Profile

​ส่วนตัวเราชอบน้องครีมเขียวคาโมมายล์ตัวนี้นะคะ เพราะเราว่ามันเป็นสกินแคร์ที่ช่วยทำให้ผิวเราของเราแข็งแรงขึ้นและด้วยความที่ตัวนี้มีเนื้อสีเขียวจึงช่วยเรื่องความแดงบนผิวได้ดี ซึ่งเมื่อใช้แล้วตัวนี้จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเบสเขียวทั่วไปที่เนื้อจะเกลี่ยยากและก่อให้เกิดการอุดตันค่ะ 

หลังจากได้ลองใช้ SENKA Deep Moist Lotion II มา 2 สัปดาห์ ส่วนตัวรู้สึกชอบเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบา เมื่อทาแล้วรู้สึกว่าเนื้อตัวนี้ซึมไวไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ให้ควาชุ่มชื้นได้ดีประมาณนึง โดยตัวนี้เราจะลงเป็นแรกและตามด้วยสกินแคร์ตัวอื่นๆตาม นอกจากนี้เราชอบใช้ในตอนเช้า เพราะเราชอบความสบายผิว และระหว่างวันไม่ทำให้หน้ามันเยิ้มแต่อย่างใดค่ะ และตัวนี้เขาผลิตที่ไต้หวันด้วยนะคะ และส่วนผสมก็เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายแบบเราด้วยค่ะ

ก่อนรีวิวนั้น ต้องขอบอกก่อนว่าเราเป็นคนนึงที่เคยใช้กันแดดรุ่นก่อนๆของทาง Banana Boat มาก่อนแล้ว อย่างที่ทุกคนรู้ว่าแบรนด์นี้ดังเรื่องกันแดดมาก ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดี แต่รุ่นก่อนเนื้อค่อนข้างข้นและเหนียว เวลาทาแล้วจะไม่ค่อยสบายผิวเท่าไร แต่ตอนนี้ทางแบรนด์ได้ออกกันแดดตัวใหม่อย่างเจ้า Banana Boat Simply Protect Aqua Daily Moisture UV Protection Sunscreen Lotion SPF50+ PA++++ ซึ่งเราได้ลองแล้วมีความรู้สึกต่างไปจากตัวก่อนๆ คือ
• เนื้อมีความเกลี่ยง่าย
• ทาแล้วรู้สึกสบายผิว ไม่เหนอะหนะ
• มีความอ่อนโยนกับผิวมากขึ้น (ผิวแพ้ง่ายแบบเราคือยิ้มเลยค่ะ แม้จะมีน้ำหอมแต่ก็บางเบามาก ผิวเราเลยไม่ระคายเคืองแต่อย่างใด)
ซึ่งจากภาพรวมแล้วเราค่อยข้างชอบกันแดดตัวนี้มากเลยค่ะ คือไปทะเลก็พกไปทาด้วย เพราะทาแล้วอุ่นใจว่าผิวไม่ไหม ส่วนเรื่องความมันก็ไม่เท่าไรค่ะ ระหว่างวันผิวก็ดูโกลว์ขึ้นฉ่ำๆ ผิวกำลังสวยซึ่งเราก็โอเค และสูตรนี้เราว่าคนที่ผิวขาดน้ำแบบเราต้องปลื้ม เพราะตัวนี้ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นไม่แห้งตึงด้วยค่ะ

