Profile

ในบรรดากันแดดของ BSC ตัวนี้ถือว่าเนื้อดีสุด แบบว่ามีความเบา เกลี่ยง่าย เห็นสีขาว ๆ แต่เกลี่ยเข้าผิวไม่เป็นคราบ เพราะเนื้อออกแนวกึ่งเจล

ประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดด สำหรับเราถือว่าทำได้ดี แต่ถ้าออกแดดจัดๆต้องทาซ้ำทุก ๆ 2-3 ชม. นะคะ

เนื้อดี ทาง่าย ไม่ตกร่อง ถึงแม้จะเป็นเนื้อแมทท์ (สี R4) ก็ไม่ตกร่อง แถมทาแล้วริมฝีปากไม่แห้ง ให้ความชุ่มชื้นผิวปากได้ดีอยู่

ส่วนเนื้อลิปอื่น ๆ อย่าง เนื้อครีม กับเนื้อชิมเมอร์ ทาง่ายเหมือนกัน โดยเฉพาะสี N1 เนื้อชิมเมอร์ ให้ความเป็น everyday look ชอบมากค่ะ

ใครมองหาแป้งคุมมันได้ดี เราแนะนำตัวนี้เลยค่ะ คุมมันดี แต่ผิวไม่ดูแห้ง

เนื้อแป้งมีความเบา ทาแล้วไม่หนักหน้า แต่ถามเรื่องการปกปิดยังไม่ถึงกับกริ๊บ แต่ว่าปกปิดได้ค่อนข้างดีระดับนึง

ระหว่างวันให้ผิวสวย ไม่ดรอป ไม่คล้ำ ดีค่ะ

ถ้าให้เทียบกับกันแดดการ์นิเย่ที่เคยใช้มา ตัวนี้ถือว่าเนื้อเบาสุด แต่ถ้าถามว่าบางขนาดนั้นมั้ย ส่วนตัวถ้าเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ ก็ยังถือว่าไม่บางนะคะ

ตัวนี้เบาจริง แต่ยังทิ้งความหนักผิวไว้นิด ๆ แต่พอซึมเข้าผิวแล้วก็ถือว่าโอเคค่ะ คนผิวผสมรอดฮะ ไม่รอย ผิวสองสีก็ไม่เป็นคราบ

ตัวนี้เป็นอิมัลชั่น แต่เราใช้แทน day cream เลยค่ะ คือเนื้อกำลังดี มีความเบา แต่ยังให้ความชุ่มชื้นดี ไม่เหนอะหนะผิวระหว่างวัน

หลังจากที่ใช้มาสักระยะ ผิวกระจ่างใสขึ้น มีความใสเล่นแสงได้ดี เลิฟมากค่ะ

1 ในครีมทาผิวที่เราชอบมากกกก เนื้อบางเบา ซึมง่าย แต่ยังให้ความชุ่มชื้นได้ดีอยู่ และที่สำคัญคือส่วนปรับผิวให้เนียน ดูใสได้จริง แต่ถ้าคาดหวังว่าจะให้ขาวเวอร์ ตัวนี้ไม่ตอบโจทย์ค่ะ ช่วยแค่ปรับให้ผิวดูใสแบบสุขภาพดี

กลิ่นมีความหอมเป็นเอกลักษณ์ของวาสลีนอยู่แล้ว แบบแนวดอกไม้+แป้ง ไม่ฉุน ใช้ได้ทุกวัน

เป็นโลชั่นบำรุงผิวที่มีกันแดดแต่ไม่เหนอะหนะ เนื้อโลชั่นบางเบา เกลี่ยง่าย และไม่เป็นคราบเมื่อเหงื่อออก

ส่วนในเรื่องของกลิ่น ก็คือสไตล์วาสลีนเลย หอมอ่อน ๆ แนวฟรอรัล

ใช้ดีมากจริงค่ะ แนะนำ

เนื้อดินสอเขียนง่าย ติดทน ใช้งานสะดวกเพราะสามารถเหลาได้ตามรูปทรงที่เราถนัด โดยส่วนตัวเราชอบแบบแบน เพราะเขียนเป็นเส้นได้ง่าย

แต่ไส้แนะนำให้เหลาเบา ๆ ถ้าใช้คัดเตอร์ แต่ถ้าเป็นกบเหลาก็เหลาได้ปกติค่ะ

หลังจากที่ได้ลองใช้ ส่วนตัวรังแคของเราหายตั้งแต่ครั้งที่ 2 ที่ใช้เลยค่ะ (สระผม 2-3 วันครั้ง) รู้สึกประทับใช้มาก เพราะอย่างแบรนด์เก่า ๆ ที่เคยใช้จะอยู่ที่อย่างน้อย 3-4 ครั้งกว่าจะหายสนิท และตัวนี้พอสระแล้วล้างผมออก คือผมไม่กระด้าง มีความนุ่มเหมือนสระแชมพูปกติทั่วไป

