Profile

คุณสมบัติ - ช่วยกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง (จิ๊ดนึง) เพราะตัวเบสช่วยกระจายแสง มีวิ้งๆละเอียด แต่ตอนใช้ก่อนลงแป้งนี่เหนอะหนะสุดๆเลย ไม่รู้ว่าเป็น แค่จี๊ปหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าเนื้อเบสมันแยกตัวกับน้ำมัน จะเขย่ายังไงก็ไม่หาย สุดท้ายก็ลงไปทั้งๆอย่างนั้น แต่ ตอนทาแป้งเสร็จก็เบาๆดีเน้อ ทดสอบกับแป้ง เบสสาเก + แป้งมะนาว (น่ากินจังเลย ฟังแล้วนึกถึง สาเก + มะนาว อู้ว... ซู่ซ่า) ทดสอบเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2550 ชอบตรงที่ - คุมมันได้นานกว่าที่คิด แถมดูไม่ค่อยออก ด้วยค่ะว่าหน้ามัน แค่เห็นว่าจมูกมีเงาๆขึ้นเฉยๆ ซับมัน ครั้งแรกหลังแต่งหน้าประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วก็ไม่ต้อง เติมแป้งเลยเพราะยังผ่องอยู่ แต่งหน้าตั้งแต่ 8 โมงเช้า ผ่องจนถึงประมาณบ่าย 2 จากนั้นเติมแป้งเรื่อยๆ ก็ไม่ มีปัญหาอะไร นอกจากนี้เพราะตัวเบสไม่ออกสี ทำให้ แต่งแล้วออกมาแล้วดูเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ชอบตรงที่ - เนื้อเบสมันแยกตัวกับน้ำมัน เวลาใช้ แล้วรู้สึกเหนอะหนะ แล้วก็มีกลิ่นแปลกๆ ไม่หอมสดชื่น เหมือนเซรั่มพีชสาเก เลยรู้สึกแย่ๆ ยังไงไม่รู้เวลาทา เบส -..- เบสสาเก +แป้ง KP 20 ทดสอบเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 ชอบตรงที่ - คุมมันได้ดี ทั้งวันซับแค่ 3 ที ไม่ชอบตรงที่ - หมอง หมอง หมอง จาง จาง จาง ซีด ซีด ซีด ป่วย ป่วย ป่วย ใช้แล้วหน้าดูแย่ค่ะ ไม่ปกปิดอะไรเลย แถมเมคอัพ เลือนเร็วมาก เบสสาเก + แป้งป่าตอง ทดสอบเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2550 ชอบตรงที่ - ปิดรูขุมขนได้ดีกว่าตัวอื่นๆทุกตัวเลย หน้า เนียนมาก ไม่ชอบตรงที่ - มันปิดได้แค่ 15 นาที หลังจากนั้นพอออกจากบ้าน ขึ้นรถไฟฟ้า มันก็เริ่ม... จาง เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง หน้ามันแผล่บบบบ ซับเสร็จ ก็ไม่ผ่อง เติมแป้งเข้าไป ก็ไม่เด้ง ถึงเที่ยง ก็โทรมพอดีค่ะ (แต่งตอน 7 โมงเช้า)

