แกะกล่องลองรองพื้น Labrary แมท แต่บางเบา ผิวแห้งใช้ยังแฮปปี้!

ได้รองพื้นมาใหม่ วันนี้จะมาแกะกล่องลองไปพร้อมๆ กัน รองพื้นเนื้อแมท Labrary Mat Matt Cover Foundation SPF 30 PA+++ มาพร้อม Concept ของแบรนด์ที่เค้าบอกว่า “ส่งตรงความสวยจากแลป ถึงมือลูกค้า” อู้หูว! แค่คอนเซ็ปต์ก็น่าใช้แล้วอะ ต้องบอกก่อนว่าปกติเราใช้รองพื้นเนื้อแมทไม่ค่อยได้ เพราะนี่เป็นคนผิวแห้ง เดี๋ยวมาดูกันซิว่า ความรู้สึกหลังใช้รองพื้นตัวนี้จะเป็นยังไง สาวผิวแห้งใช้ได้รึเปล่า แค่ชื่อ ก็รู้แล้วว่าเนื้อรองพื้นของเค้าแม๊ทแมท สาวหน้ามันต้องเลิฟแน่ๆ เอ้า! ไม่ลองไม่รู้ งั้นเราไปแกะกล่องรีวิวรองพื้นตัวนี้พร้อมๆ กันเลยดีกว่า

เหนือสิ่งอื่นใด มาดูที่แพ็กเกจกันก่อน กล่องโทนสีชมพู แบบหวานๆ จริงๆ ก็ดูเรียบๆ นะ แต่น่ารักอะ ด้านหน้ากล่องมีชื่อและเบอร์รองพื้นบอกไว้อย่างชัดเจน ด้านหลังก็มีรายละเอียดต่างๆ ครบเลยด้วย

แกะกล่องกันโลด! เป็นรองพื้นแบบหลอดบีบ หลอดโทนสีโรสโกลว์  น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย พกพาสะดวก

เปิดฝาออก เค้าก็จะเป็นหัวจุกแบบนี้เลยค่ะ สามารถบีบเนื้อรองพื้นออกมาได้ง่ายมากๆ ซึ่งรองพื้นตัวนี้ เป็นรองพื้นที่ตอบโจทย์สีผิวสาวไทยเลย ใช้แล้วไม่วอก ไม่ลอย  ออกมา 3 เฉดสี ตัวรองพื้นอัดแน่นไปด้วยสารบำรุงที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น พร้อมทั้ง Vitamin E และยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วย SPF30 PA+++ , มีสารป้องกันแสงสีฟ้า ทั้งยังป้องกันผิวจากมลภาวะ เช่น PM2.5 ได้อีก โอ้โห!!

เบอร์ที่เราใช้จะเป็น เบอร์ 23 Vanila เหมาะสำหรับสีผิวสองสี ได้ลองแล้วแหละ พอดีกับผิวของเราเป๊ะ! ซึ่งเค้ามีให้เลือก 3 เฉดสีนะ ลองไปเลือกเฉดที่เข้ากับสีผิวของสาวๆ มาใช้กันได้เลย มีตั้งแต่ผิวขาวไปจนถึงผิวเข้มเลยค่ะ

ลองปาดลงที่ผิวหน้าให้ดูด้วย อย่าบอกว่าเราผิวใส เพราะจริงๆ มีรอยสิวเยอะพอสมควร แถมหน้าค่อนข้างหมอง เดี๋ยวเราจะมาทดสอบในเรื่องของการปกปิดของเค้าซิ ว่าจะทำได้ดีขนาดไหน เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย แนะนำว่าให้ค่อยๆ ลงทีละจุด  เพราะเค้าแห้งไว หลังลงแล้วรองพื้นจะเซ็ทตัวเป็นแป้งทันที

การปกปิด : รอบแรกที่ลงไป บางเบามากๆ เป็นความแมทที่ไม่แห้งและหนักผิวจนเกินไป ปกปิดได้ปานกลาง อย่างพวกรอยสิวเล็กๆ รอยจุดด่างดำ แต่ถ้าเป็นรอยสิวแดงๆ ใหญ่ๆ หรือสิวเม็ดโตๆ ก็อาจจะปกปิดได้ยาก ซึ่งพอลงรอบที่สอง หน้าก็จะดูเนียนกริบขึ้น แม้จะลงสองรอบ ก็ยังรู้สึกสบายผิวอยู่ ไม่หนา ไม่โบ๊ะจนเกินไป ผิวยังคงเป็นผิวอยู่ ถือว่าประทับใจ

เทียบแบบครึ่งหน้าให้ดู เห็นชัดสุดคือผิวดูเรียบเนียนขึ้น ไบร์ทขึ้น ได้ผิวที่ดูเป็นผิว ไม่แมทแห้ง ไม่โบ๊ะ สำหรับใครที่รอยสิวเยอะๆ หรือมีสิวเม็ดโตๆ สามารถบิ้วต์เฉพาะจุดเพื่อเพิ่มการปดปิดได้

แบบแต่งหน้ากับไม่แต่งหน้า ความแตกต่างมันก็จะประมาณนี้แหละค่ะซิส!

ทดสอบความกันน้ำกันเหงื่อ : เราว่ากันเหงื่อได้ดี คือระหว่างวันไม่เป็นคราบเลย นี่เราลองฉีดน้ำลงไปที่รองพื้นให้เพื่อนๆ ได้เห็น แถมยังใช้นิ้วถูๆ ที่รองพื้นอีก ก็มีบ้างที่เค้าหลุดออกไปตามน้ำ แต่พอเช็ดน้ำออก อย่างที่เห็นว่ายังคงมีรองพื้นติดแน่นทนนานอยู่

ทดสอบความคุมมัน : เราไม่ซับหน้าเลยนะ เพื่อดูว่าระหว่างวันหน้าเป็นยังไง (ใช้กล้องโทรศัพท์ถ่าย) ความมันตอน 4 ชม. ให้ความรู้สึกหน้าฉ่ำวาว สวยสุดๆ หลังจากนั้นก็มีความันเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้รู้สึกมันเยิ้มหรือหน้าเมือกอะไร ถือว่าคุมมันได้ดีอยู่ค่ะ

สรุป : ส่วนตัวรู้สึกว่า คนที่ผิวแห้งใช้ได้ แต่ก็ต้องบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นก่อนเนอะ ถึงจะโอเค เป็นรองพื้นที่เหมาะกับคนผิวมัน คุมมันได้ดี อาจจะมีมันมากๆ บ้างช่วงทีโซน ไม่เป็นคราบระหว่างวัน กันเหงื่อได้ดีด้วย สีไม่ดรอป ติดทน ปกปิดได้ปานกลาง สามารถบิ้วต์เพิ่มได้ โดยไม่ทำให้รู้สึกหนาจนเกินไป เฉดสีที่ออกมา ก็เข้ากับสีผิวคนไทยเลยค่ะ ใช้แล้วไม่ลอย ไม่วอกแน่นอน ทั้งยังไม่มี  Alcohol และ Parabens ด้วย ผิวแพ้ง่ายใช้ได้นะคะ แต่เค้าเบลอรูขุมขนได้น้อยมากๆ สำหรับคนที่มีรูขุมขนกว้าง แนะนำให้ลง Primer ก่อน ฟินิชเป็นแมทที่ไม่โบ๊ะ ไม่หนา ไม่แห้งจนเกิดไป ทั้งยังรู้สึกว่าสบายผิวอยู่

ราคา 590 บาท ได้ข่าวว่าช่วงนี้มีโปรโมชั่นด้วยนะ ลองไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Labrary Thailand นะคะ