ล้างน้องได้อ่อนโยนมากค่ะ กลิ่นก็คือดี ไม่ได้มีความเป็นน้ำหอมจ๋า ให้ความละมุนอ่อน ๆ

ส่วนฟองก็มีความนุ่ม ล้างออกแล้วไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ประทับใจตรงนี้มาก ๆ ใช้แล้วมีความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะวันที่มีประจำเดือน ใครกำลังมองหาคลีนเซอร์ล้างน้องสาวอยู่แนะนำเลยค่ะ

ใครที่มองหาแปรงสีฟันไฟฟ้า เราขอแนะนำตัวนี้เลยค่ะ

เราชอบหัวแปรง Deep Clean นะคะ เพราะเป็นความนุ่มที่กำลังพอดี ไม่อ่อน หรือแข็งจนเกินไป ส่วนโหมดที่ใช้แปรงบ่อยสุดจะเป็นโหมดอ่อนโยน (Soft) แปรงได้ดี ไม่บาดเหงือก

รองมาก็จะเป็นโหมดสะอาดล้ำลึก (Clean) ใช้ในวันที่ไปกินปิ้งย่าง ชาบู อะไรแบบนี้ ให้ความรู้สึกช่องปากสะอาดได้ล้ำลึกขึ้น เพราะด้วยการสั่นของแปรงที่ช่วยเสริมให้มีประสิทธิภาพกว่าการแปรงด้วยมือแบบปกติ โดยรวมถือว่าประทับใจ คุ้มค่ากับการลงทุนค่ะ

หลังจากที่ได้ลองใช้เป็นติดต่อกัน 2 สัปดาห์ สิ่งแรกเลยที่ประทับใจคือเนื้อผลิตภัณฑ์ คือตอนแรกแอบกลัวว่าจะหนัก ก็เลยเลือกใช้แค่เฉพาะตอนกลางคืน แต่พอได้หยิบมาใช้ตอนกลางวันก็ไม่ได้ให้ความหนักผิวอย่างที่คิด แต่ก็แนะนำให้นวด ๆ ครีมบนผิวสักพักก่อนที่จะลงกันแดดนะคะ

ในเรื่องของผลลัพธ์อื่น ๆ ส่วนตัวรู้สึกถึงความกระชับของผิว ดูมีความแน่นขึ้น อย่างช่วงไหนที่นอนน้อย ตื่นมาก็จะมีบ้างที่ผิวโทรม แต่พอได้ใช้ Oriental Princess Naturally Ageless Supreme Lifting & Anti-Wrinkle Cream มาเรื่อย ๆ ผิวไม่ค่อยโทรมเหมือนเมื่อก่อน มีความเต่งมากขึ้น

สี F2 น่ารักมากค่าาาาา เหมาะกับทุกสีผิว น้องมีความสีออกพีชๆ ปัดง่ายมากสีนี้

เนื้อผลิตภัณฑ์มีความละเอียด ปัดง่าย ให้สีที่สม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบ มาพร้อมแปรง ก็คือจบในกลับเดียว เดี๋ยวจะไปถอยสีอื่นเพิ่มแน่นอน

ถือว่าเป็นรองพื้นถูกและดีที่แนะนำค่ะ เนื้ออาจจะมีความแน่นนิดนึง เพราะฉะนั้นแนะนำให้ทาบาง ๆ แล้วค่อยเลเยอร์ลงทับหากไม่พอ แต่ให้ความติดทนดี คุมมันได้ปานกลาง

เนื้อแป้งเนียนละเอียด ทาแล้วไม่ได้ให้ความแห้งกร้าน ยังมีความชุ่มชื้นที่ผิวอยู่

ใช้กับพัฟปกปิดได้ดี แต่ถ้าใช้คู่รองพื้นแนะนำใช้กับแปรงจะดีกว่าค่ะ

สำหรับเราที่ใช้มาประมาณ 3 สัปดาห์ ส่วนตัวรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเฉดสีเล็กน้อย อาจจะเพราะไม่ค่อยได้มีปัญหาเรื่องฟันเหลืองเท่าไหร่ด้วยแหละ(มั้ง)