ก่อนรีวิวขอออกตัวก่อนว่าเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยทาครีมกันแดดตัวตัวเลย สาเหตุหลักคือไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะบนผิว เพราะปกติเมืองไทยก็มีอากาศที่ร้อนจนตัวเหนียวอยู่แล้ว จนที่แขนของเราเริ่มมีกระเล็กๆสีน้ำตาลขึ้น จนกระทั่งเราได้มาลอง biore us anti-pollution body care serum สูตร refresh bright สีฟ้าความรู้สึกเปลี่ยนเลย เราว่าตัวนี้เป็นกันแดดที่มีเนื้อเจลแบบเย็นๆ กลิ่นหอมด้วย เมื่อทาแล้วซึมดี ไม่ค่อยรู้สึกถึงความเหนียวเท่าไรค่ะ เราว่าทาง่าย และตัวนี้เป็นกันแดดตัวแรกที่เราชอบเลยค่ะ ขนาดมาต่างจังหวัด เล่นน้ำ(ตัวนี้กันน้ำด้วยนะคะ) เราก็พกติดมาด้วยค่ะ แต่ในความดีนี้เราก็ขอหักคะแนนนิดนึงตรงแพ็คเกจที่บุบบิบง่ายไปหน่อยค่ะ

ต้องบอกก่อนว่าใช้ที่ล้างหน้าของ senka ครบทุกสูตรแล้ว จนได้มาลอง SENKA Perfect Gel Gentle Wash ส่วนตัวรู้สึกว่าตัวนี้ค่อยข้างอ่อนโยนกับผิว และด้วยความที่เนื้อเป็นเจลใส และไม่มีฟองของตัวนี้ทำให้เรารู้สึกว่าหลังจากล้างหน้าแล้วผิวไม่ได้เสียความชุ่มชื้น นอกจากนี้กลิ่นก็หอมสดชื่นอีกด้วย โดยรวมเราชอบนะ แต่หากใครที่ผิวแพ้น้ำหอมอาจต้องระวังนิดนึงนะคะ เพราะตัวนี้ใส่น้ำหอมมาด้วยค่ะ

ตัวนี้ตอนนี้สำหรับเราคือยืนหนึ่ง ยังไม่มีตัวไหนมาแทนได้ตอนนี้ ที่เราชอบกันแดดตัวนี้ เพราะมันเป็นมากกว่ากันแดด
ตรงที่ตัวนี้จะช่วยปกป้องผิวของเราจากมลภาวะในอากาศ และปัจจัยอื่นๆที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นเกสรดอกไม้ อนุภาคของฝุ่น หรือฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ด้วยเทคโนโลยี Aller Defense Technology (ช่วงฝุ่นเยอะไปรอดมาได้ก็ตัวนี้แหละ) นอกจากนี้ด้วยความที่เนื้อกันแดดที่เป็นเอสเซ้นส์ก็ให้ความชุ่มชื่นได้ดี เมื่อทาแล้วไม่เหนอะหนะให้ความรู้สึกสบายผิว และสิ่งสำคัญที่สุดคือกันแดดตัวนี้ปราศจากส่วนผสมของกันแดดทางเคมี (non-chemical sunscreen) สามารถใช้กับเด็กอายุ 48 วันขึ้นไปได้ ดังนั้นคนผิวแพ้ง่ายแบบเราก็รอด!!! เราไม่แพ้ แต่ตัวนี้อาจจะไม่ได้คุมมันเท่าไร เพราะช่วงกลางวันช่วงทีโซนก็มีความวาวบ้างเล็กน้อย แต่เราก็ไม่ได้ซีเรียสในส่วนนี้ เพราะโดยภาพรวมตัวนี้ก็ช่วยปกป้องผิวได้ดีเลยทีเดียว
ปล.เราใช้ขึ้นขวดที่ 4 แล้วค่ะ

หลังจากได้ลองใช้ Vaseline Dry Serum Ultra Whitening แล้วรู้สึกว่าตอนทาใต้วงแขนจะสว่างขึ้นนิดนึงค่ะ เมื่อใช้ติดต่อกันใต้วงแขนกระจ่างใสขึ้น ส่วนตัวชอบกลิ่นของ vaseline หอมดีค่ะ และระหว่างวันที่ใช้ใต้วงแขนจะไม่เปียก หรือแฉะ เมื่อไม่เปียก ไม่แฉะ กลิ่นตัวก็ไม่มีค่ะ สรุปคือใช้แล้วชอบ ถ้าหมดก็จะซื้อใช้ต่อค่ะ

