๆ แต่จะแสบตาถ้าเราลืมตาแล้วนวดนะคะ (｀А´) ระวังด้วย 555555 - ไม่มีแอลกอฮอล์ : ดูส่วนประกอบบอกว่าในนี้ไม่มีแอลกฮอล์ แต่อ่านฉลากด้านหลังอาจงงๆ แล้วก็เกิดอาการหัวร้อน เกรี้ยวกราดเหมือนเล่นดอทเอแล้วแพ้ พี่คะหนูก็เห็นอยู่ว่ามันมีแอลกฮอล์นี่ไง มี Cethyl Alcohol กับ Stearyl Alcohol เต็มสองตาหนูเนี่ย!!! เอ่อ น้องคะ ใจเย็นนะ (￣ー￣) แอลกฮอล์ที่ทำอันตรายต่อผิว คือพวก Ethyl Alcohol ค่ะ ตัวนี้จะพบในพวกกลุ่มยาฆ่าเชื้อซึ่งทำให้ผิวแห้งและดึงน้ำจากผิวเรา (เจอในพวกยาแต้มสิวน่ะค่ะ ทำให้สิวเราแห้งไว) แต่ Cethyl Alcohol กับ Stearyl Alcohol จะเป็นแอลกฮอล์คุณภาพดี ทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบในการละลายสารที่ไม่ละลายน้ำ ทำให้เนื้อครีมหนืด ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง ช่วยล้างสิ่งสกปรกได้ พร้อมช่วยเคลือบผิวไว้ให้ เพื่อลดการสูญเสียน้ำของผิว ถือว่าเป็นมอยเจอร์ไรซ์เซอร์ให้ความชุ่มชื้นกับผิวไปในตัวด้วยค่ะ บ่งบอกถึงความใส่ใจของ Biore เลยนะคะเนี่ย ฉะนั้นเรื่องไม่มีแอลกฮอล์ ถือว่าผ่านค่ะ ใครกลัวแพ้ก็ไม่ต้องกังวล สบายใจได้ >< - ล้างออกง่าย : เราล้างประมาณ 3-4 ครั้งก็ออกหมดแล้วววว - ไม่อุดตัน : ด้วยความที่ล้างเครื่องสำอางได้สะอาด ทำให้ไม่เกิดสิวตามมาค่ะ ดี๊ดีอ่ะ ♥‿♥ - ไม่ทิ้งสิ่งตกค้าง : เมื่อล้างหน้าเสร็จจะไม่รู้สึกว่ามีเมือกๆ ลื่นๆ บนบริเวณใบหน้าเลยค่ะ~ - ผสาน Moist & Fresh Balance คืนความชุ่มชื่น รู้สึกผิวนุ่มเด้ง ไม่แห้งตึง : ดูที่ค่าวัดความชุ่มชื้นก็จะเห็นแล้วว่าตรง Moist มี 2 ขีด เพิ่มจากอันเดิมที่ -1 นะคะ อันนี้ก็สอบผ่านค่ะ ^ ^ - ไม่ทิ้งความมัน ความลื่น หรือความเหนอะหนะบนผิวหน้า : ด้วยเนื้อบางเบาทำให้ไม่เหนอะหนะ หลังล้างหน้าเสร็จผิวสะอาดมาก ยิ่งเราผิวแห้งอยู่แล้ว ทำให้เห็นชัดว่า ไม่มีความวาวเกิดขึ้นเลยค่ะ ข้อดีอันนี้ทำให้เราไม่ต้องใช้โฟมล้างหน้าต่อนั่นเองค่ะ ~(*^-^*) คุณภาพเกินราคาขนาดนี้ขอยกนิ้วให้เลยค่ะ ^ - ^b ใครที่ยังสองจิตสองใจจะลองดีไหม อย่าลังเลค่ะ ที่พูดมาทั้งหมดอาจจะยาวไป แต่ไม่มีอะไรมาก (เพราะที่มากคือน้ำหนัก T^T) แค่อยากอธิบายให้เห็นภาพจริงๆ เพราะหลายคนอาจจะยังไม่กล้าใช้หรือไม่รู้สึกดีกับคลีนซิ่งมิลค์เท่าไหร่ แต่ถ้าได้อ่านรีวิวนี้แล้ว หวังว่าอาจจะพอช่วยให้คนที่ยังลังเลว่าจะใช้คลีนซิ่งมิลค์ดีมั้ย ได้กล้าลองใช้กันนะคะ รับรองว่าจะหลงรักเลยยย ✿♥‿♥✿

เป็นซีซีที่คุณภาพดีมากๆค่ะ ผิวแห้งใช้แล้วติดทนมาก แถมให้ความชุ่มชื้นด้วย ชอบสุดๆๆๆ

ผิวแห้งไม่ค่อยอินเท่าไหร่ค่ะ มันทำให้หน้าเป็นขุย แต่ควบคุมความมันได้ดี ออกไปตากแดดก็กันแดดได้ดีไม่แสบหน้า สะดวก เวลารีบๆก็ตบๆแท็บๆ ออกจากบ้านไปเลย