แต่สำหรับใครที่กังวลว่าใช้แล้วผิวฟันจะบางหรือว่ามีอาการเสี่ยวฟันมั้ย อันนี้ก็ลองศึกษาข้อมูลก่อนการใช้งานดูก่อนน้า เพราะสำหรับเราเองก็ไม่ได้รู้สึกเสี่ยวฟันอะไรขนาดนั้นฮะ และก็แฮปปี้กับผลลัพธ์ที่ได้ด้วย

เนื้อแน่น แต่ว่ายังทาง่าย เกลี่ยง่าย แต่แนะนำให้ทาบำรุงก่อนทา ไม่งั้นถ้าเป็นคนที่ปากแห้งมีสิทธิตกร่องได้ง่าย แต่ใด ๆ คือสีสวยมากค่ะ ใช้ทาบาง ๆ ก็ได้ หรือทาเต็มปากก็สวย

สี PN จะออกส้มพีช เหมาะกับทุกสีผิวและทาได้ทุกวันเลยค่า

เนื้อซึมง่าย คนผิวผสมใช้แล้วรอดค่ะ ไม่เหนอะหนะ ส่วนเรื่องความกระจ่างใสอาจจะต้องใช้เวลาสักนิด แต่เท่าที่ลองมา 1 สัปดาห์ รู้สึกว่าหน้าดูดีขึ้น

ส่วนตัวตัดคะแนนเรื่องกลิ่น ไม่ค่อยชอบกลิ่นดอกไม้เท่าไรค่ะ

คือว่าเป็นอุปกรณ์ตัวช่วยในการฟอกฟันขาวที่ใช้ง่าย ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพจะไม่เทียบเท่ากับการไปทำที่คลินิก (ซึ่งก็แน่แหละ5555) แต่ถือว่าแค่ 10 นาทีต่อวันก็ไม่ยุ่งยากค่ะ

ผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าน่าพอใจสำหรับเราคนที่ไม่ได้ต้องการฟอกให้ฟันขาวจั๊วอะไรขนาดนั้นค่ะ มีความขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ให้การปกปิดปานกลาง แต่ได้ความเนียน ความผิวผ่อง ไม่หนักผิวจนเกินไป ชอบค่ะ ส่วนใครที่มีรอยสิวเยอะหน่อยแนะนำให้ลงคอนซีลเลอร์ควบคู่ไปด้วยจะดีกว่า ส่วนเฉดสีมีให้เลือกเยอะ เข้ากับสีผิวได้พอดี ไม่ลอย ไม่เทา ถือเป็นแป้วราคาหลักราคาที่คุณภาพคุ้ม

คุ้มเกินราคามากค่ะ คือปกติเราจะใช้แต่สำลีของญี่ปุ่น ซึ่งก็ราคาแอบแรงอยู่ เพราะว่าเคยใช้สำลีไทยแล้วไม่ค่อยถูกกับผิว แต่ตัวนี้พอได้ลองแล้วไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง ไม่บาดหน้า เช็ดแล้วไม่เป็นขุยด้วย ดีมากกกกกก ใครเล็งๆไว้อยู่ เชียร์เลยค่ะ

ส่วนตัวแนะนำว่าให้ใช้เวลากลางคืนดีกว่า เพราะเนื้อมีความหนักอยู่เล็กน้อย แต่ถ้าคนที่ผิวแห้งอาจจะกำลังดี

ในเรื่องของสิว ปกติเราจะเป็นคนที่สิวบุกช่วงประจำเดือนมาอย่างน้อย 3-4 เม็ด แต่พอใช้ตัวนี้ (ช่วงก่อนเมนส์มา) รู้สึกได้ว่าสิวไม่เห่อเท่าเมื่อก่อน และรอยก็จางเร็วขึ้นด้วย ก็เลยคิดว่าน่าจะเพราะเซรั่มแน่นอน สำหรับใครที่ชอบเป็นสิวเห่อบ่อยๆ เราแนะนำว่าให้ลองใช้ติดกันสัก 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป น่าจะเห็นผลได้ชัด

สำหรับคนที่ผิวขาดน้ำ/ผิวแห้ง หรือมีผิวคล้ำเสีย ดูโทรมนอนน้อย เราแนะนำขวดนี้เลยค่ะ กู้ผิวได้ดีมาก เนื้อเซรั่มเหมือนจะหนัก แต่พอวนลงที่ผิว เนื้อซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะเลยค่ะ