เป็นเบสปกปิดระดับน้อยสีเขียว ช่วยให้หน้าผ่องขึ้นเล็ก น้อย เนื้อเบสมีลักษณะเหลว เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว แต่รู้สึกว่ายัง ไม่ทนทานทั้งวัน โดยเฉพาะกับจี๊ปที่หน้ามันมาก แค่เที่ยงๆก็หายหมด แล้ว ทดสอบกับแป้ง เบสมิชชา แมท เขียว + ป่าตอง ทดสอบเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ซับมันครั้งแรกหลังเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ซับแล้วยัง ผ่องอยู่ค่ะ แต่ถ้าเหงื่อออก มันต้านเหงื่อไม่ได้เลย เอาทิชชู่ซับ เหงื่อแล้วแป้งหลุดตาม หน้าเริ่มหมองตอนเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมง แป้งป่าตอง เป็นแป้งที่อันเดอร์โทนชมพู แล้วสีก็จะออก เหมาะกับคนที่ผิวไม่ขาวมาก ถ้าคนผิวขาว หรือ โทน เหลืองแบบเรา ใช้ไปซักพักก็หมอง ไม่ว่าจะเติมหรือไม่ เติมแป้งค่ะ ส่วนเบสมิชชา วันนี้เรามีรอยสิวแดงนิดหน่อยเพราะ ประจำเดือนใกล้มา คิดว่าไม่ช่วยปกปิดรอยสิวนะคะ แต่พอโบกแป้งทับก็จางลง เรื่องคุมมัน คิดว่าสองตัวนี้รวมกันแล้วโอเคเลย เข้ากัน ได้ เพราะปกติถ้าไม่แต่งหน้าเลย เดินออกจากบ้าน 15 นาทีไปขึ้นรถไฟฟ้า หน้าก็เยิ้มแล้ว ป.ล. เราไม่ได้อยู่ห้องแอร์ตลอดเวลานะ มีขึ้นรถเมล์ - เดินแถวสามย่าน ถ้าอยู่ห้องแอร์ตลอดเวลาคงซับน้อย กว่านี้ แล้วก็อาจจะไม่หมองด้วยค่ะ เบสมิชชา แมท เขียว + MTI sign collection สี Y3 ทดสอบเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2550 แป้ง MTI รุ่นนี้ เป็นสี translucent นะคะ คู่นี้ บอกได้คำเดียวค่ะ "เข้ากันไม่ได้" เพราะแค่ชั่วโมงแรกที่ออกจากบ้านหน้าก็เริ่มมันแล้ว ทั้งที่วันนี้ตอนเช้าอากาศหนาวมากเลย ผ่านไปประมาณ 2-3 ชั่วโมง หน้าหมองจนดูไม่ได้ พยายามซับมัน และซับด้วยแป้งผสมรองพื้นแล้ว ก็ยัง ไม่ผ่องขึ้นค่ะ ตอนเย็นกลับบ้านมา บนหน้าไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

Rose Water Ideal face and eyes makeup remover ของ MISSHA ราคาประมาณ 400 บาท เพราะซื้อตอนที่เพิ่งมาเปิด ร้านใหม่ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ขึ้นราคารึยังนะคะ ข้อดี - กระปุกใหญ่ ใช้ได้นาน เช็ดรองพื้น บรัชออน ลิ ป ออกง่าย ไม่ต้องถู มีกลิ่นหอมใสๆ น่าจะเหมาะกับคน ที่แต่งหน้าไม่หนักมาก ข้อเสีย - เช็ดอายไลเนอร์กับมาสคาร่าออกยากมาก ความรู้สึกที่ได้ - บางครั้งความใสของน้ำทำให้เวลา ออกแรงกดสำลี น้ำยาจะไหลเข้าตาง่ายมาก (แม้จะ หลับตาแล้ว) อีกข้อหนึ่งคือ ตัวผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบ มาให้กดปุ่มปั๊ม น้ำยาพุ่งปรี๊ดทันที บางทีออกมามาก เกินไป (เสียดาย)

Loreal lip and eye remover (for waterproof makeup) ตัวนี้ซื้อตามกระแส อิอิ ราคา 200 บาทเท่านั้นเอง ข้อดี - ขจัดเครื่องสำอางค์ได้หมดจริงๆ เพราะมีส่วน ผสมของ oil ด้วย เวลาใช้ก็เขย่าๆเท ไม่ไหลหก ไม่ซึม เปื้อนด้านข้าง อิอิ ข้อเสีย - สำหรับคนผิวมัน(เช่นเรา) อาจรู้สึกเหนอะหนะ เล็กน้อยหลังใช้ ความรู้สึกที่ได้ - เครื่องสำอางค์ที่มองเห็นด้วยตาถูก เช็ดออกไปหมดค่ะ แต่ยังมีความรู้สึกว่ามีบางส่วนที่ตก ค้างอยู่บนใบหน้า แต่ก็ไม่แปลกเพราะเรายังต้องล้าง ด้วยสารทำความสะอาดอื่นๆอีก

Skin food Peach Sake ราคา 740 บาท ข้อดี - กลิ่นหอมมากกกกกกกกก ถึงมากที่สุด ใช้แล้ว สดชื่นมากๆ ช่วยกระชับรูขุมขนแบบเห็นได้ชัดหลังใช้ ประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะเราเป็นคนรูขุมขนกว้างมาก พี่ BA เลยแนะนำตัวนี้มา แต่ติดใจกลิ่นมากกว่าค่ะ หอมมากจริงๆ ข้อเสีย - กลิ่นน่าจะหอมนานกว่านี้หน่อย แบบว่า ติดใจ อะ T^T