หลังจากได้ลองใช้ ครีมอาบน้ำ Parrot Natural Hyaluron Vitamin C&E สูตร Orange Booster รู้สึกชอบตรงที่หลังจากอาบน้ำแล้วผิวไม่เอี๊ยดไม่แห้งตึง โดยในขณะเดียวกันตอนล้างก็ล้างออกได้ไม่ยาก และที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือความล้ำที่นำ Hyaluron มาใส่พร้อมกับวิตามิน C&E ที่ทำให้การอาบน้ำไม่ใช่เพียงทำให้ร่างกายสะอาด แต่กลับได้การดูแลผิวไปด้วย นอกจากนี้คนที่เคยใช้สบู่นกแก้วคงจะรู้อยู่แล้วว่าในเรื่องกลิ่นนั้น หอมติดตัวมาก และรุ่นนี้ก็ทำกลิ่นออกมาได้ดีค่ะหอมละมุนสดชื่นมาก

สภาพผิว : ผิวขาดน้ำ โดยผิวจะแห้งบริเวณแก้ม และมีความมันบริเวณทีโซน นอกจากนี้ยังมีรูขุมขนกว้างบริเวณข้างจมูก และหน้าค่อนข้างแดงง่าย
หลังจากได้ลองใช้ : คือต้องบอกก่อนว่าเป็นคนที่ไม่ใช้รองพื้น เนื่องจากเรามีปัญหาเรื่องรูขุมขนที่กว้างเวลาทารองพื้นแล้วเหมือนเน้นให้เห็นรูขุมขนชัด และระหว่างวันรองพื้นก็จะตกร่องเป็นคราบ ที่นี่เรามีโอกาสมาได้รองใช้ Yves Saint Laurent All Hours Foundation สี B20โดยเราใช้มือในการเกลี่ย เนื้อเกลี่ยง่าย และเมื่อทาเสร็จแล้วผิวจะค่อนข้างแมทแต่ไม่ได้ทำให้ผิวแห้ง ทาแล้วไม่ค่อยเน้นรูขุมขนเท่าไร และปิดรอยดำ รอยแดงได้ดี เราชอบผิวช่วงเที่ยงมากเพราะดูโกลว์ผิวสวย บริเวณจมูกรองพื้นก็ไม่หลุดคือติดทนมาก พอช่วง 4 ทุ่ม ผิวก็จะมัน และมีรองพื้นบางส่วนตกร่องอาจจะเนื่องจากเราใส่หน้ากากอนามัยแล้วอาจจะอบ ในการทดลองใช้เราไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน มีไปที่ร้อนๆ(บ่อน้ำพุร้อนที่สุราษฎร์) ด้วย โดยรวมถือเป็นรองพื้นที่เราชอบ และเป็นรองพื้นที่ดีตัวนึงเลยค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ : Aveeno Skin Relief Moisturizing Lotion แล้วสิ่งแรกที่ชอบคือช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ดีมาก และที่สำคัญคือเป็นโลชั่นที่ไม่ใส่น้ำหอม เวลาทาก่อนนอนแล้วในระหว่างนอนแม้ส่วนที่ทาโดนหน้าก็ไม่แพ้ อ่อนโยนมาก ส่วนเนื้อสัมผัสอาจค่อนข้างเหนียวเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเหนียวและไม่สบายตัวแต่อย่างไร โดยรวมแล้วชอบค่ะ

หลังจากลองใช้ 
de leaf pomgranate ageless glow moisturizingel สิ่งที่ชอบคือเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นเจลเกลี่ยง่าย ซึมค่อนข้างไว แต่ก็ยังคงความชุ่มชื้น ตัวนี้เราจะใช้แต่ช่วงเวลากลางคืนซะส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังชอบแพ็คเกจที่มีฝาปิดคั่นกลางระหว่างตัวฝาและครีม แต่สิ่งที่อยากให้ทางแบรนด์มีมาให้ในกล่องคือไม้พาย เพราะมือจะได้ไม่สัมผัสกับเนื้อครีมโดยตรงจนทำให้ประสิทธิภาพของครีมอาจลดลงได้ค่ะ