เป็นเซรั่มวิตามินซีแบบซองที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ค่ะ แนะนำสำหรับคนที่ผิวหมองคล้ำ มีจุดดำจากสิวต่าง ๆ ปรับผิวได้ดี ให้ผิวเล่นแสงได้ดีด้วยนะคะ

เนื้อเจลบางเบา มีเม็ดสีส้ม ๆ ข้างใน ทาวนที่ผิวได้ง่าย ไม่เหนอะหนะ

สายออกแดด ดำน้ำ เที่ยวทะเลควรมีค่ะ ทาก่อนออกแดดก็ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดี ส่วนทาหลังออกแดดก็ฟื้นให้ผิวกลับมาดูดีได้อย่างรวดเร็ว

เนื้อเจลบางเบา มีเม็ดม่วง ๆ ข้างใน เกลี่ยง่าย ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ ส่วนตัวชอบทาที่ผิวกายมากๆ เพราะให้ฟิลเย็นสดชื่นผิวดีค่ะ

ใช้ดีเกินคาด เนื้อมีความเป็นเจล บางเบา ซึมเข้าผิวจริงๆแบบไม่เคลือบผิว ใช้ติดกัน 7 วัน รู้สึกผิวชุ่มชื่นขึ้น แต่งหน้าติดขึ้นมาก

ส่วนตัวใช้เป็น pre-serum ช่วยให้สกินแคร์ตัวอื่นซึมเข้าผิวได้ดีด้วยค่ะ สาวผิวมันขาดน้ำ ใช้ได้ฟายห่วง

เป็นอีกหนึ่งเซรั่มที่เราแนะนำสำหรับคนที่พักผ่อนน้อย เพราะผลลัพธ์ 7 วันแรกที่เราใช้ ก็รู้สึกได้เลยว่าผิวดูดีขึ้น มีความอิ่มเหมือนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ทั้ง ๆ ที่นอนเท่าเดิม

เนื้อมีความบางเบา พอซึมเข้าผิวจะมีความหนึบที่ผิวเล็กน้อยแต่ไม่ได้เหนอะหนะนะ คือมีความชุ่มชื้น กลิ่นเทอร์ปีนผ่อนคลายผิวดีมาก เราใช้ทั้งเช้าและกลางคืนเลย ชอบมากกกก คนผิวมันใช้ได้ ไม่ทำให้หน้ามันค่ะ

เป็นไนท์ครีมที่คนผิวมันปลื้มมากค่ะ เพราะซึมเข้าผิวดีมาก ไม่เคลือบผิว มีความออกเจลนิด ๆ ให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่เหนอะหนะ ทำให้ลงสกินแคร์ก่อนหน้าได้อย่างเต็มที่

กลิ่นเทอร์ปีนคือดีมาก คือมันไม่ได้มีความฉุน หรือน้ำหอมใด ๆ แต่จะเป็นความผ่อนคลายตอนทา หลังจากครีมซึมเข้าผิวก็แทนไม่ทิ้งกลิ่นใด ๆ ไว้ที่ผิวเลย เราชอบมากกกก

เนื้อกันแดดบางเบาดีค่ะ แต่จะติดตรงที่มีความขาว ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาสักนิดเพื่อให้เนื้อกลืนกับผิว เหมาะกับคนผิวขาว-ผิวสองสี ถ้าคล้ำกว่านี้ไม่แน่ใจว่าจะลอยมั้ย แต่อย่างอื่นคือเราชอบหมด ไม่ว่าจะความบางเบา ไม่หนักหน้า กันแดดได้ดี แล้วก็ทาเล่นน้ำได้ด้วย ดีมากค่ะ

โดยรวมถือว่าโอเคค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ กลิ่น สัมผัส หรือแม้แต่ค่ากันแดดที่ครอบคลุมทั้ง UVA และ UVB ถือเป็นอีกหนึ่งกันแดดที่คิดว่าจะซื้อซ้ำอย่างแน่นอน

แต่ก็อาจจะไม่ได้เอาไว้ใช้ในวันที่แต่งหน้านะ เพราะสำหรับเราแอบรู้สึกว่าผิวผสมใช้แล้วแต่งหน้าต่อไม่ค่อยรอดเท่าไร อาจจะต้องเปลี่ยนไปใช้สูตร Daily Moisture แทน แต่ถ้าวันที่ไม่แต่งหน้าก็ถือว่าเป็นอีกตัวที่น่ามีติดโต๊ะเครื่องแป้งเลยแหละ ด้วยค่ากันแดดที่สูงขนาดนี้ด้วย ชอบมากฮะ