Laura Mercier tinted moisturizer (oil free) ราคาเต็ม 1700 บาท 50ml เป็น moisturizer แบบมีสี บางคนอาจถามว่า แล้วมันต่างกับรองพื้นยังไง คำตอบคือ มันบางเบากว่า ไม่ช่วยปกปิด เหมาะกับวันที่อยากแต่งหน้าแบบธรรมชาติ มากๆ เพราะมันจะเหมือนไม่ได้แต่งหน้าเลย (แต่จริงๆ มันช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น แล้วก็ช่วยให้ แป้งฝุ่นติดดีขึ้นด้วยนะ) จี๊ปเพิ่งเคยใช้ของ LM เป็นยี่ห้อแรก เลยไม่รู้จะเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่นยังไง แต่ถามว่าชอบมั้ย --- ตอบเลยว่า ไม่สมราคาอย่างแรง ค่ะ เพราะจี๊ปเป็นคนที่มีปัญหาผิวเยอะ หน้าไม่ใส ไม่เนียน รูขุมขนกว้าง tinted moisturizer จึงไม่ตอบโจทย์จี๊ป แต่จะเหมาะกับคนที่ไม่มีปัญหาผิวเลยมากกว่า

Laura Mercier loose setting powder จี๊ปใช้สี ivory ราคาเต็ม 1490 บาท 29g แป้งที่โด่งดังเรื่องคุมมันในห้องโต๊ะเครื่องแป้ง ลองใช้แล้ว มันก็คุมมันจริงๆค่ะ แต่งหน้าเสร็จจะออกมาได้ look mat มากๆ ลองใช้เบสคิส แล้วครึ่งหนึ่งปัด KP อีกครึ่งหน้าปัด LM ปรากฎว่า หน้ามันพอๆกัน แต่ฝั่งที่ปัดด้วย KP จะไม่หมองเท่า LM เวลาหน้ามันนะ คะ - - สรุปว่า ชอบ KP มากกว่า

ขอบอกว่า รองพื้น water creamy foundation ของ LUNASOL เป็น A must รองพื้น ที่ควรมีติดโต๊ะเครื่อง แป้งของคุณไว้ เพราะ 1. มันเนียน มากกกกกกกกก เกลี่ยด้วยมือก็ง่าย BA เกลี่ยด้วยฟองน้ำให้ก็เนียนใสไม่โบ๊ะ ไม่โบก ไม่หลอก 2. ไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยเลยอีกตะหาก ค่อยๆ layer ไปทีละชั้น มันก็จะปกปิด ปกปิด ปกปิด ไม่เป็น คราบ 3. ผิวคุณจะดูเหมือนมีผิวดีมาตั้งแต่เกิด จี๊ปใช้วันแรก เพื่อนก็ทักเลย ว่าปีใหม่ไปทำอะไรมา ทำไมหน้าใสขึ้น ขนาดนี้ 4. ซื้อแค่ชิ้นเดียว ก็ได้เป็นสมาชิกของ counter Kanebo แต่งหน้าได้ฟรีตลอดปี และตลอดไป แถมได้ ของแถมคุณภาพดีมาอีกเพียบ BA ก็น่ารักมากๆด้วย 5. ถึงแม้จะไม่คุมมัน แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม ซับหน้า บ่อยหน่อย แต่ไม่หมองตลอดเย็นแน่นอน นี่เป็นรองพื้น ตัวแรกที่ทำให้จี๊ปประทับใจได้ขนาดนี้!!! ด้วยสนนราคาประมาณ 1800 บาท ซื้อตอนลด 10% ได้มาในราคา 1680 บาท หยอดกระปุกวันละ 20 บาท 4 เดือนก็ได้แล้ว นี่เป็นรองพื้นที่คุณคู่ควร!! ปอลอ ควรไปขอ tester มาทดลองก่อนนะจ๊ะ ว่าแพ้ หรือเปล่า BA ไม่ดุจ้ะ เพราะเห็นหลายคนใช้แล้วแพ้ก็มี แล้วแต่สภาพผิวหน้า ของแต่ละคนนะคะ