ต้องบอกก่อนว่าเรามีสภาพผิวที่ค่อนข้างขาดน้ำ และแพ้ง่าย นอกจากนี้ยังมีปัญหาผิวแบบเรื่องรูขุมขนกว้าง ผิวแดงง่าย มีสิว และรอยดำ/แดง จากสิว ค่ะ ซึ่งปกติเราจะไม่ใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องความกระจ่างใส เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มันใช้วิตามินซี และเน้นการผลัดเซลล์ผิว เมื่อใช้ผิวเราจะแดง และแสบ แต่ครั้งนี้เราของใช้เปิดใจใช้ Clinique Even Better Clinical™ 
Radical Dark Spot Corrector + Interrupter ดูซึ่งเราก็กลัวว่าผิวจะแพ้แดง และแสบ แต่!!!มันไม่เป็นแบบนั้นค่ะ เมื่อใช้แล้วผิวก็เป็นปกติไม่แพ้แดง และแสบเลยค่ะ จากนั้นเราก็ใช้เรื่อยมาเช้า-เย็น เป็นระยะเวลา 14 วัน สิ่งที่เราสังเกตเห็นคือ
• ผิวเราสม่ำเสมอขึ้น และก็ดูกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม
• รอยสิวที่มีก็ดูจางลงเล็กน้อย คิดว่าถ้าใช้ต่อเนื่องนานกว่านี้น่าจะเห็นผลมากกว่านี้
• รูขุมขนดูกระชับขึ้น
สิ่งที่ประทับใจนอกจากผลลัพธ์ด้านความกระจ่างใส และเรื่องจุดด่างดำแล้ว เราชอบเนื้อสัมผัสที่นุ่มและเกลี่ยง่ายซึมไวไม่เหนอะหนะสามารถแต่งหน้าต่อได้โดยไม่เป็นคราบ นอกจากนี้ยังประทับใจในความอ่อนโยนกับผิว (ไม่มีน้ำหอม,พาราเบน) แม้ผิวเราจะไม่แข็งแรง แพ้ง่าย ก็สามารถใช้ได้แบบสบายใจ รวมๆคือชอบมาก และแฮปปี้กับสีผิวที่สม่ำเสมอ และกระจ่างใสค่ะ

Cream De Latex All In One Detoxifying Deep Cleansing Water Gel เป็นเจลล้างหน้าที่สะดวกสบายสุดๆ เพราะล้างที่เดียวเครื่องสำอางค์ออกพร้อมกับเป็นโฟมในตัวไปอีก วันไหนที่ขี้เกียจคือตัวนี้ตัวเดียวจบ แต่ถ้าใครที่แต่งหน้าแบบหนัก บล็อกตาดำอาจจะต้องมีตัวช่วยนิดนึง แต่ส่วนตัวแต่งหน้าน้อยเลยรอด!! และที่สำคัญชอบความอ่อนโยนที่ไม่แสบ และไม่ทำให้ผิวเอี๊ยดผิวแห้ง ชอบมากค่ะ

CeraVe Facial Moisturising Lotion เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวธรรมดาถึงแห้ง
• หลังจากใช้ = ต้องบอกก่อนว่าเรามีสภาพผิวขาดน้ำ มีลอกบ้างเป็นบางส่วน เมื่อใช้แล้วผิวชุ่มชื่นขึ้นไม่ลอก ไม่แห้ง รู้สึกผิวอิ่มน้ำ นอกจากนี้รู้สึกผิวแข็งแรงขึ้นค่ะ
• เนื้อสัมผัส/กลิ่น = เนื้อบางเบา เกลี่ยง่ายซึมไว ไม่เหนอะหนะ / ไม่มีกลิ่น เหมาะกับสาวที่แพ้น้ำหอม หรือผิวที่อ่อนแอ
• แพ็คเกจ = ยอมรับในการออกแบบคือเราชอบมาก เพราะครีมไม่ต้องสัมผัสกับอากาศ หรือสิ่งสกปรกต่างๆเมื่อเราใช้งาน และยังเหมาะกับการพกพาด้วยค่ะ