หลังจากที่ได้ทดลองใช้แบบจริงจังมา 6 วันเต็ม ๆ วันนี้เราเลยจะขอมารีวิว Garnier Bright Complete Vitamin C Ampoule Serum ให้ดูสักหน่อยค่ะ

สำหรับเราถือว่าประทับใจระดับนึงเลยนะ ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวเราไม่ได้มีปัญหาเรื่องฝ้าแดด หรือรอยดำใต้ตาอะไรแบบนั้น แต่จะโฟกัสไปที่ปัญหาพวกผิวหมองคล้ำกับรอยสิวมากกว่า

ซึ่งเราก็รู้สึกได้ว่าผิวดูดีขึ้นจริง รอยสิวดูจางลง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้หายแบบ 100% ก็ตาม แต่ถือว่าในระยะที่สั้นแบบนี้ก็เห็นผลได้จริง ไม่จกตา

ส่วนที่หักไป 1 คะแนน ก็คือเรื่องของ packaging ส่วนตัวเราว่ามันแอบบีบยาก แอบเสียดายเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ติดอยู่ข้างในอะ อยากรูดมันให้หมดจนหยดสุดท้าย

ส่วนตัวเราชอบมากกับกันแดดสูตรใหม่ของ BSC ตัวนี้นะคะ เนื้อกันแดดมีความบางเบา เกลี่ยง่าย คนหน้ามันไม่ทำให้ผิวมันกว่าเดิม สามารถแต่งหน้าต่อได้แบบหน้าไม่เยิ้ม พร้อมด้วยค่าปกป้องผิวที่สูงสุด ใช้แล้วแฮปปี้มาก

แต่ที่หักไว้ 1 คะแนน คือในเรื่องของ packaging ส่วนตัวแอบรู้สึกว่าใช้งานยากไปนิด มันปั๊มเนื้อครีมออกมายากในบางครั้ง ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทำแบบหลอดเหมือนกับกันแดด BSC ฝาแดงแบบนั้นจะดีกว่าค่ะ

ติดทนระดับนึงเลย แต่อาจจะไม่ได้แบบทั้งวันนะคะ แต่ก็เป็นชม.อยู่ สีเป็นธรรมชาติ มีความเป็นญี่ปุ่นเลยแหละ ส่วนตัวเราชอบมาก สี 03 คือสี ผิวสองสีทารอดค่ะ

เขียนได้ค่อนข้างลื่นดี แต่ติดที่หัวใหญ่ไปหน่อยสำหรับเรานะ กันเหงื่อ กันความมันได้ดีค่ะ แต่ถ้าขยี้แรง ๆ ก็มีหลุดบ้างนิดหน่อย ส่วนด้านที่เป็นแปรงเราไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร โดยรวมถือว่าโอเคสำหรับเราค่ะ

บอกก่อนว่าสภาพผิวโดยทั่วไปของเราเป็นคนผิวผสม ผิวมันขาดน้ำนะคะ ซึ่งปัญหาผิวขาดน้ำเนี่ยเป็นอะไรที่แก้ยากมากกกกกกก คือต้องบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างเป็นประจำ ไม่อย่างนั้นเวลาแต่งหน้าก็คือไม่ติดเลย!


สำหรับ Clinique Moisture Surge ตัวใหม่ที่ได้ลองใช้มา ผลลัพธ์และความรู้สึกเป็นดังนี้ค่ะ..

เนื้อสัมผัส : เนื้อเจลบางเบาดี ซึมง่าย เวลาทารู้สึกสบายผิว หลังซึมลงผิวแล้วจะทิ้งความลื่น ๆ บนผิวเล็กน้อย เหมือนเคลือบผิวบาง ๆ แนะนำแช่ตู้เย็นแล้วเอาออกมาทาก็คือสบายผิวมาก โดยเฉพาะตอนกลางคืน

แพคเกจจิ้ง : คอนเซปของตัวนี้คือกระปุกนางสามารถ recycle ได้ ความรักโลกนี้ก็คือให้เต็ม 10 ไปเลยจ๊ะ ไม่หักใด ๆ

ผลลัพธ์ : ถ้าในเรื่องของความชุ่มชื้น แน่นอนว่าตัวนี้เติมน้ำให้ผิวได้ดีเลย ผลลัพธ์หลังใช้ทันทีคือรู้สึกได้ว่าผิวแต่งหน้าติดมากขึ้น และเมื่อใช้ติดต่อกันมาเรื่อย ๆ ผิวดูอิ่มฟู แน่น และเรียบเนียน ดูมีสุขภาพดี