ซาหวักลี สวัสดีค่าทุกคน ไม่รู้ว่าทุกคนเป็นเหมือนกันมั้ยคะ เวลาอาบน้ำแล้วขี้เกียจทาโลชั่น (*￣m￣) แต่ถ้าไม่ทาผิวก็แห้งมาก ตัวเลือกที่สำคัญที่จะแก้ปัญหานี้ได้ก็คงหนีไม่พ้นครีมอาบน้ำที่ผสมออยล์ เพือให้คงความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะที่มักใช้ครีมอาบน้ำที่ผสมออยล์ แต่ราคามันแรงมากกกกกก ขวดนึงนี่คือเท่ากับซื้อครีมทาตัวเพิ่มไปอีกด้วยซ้ำ แต่ แต่ แต่ โชคก็เข้าข้างอิชั้นค่ะ ที่โลกนี้ยังมี SNAILWHITE Crème Body Wash สูตร 2 DEEP MOISTURE มาจ้า! (^з^)-☆ ที่พูดไม่ได้พูดเกินจริง เราต้องนึกถึงตอนที่ผิวแห้งค่ะ ว่ามันแสบมาก ตามแขนตามตัวนี่ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าเกิดการเสียดสี มีไฟฟ้าสถิตย์ไปกับเสื้อผ้า และโดยเฉพาะมือจะเหี่ยวเป็นพิเศษหลังอาบน้ำเสร็จ (TヘTo) พอพูดแล้วขอใช้สิทธิ์ร้องไห้ค่ะ ฮือ เอาล่ะค่ะ ออกจากโหมดดราม่า เรามาดู SNAILWHITE Crème Body Wash แพร้บบบนะคะ คือคุณเธอมี 3 สูตร (ไม่ใช่สูตรเย็น ยาดองอะไรนะยะ) ซึ่งได้แก่ สูตร 1 NATURAL WHITE เน้นผิวขาวกระจ่างใส สวยๆ ชิคๆ สูตร 2 DEEP MOISTURE เน้นความชุ่มชื้น ตัวนี้ขอ recommend แด่สาวผิวแห้งค่ะ มันเวิร์คมากกกก (ก.ไก่ล้านตัว) และ สูตร 3 ANTI-AGING ให้ผิวอ่อนเยาว์ราวกับเด็กสาวอัลไลประมาณนี้ ส่วนประกอบหลักๆก็คือเมือกหอยทาก เพนตะไวติน และ Apple Essential Amino Acid นอกนั้นแต่ละสูตรจะมีส่วนประกอบที่เพิ่มเติมแตกต่างกันไป อย่างสูตร 1 มี CAVIAR LIME สูตร 2 มีน้ำมัน BAOBAB และสูตร3 มี KAKADU PLUM ทาง SNAILWHITE ก็มีให้เลือกหลายสูตร ซึ่งแต่ละสูตรจะเหมาะกับสภาพผิว และความต้องการที่แตกต่างกัน ถ้าใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิว ไม่ตรงความต้องการตัวเองแล้วแพ้ ไม่ถูกใจ ไม่โอเค เลยมาเคลมว่าผลิตภัณฑ์ไม่ดี แบบนี้ก็ไม่แฟร์กับทางแบรนด์ จริงไหมคะ? ซึ่งอย่างที่บอกว่าอิชั้นผิวแห้ง สูตร 2 DEEP MOISTURE แน่นอน เป็นคำตอบสุดท้ายค่ะ (✿ ♥‿♥) และความพิเศษของ SNAILWHITE Crème Body Wash ตัวนี้คือ ตัวครีมที่ให้ฟองเนื้อละเอียดนุ่ม ที่เข้าบำรุงผิวอย่างล้ำลึก แต่ล้างออกง่าย ซึ่งเราทราบดีอยู่แล้วว่าความหนาของฟองโฟมช่วยลดการเสียดสีของผิว ยิ่งมีฟองมากยิ่งทำให้ทำความสะอาดได้มากขึ้นนั่นเอง เราใช้ตาข่ายตีฟอง ฟองเยอะมากกกก อาบสะอาดสุดๆ แล้วก็ได้โปรดจงลบภาพครีมอาบน้ำที่ล้างแล้วยังลื่นๆเหมือนล้างออกไม่หมดออกไปความคิดเดี๋ยวนี้ค่ะ แม้ว่ามันจะเป็นเมือกหอยทาก ที่ภาพในจินตนาการใครหลายคนคิดว่ามันเหนียวๆหนืดๆ มันไม่เป็นนะจ้ะ หยุดคิดเลย ตัวนี้ไม่เป็นค่ะ อาบสะอาด แล้วก็ผิวไม่แห้งด้วยครัชชช โดยเฉพาะสูตร 2 DEEP MOISTURE ย้ำว่า อันนี้ขอเชียร์เป็นพิเศษสำหรับสาวผิวแห้ง คือมันเวิร์คจริงๆ พูดมาเยอะแล้ววว แต่ๆสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ถ้าไงก็อยากให้ทุกคนไปลอง ลองเถอะค่ะ ลองงงงงง แล้วน้องจะไม่ต้องไปกราบใคร 555555 ในส่วนของแพกเกจจิ้งนั้น ทำออกมาดี หัวปั๊มง่ายต่อการใช้งานมาก ซึ่งเรามั่นใจว่าหลายคนเลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่ต้องเป็นหัวปั๊มนะ ไม่ว่าจะเป็นแชมพู ครีม ครีมอาบน้ำ ทางแบรนด์ก็ใส่ใจทำดีค่ะ แถมปริมาณกับราคานี่แบบ 500 ml ในราคา 199 คือจะให้คุ้มไปไหนคะ ทำไมดีเกินคาดคะ ตอบบบ (p>□