หลังจากได้ทดลองใช้แล้วก็ชอบนะคะ ราคาไม่แรง เช็คเครื่องสำอางค์ออกดีค่ะ เมื่อเช็ดเสร็จแล้วผิวไม่แห้งตึงค่ะ แต่ขอหักคะแนนตรงใส่น้ำหอมค่ะ คนผิวแพ้ง่ายอาจต้องทดสอบการแพ้ก่อนนะคะ

La Roche-Posay Anthelios Shaka Fluid SPF50+ PA++++ (ลาโรช-โพเซย์ แอนเทลิโอส ชาคคา ฟลูอิด) ครีมกันแดดหน้า เนื้อฟลูอิด สำหรับผิวผสม-ผิวธรรมดา ปกป้องผิวจากอันตรายของรังสี UVA ด้วยค่าปกป้อง PPD 46

- ตัวนี้จะเป็นกันแดดที่มีเนื้อเหลวสีออกเหลืองนวลๆ ก่อนใช้จึงต้องเขย่าก่อนเพื่อให้ไม่เกิดการแยกชั้นของกันแดด
- เนื้อค่อนข้างซึมไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้
- ควบคุมความมันได้ดีระดับหนึ่ง
- ทาแล้วหน้าไม่ลอย และป้องกันแสงแดดได้ดี
- ส่วนผสมที่อาจก่อการแพ้คือ แอลกอฮอล์ ค่ะ

สรุปผลการใช้ : เราเป็นคนที่มีผิวแพ้ง่าย และผิวขาดน้ำ เมื่อได้ลองใช้แล้วรู้สึกชอบเพราะเราไม่แพ้ และปกติบริเวณทีโซนชอบมันเยิ้ม แต่ตัวนี้คุมความมันได้ดีระดับนึงหน้าวาวๆฉ่ำๆนิดๆ และที่ปลื้มมากอีกอย่างคือไม่เหนอะหนะ ทำให้สบายผิว ลงแป้งต่อได้เลยค่ะ

Senka perfect whip acne care
- เนื้อผลิตภัณฑ์ข้นและแน่นมาก เหมาะแก่การนำมาตีฟอง เพราะให้ฟองเยอะและนิ่มมากค่ะ
- สีผลิตภัณฑ์ออกสีเขียวๆเทาๆ
- มีกลิ่นอ่อนๆตามสไตล์ senka
- ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีน้ำหอม และแอลกอฮอล์ อาจไม่เหมาะกับผู้มีผิวอ่อนแอแพ้ง่าย (แอบคะแนนตรงนี้ค่ะ)

ผลลัพธ์เมื่อได้ลองใช้ : ส่วนตัวชอบที่ล้างแล้วหน้าไม่แห้ง และรู้สึกหน้าสะอาดดีค่ะ ส่วนเรื่องสิวก็พอช่วยได้นิดหน่อยค่ะ ควรใช้พวกยาแต้มสิวควบคู่กันในการรักษาค่ะ

ยาแต้มสิวของ PURICAS DRAGON'S BLOOD ตัวนี้ มีเนื้อเป็นเจลสีออกเหลืองๆ มีกลิ่นเหมือนทีทรีที่ใช้รักษาสิว ส่วนตัวใช้แล้วรู้สึกว่า...
- เป็นเจลทาสิวที่อ่อนโยนทาแล้วไม่แสบ และผิวบริเวณที่ทาก็ไม่แห้ง
- เนื้อเจลซึมไว สามารถแต่งหน้าต่อได้ทันที แถมไม่เป็นคราบระหว่างวัน
- การยุบตัวของสิวอาจจะค่อนข้างช้ากว่าแบรนด์อื่นๆ แต่อาจเป็นเพราะสารสกัดธรรมชาติ และความอ่อนโยนจึงทำให้ต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย

สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงคือกลิ่น จะบอกว่าหอมทะลุหลอดเลยจร้า ไม่เปิดฝาก็ได้กลิ่นแล้ว ซึ่งเป็นกลิ่นที่สดชื่นดีค่ะ แต่ถ้าใครที่ผิวแพ้น้ำหอมต้องทดสอบก่อนใช้นะคะ

ตัวนี้เนื้อสัมผัสค่อนข้างเหลว และเนียนนุ่มค่ะ มีฟองปานกลาง เมื่อล้างหน้าแล้วไม่ได้ทำให้ผิวแห้งตึง แต่ผิวรู้สึกชุ่มชื้น ใครผิวขาดน้ำ หรือผิวแห้งตัวนี้แนะนำค่ะ ที่สำคัญรู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้นด้วยค่ะ

หังจากได้ลองใช้ชอบเนื้อผลิตภัณฑ์ที่บางเบาไม่หนักผิว และซึมไว แต่คงความชุ่มชื้น เมื่อใช้แล้วสังเกตว่ารูขุมขนเล็กลง ส่วนเรื่องริ้วรอยปกติไม่ค่อยมี แต่คิดว่าถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ที่ลดเลือนริ้วรอยก่อนริ้วรอยจะมาก็น่าจะเป็นการยึดอายุผิวได้ค่ะ แต่ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอม ใครแพ้ง่ายขอให้ลองเทสก่อนนะคะ

เคยใช้สบู่นกแก้วแบบก้อนมาก่อน พอมาลองแบบเป็นครีมต้องบอกเลยว่ายังคงเอกลักษณ์เรื่องกลิ่นหอมได้ดีมาตลอด อันนี้คือไม่ผิดหวัง และชอบตรงที่ล้างออกง่าย แถมให้ความชุ่มชื้นผิวไม่รู้สึกแห้งเลย ประทับใจมาก ส่วนตัวชอบทุกกลิ่น สลับกันใช้ตามโอกาสวันไหนอยากสดชื่นก็หยิบHYDRO FRESH มาใช้ ถ้าอยากเป็นผู้หญิงสวยๆหน่อย หยิบWHITE PERFECT ถ้าวันไหนอยากเรียบร้อยหวานๆก็ใช้SOFT ROMANCE ค่ะ ทั้งสามตัวนี้เวลาใช้ฟองอาจไม่ได้เยอะ แต่การที่ฟองไม่เยอะก็มีข้อดีตรงผิวไม่แห้งตึง ส่วนใหญ่สบู่ถ้ามีฟองเยอะผิวมักแห้งตึงแบบเอี๊ยดๆค่ะ

หลังจากที่ได้ลองใช้มาประมาณ 4 วัน รู้สึกชอบตรงที่ทำให้หน้าสว่างขึ้นมาหนึ่งระดับ เพราะตัวนี้มีชิมเมอร์เล็กๆช่วยกระจายแสงด้วยนะคะ ตอนแรกเราไม่เห็นแต่อยู่กับไฟสีส้มจึงเห็นความวิ้งของกันแดดตัวนี้ค่ะ และก็ช่วยทำให้เครื่องสำอาค์ติดทน แถมระหว่างวันหน้าก็ไม่ได้มันเยิ้มถือว่าช่วยควบคุมความมันได้ดีถ้าเทียบกับกันแดดตัวอื่นๆ 

แต่ขอหักคะแนนตรงที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แม้จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ครีมซึมไว แต่ในทางกลับกันทำให้หน้าค่อนข้างแห้ง ถ้าใครผิวแห้งเราไม่แนะนำ แต่ถ้าใจรักจะใช้แนะนำให้ลงครีมบำรุงเยอะนิดนึงค่ะ

เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย และผิวอ่อนแอ ตัวนี้ใช้ตอนที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 เยอะ หน้าตอนนั้นคือผดขึ้น แต่มีตัวนี้แหละที่มาช่วย ตอนทาเนื้อบางเบาและเป็นฟิล์มเคลือบผิว เข้าใจเอาเองว่าช่วยกันฝุ่นต่างๆได้ ฮ่าๆๆ