ข้อเสีย : ถ้าใครมองหาเรื่องความขาวใส ตัวนี้ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ค่ะ

เป็นกันแดดแบบครีมสีขาว เนื้อเหลว บางเบา ซึมเร็ว

เราเป็นคนผิวสองสีและมีขนอ่อนบนใบหน้า คือบางครั้งถ้ากันแดดเนื้อสีขาวที่ทำออกมาไม่ดีจะชอบทิ้งความเป็นคราบไว้ แต่สำหรับ La Roche Posay Anthelios Invisible Fluid SPF50+ PA++++ ตัวนี้คือเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ระหว่างวันก็ไม่เยิ้มเป็นคราบ ๆ เลยค่ะ รู้สึกดีมาก

แต่สำหรับเราราคาก็แอบแรงไปนิด แต่ถามความคุ้มต่อการลงทุนมั้ย ก็คุ้มอยู่นะคะ ใช้ทาวันที่ต้องออกแดดแรง ๆ หรือต้องออกไปข้างนอกงี้ คุ้มค่ะ

ด้านที่เป็นทิ้นท์ติดทนมาก ทนจนแอบน่ากลัว กลัวจะติดปากไปตลอด5555 ถ้าใครชอบการทาทิ้นท์แบบติดทนนาน ๆ แนะนำตัวนี้เลยค่ะ ช่วยอีกด้านเป็นกลอส เนื้อโอเคอยู่นะ ไม่หนักจนเกินไป

ช่วยประหยัดโทนเนอร์ได้ดีกว่าสำลีปกติมากค่ะ เนื้อสัมผัสของตัวลำลีนุ่มลื่น เช็ดทำความสะอาดผิวได้ดี ไม่เป็นขุย โดยรวมชอบค่ะ

อันนี้ของเราเป็นเบอร์ #2 นะคะ // ส่วนตัวเป็นคนผิวผสม มันบริเวณทีโซนค่ะ

ถ้าใครกำลังมองหารองพื้นที่ให้การปกปิดระดับ medium-full coverage เราว่า BSC ตัวนี้เหมาะมากค่ะ ให้การปกปิดได้ดี และก็มีความแมทที่กำลังพอดี ไม่แห้งจนเกินไป

ข้อควรระวัง
- สำหรับเราคิดว่าถ้าคนผิวแห้ง/ผิวลอก รองพื้นตัวนี้อาจจะแห้งไปหน่อยค่ะ
- ด้วยความที่เป็นเนื้อแมท อาจจะต้องรีบเกลี่ยนิดนึงเพื่อไม่ให้เป็นคราบ
- ตัวนี้มีน้ำหอมค่ะ เป็นกลิ่นอ่อน ๆ

โดยรวมก็คือเราชอบนะ เพราะใช้ตัวนี้แล้วแทบจะไม่ได้ลงคอนซีลเลอร์ตามเลย เต็มรอยสิว รอยแดง โดยเฉพาะบริเวณข้างแก้มได้กริบมาก ทั้ง ๆ ที่ใช้แค่บาง ๆ

ใช้เซรั่มมาก็เยอะ แต่เซรั่มตัวนี้ของ origins ทำออกมาได้แตกต่างจากตัวอื่น ๆ ที่เคยใช้มากค่ะ คือนางมีความเย็น ๆ ที่ผิวตอนทา ให้ความรู้สึกตื่นผิวมาก กลิ่นจะออกแนว citrus ให้ความรู้สึกสดชื่น.. ใช้ตอนเช้าคือผิวตื่นมาก ใช้ตอนกลางคืนก็ช่วยปลุกผิวที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันได้ดีมาก ๆ เลย

เซรั่มตัวนี้หลัก ๆ ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยให้ผิว “กระจ่างใสขึ้น และช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น” และหลังจากที่ได้ใช้อย่างต่อเนื่อง 14 วันมานี้ สิ่งแรกที่รู้สึกได้เลยก็คือผิวดูสดใสขึ้น ความกระจ่างใสอาจจะไม่ได้เห็นชัดเจนมากนัก แต่ผิวดูดีขึ้น สดใสและเรียบเนียนขึ้นมาก ต่อให้นอนน้อยตัวนี้ก็เอาอยู่ เพราะปกติถ้านอนน้อยผิวของเราจะโทรมอย่างเห็นได้ชัดเลย คือต้องบำรุงหนัก ๆ เป็นสัปดาห์กว่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม แต่นี้คือใช้ตัวนี้กับการบำรุงปกติ ก็คือเอาอยู่จ้า

เนื้อสัมผัสมีความบางเบาดีมาก ใช้ตอนกลางวัน แต่งหน้าตามได้ไม่เหนอะหนะค่ะ และก็ไม่ได้ทำให้เครื่องสำอางค์เยิ้มมากกว่าเดิมอีกด้วย (เราเป็นคนผิวผสม)

ถ้าจะพูดถึงข้อเสียของตัวนี้ สำหรับเรามีอยู่นิดเดียว ก็คือ ความเย็นเนี่ยแหละ อย่างที่บอกไปว่าตอนทาบนผิวมันจะเย็นเบา ๆ แล้วตอนแรกที่ทาเราก็ไม่รู้ เผลอไปทาใกล้ดวงตา ผลคือแอบเย็น ๆ เคือง ๆ หน่อย ๆ แต่ก็แค่แปปเดียวนะ ไม่ได้เป็นการแพ้แต่อย่างใด ก็ถ้าใครใช้ตัวนี้ก็ระวังอย่าทาใกล้ดวงตานะคะ เตือน~

นอกนั้นให้คะแนนเต็ม ไม่หักจ้า สมกับความ sold out อย่างเร็วบนหน้าเว็บ

ตอนที่ได้มาครั้งแรกก็แอบหวั่นใจว่าจะแพ้มั้ย เพราะเมื่อสมัยวัยรุ่นเคยแพ้ผลิตภัณฑ์ของ olay มาแล้วครั้งนึง แต่พอได้ลองใช้ตัวนี้ ไม่แพ้ค่ะ ใช้ได้ และใช้มาแล้วเป็นสัปดาห์แล้วด้วย คือชอบเนื้อสัมผัสนะคะ มีความเบาบางดี หลังจากเกลี่ยจนซึมเข้าผิวแล้วก็ไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะเลย รู้สึกถึงความชุ่มชื้นดีมาก ใช้ตัวนี้แล้วแต่งหน้าตามได้ไม่เยิ้มค่ะ ถือว่าเริศอยู่

สิ่งที่ไม่ชอบอย่างเดียวสำหรับตัวนี้ คือ “กลิ่น” เราว่ากลิ่นแอบฉุนไปหน่อยสำหรับเรานะ มีความเป็นน้ำหอมสูงอะ

แต่ถ้าถามว่าแนะนำมั้ย ถ้ามีงบไม่มาก เราแนะนำนะ ใช้แล้วหน้ารู้สึกดีจริง คือเห็นผลจริง ราคาไม่แรงอีกด้วย

ปกติใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนของบิโอเรอยู่แล้วแต่ว่าเป็นสูตร original สีขาว ตอนนี้ได้มาลองเป็นสีดำรู้สึกชอบนะคะ

คือประสิทธิภาพของแผ่นสีขาวและสีดำเราว่าไม่ต่างกันเลย ดึงสิวเสี้ยนออกได้เหมือนกันค่ะ แต่เราว่าแผ่นสีดำต้องใช้น้ำในปริมาณที่เยอะกว่าแผ่นสีขาว และต้องทิ้งไว้นานกว่านิดหน่อย แต่ข้อดีของตัวนี้ก็คือไม่ค่อยทิ้งคราบไว้ที่ผิวมากนัก ลอกออกง่ายดีค่ะ ไม่เจ็บผิวค่ะ

ปล. แอบขัดใจรูปทรงนิดหน่อย ด้วยเราเป็นคนที่รูปจมูกใหญ่ แผ่นเลยไม่ค่อยเข้ากับรูปจมูกเราเท่าไร >,,< อยากให้ทำแผ่นใหญ่ออกมาด้วยจะดีมากค่ะ

เราเคยใช้สเปรย์น้ำแร่ของ vichy มาก่อน แล้วก็รู้สึกชอบในความอ่อนโยนดี พอมาถึงตัวนี้ก็เลยคิดว่าน่าจะให้ความประทับใจได้เหมือนกัน

พอได้ลองใช้ 3 วันแรก คือรู้สึกได้เลยว่าผิวที่ช่วงนี้แพ้ฝุ่น (เพราะฝุ่นพิษเยอะมาก) ก็คือช่วยได้เยอะเลย การเติมความชุ่มชื้นให้ผิวก็คือดี ทั้ง ๆ ที่เนื้อผลิตภัณฑ์มีความบางเบา

ส่วนตัวเราใช้แค่ drop เล็ก ๆ ทาก็ทั่วหน้าแล้ว ซึมง่ายมาก ตามด้วยครีมบำรุงก็คือไม่รู้สึกเหนอะหนะเลยค่ะ ชอบมาก

ช่วงนั้นของเดือนสิวขึ้นพอดีเลย ได้ลองตัวนี้แล้วประทับใจมาก คือเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ช่วยให้สิวยุบไวขึ้นเยอะมาก กลิ่นก็ดีด้วย ปลื้มมากค่ะ ถ้าหมดขนาดทดลองแล้วก็คิดว่าจะซื้อขนาดจริงมาติดไว้แน่นอน

วิธีใช้ของเราจะใช้แค่เฉพาะตอนกลางคืนนะคะ (จริง ๆ คือใช้ได้เช้า-เย็นนะ) ทาทั่วหน้าแต่เน้นตรงบริเวณที่มีสิวเยอะหน่อย รอให้เนื้อเซรั่มซึมแล้วก็ตามด้วยครีมตัวอื่นได้เลยค่ะ

เจลล้างหน้าเนื้อใส ๆ ล้างหน้ามาแล้วไม่ทำให้หน้าแห้ง คือยังมีความชุ่มชื่นอยู่บนผิวอะ คือดี~ และด้วยความที่เป็นเจลล้างหน้าก็ทำให้ฟองอาจจะไม่เยอะ มีฟองเบา ๆ ส่วนเรื่องของกลิ่น ส่วนตัวคิดว่าหอมดีค่ะ แต่แอบฉุนนิด ๆ งงมะ5555 ก็คือเป็นกลิ่นที่หอมแต่แรงไปนิดนึง

ในเรื่องการลดสิวมองว่าถ้าล้างหน้าสะอาด + ความสมดุลผิวดี (คือล้างออกมาแล้วไม่ทิ้งความมัน กับไม่ทำให้หน้าแห้วเกินไป) สิวก็จะลดตามไปด้วยอยู่แล้ว และตัวนี้ก็ล้างหน้าได้สะอาดดีมากค่ะ ชอบ

ชอบมากกกกก คือกลิ่นหอมอ่อน ๆ แบบ floral- fruity เบา ๆ แล้วคือแห้งไว ไม่เป็นคราบ ส่วนเรื่องการช่วยให้ขึ้นช้า อันนี้เนื่องจากว่าเราเลเซอร์ขนออกหมดแล้ว ก็เลยไม่แน่ใจว่าช่วยเรื่องขนขึ้นช้ามั้ย แต่ชอบเลยกลิ่นกับแห้งไม่เป็นคราบมาก ๆ ค่ะ

เป็นเนื้อเจลใสที่ซึมเร็ว ทำให้สามารถแต่งหน้าตามได้ เราใช้เจลแต้มสิวก่อนการลงสกินแคร์หรือการแต่งหน้า คือจะวนเจลให้ซึมเข้าสู่ผิวก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยลงอย่างอื่นตามทีหลัง ส่วนเรื่องของสิว แต้ม 1-2 วัน สิวก็ยุบหายตัวดีมากค่า

เป็นเซรั่มเนื้อบางเบาดีค่ะ ทาง่าย เบาสบายผิว แต่ทิ้งความลื่น ๆ ไว้บนผิวนิด ๆ หลังทา แต่ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ กลิ่รก็สไตล์การ์นิเย่เลยค่ะ (บอกไม่ถูกอะ5555) ส่วนเรื่องการบูสท์ผิวถ้าเทียบกับเซรั่มตามท้องตลาดทั่วไปเหมือนกัน ตัวนี้ก็ถือว่าโอเคนะคะ แต่ถ้าให้เทียบไปเคาน์เตอร์แบรนด์ อาจจะยังให้ผลไม่ชัดเท่าทีควรจ้า

ชอบตรงที่ช่วยลดความมันได้ดี แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าทำให้หน้าแห้งจนเกินไป (ความรู้สึกหลังล้างหน้า) แต่เรื่องของเนื้อโฟมก็ยังคงนุ่มตามสไตล์เซนกะเลยค่ะ มีกลิ่นหอมเย็น ๆ รวม ๆ ก็คือว่าชอบอยู่ค่ะ

ขอมารีวิว mizumi cici soothing moisture gel หน่อยค่าาาา อีกหนึ่งตัวที่อยากแนะนำ เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบามากค่ะ สบายผิวเลย ทาง่าย ซึมเร็ว เย็นผิวนิด ๆ คือดีงาม ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำหอม รู้สึกถึงความอ่อนโยนเลย คนผิวมันปลื้มแน่นอน ส่วนตัวใช้ทาตอนเช้า วันสบาย ๆ ชิว ๆ