Profile

ครั้งแรกที่ใช้รู้สึกว่าเนื้อครีมเข้มข้นเกินไป แต่หลังจาก ใช้ไปสัก2-3วันก็เริ่มชินแล้วก็ติดใจเพราะรู้สึกได้ถึง ความชุ่มชื้นของผิวหน้า ผิวกระชับและใสขึ้น น้องสาว &น้องชายก็เลยมาร่วมด้วยช่วยใช้ (แต่ไม่ช่วยออก ตังค์) ทั้งน้องสาวและน้องชายต่างก็ดีใจว่าเวลานัดเจอ เพื่อนๆก็จะมีแต่คนทักว่าผิวดี โดยเฉพาะน้องชายที่ใช้ เวลาทำงานจะต้องอยู่ Outdoor เป็นส่วนใหญ่+สูบบุหรี่ ทำให้ผิวหยาบกร้านดูอายุมากกว่าความเป็นจริง หลัง จากใช้ครีมตัวนี้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผิวหน้าของ น้องชายเราดีขึ้นมากจริงๆ ผิวที่เคยดูหยาบกร้านและ หมองคล้ำกลับกลายมาเป็นหน้าใสไปซะแล้ว @_@ ตอนนี้ Cream La Mer ก็เลยกลายเป็นครีมสามัญ ประจำบ้าน (ที่ราคาไม่ค่อยจะสามาญเท่าไหร่) แถม คุณแม่ของเราพอเห็นว่าหน้าของน้องชายดีขึ้นมากๆก็ เลยร่วมวงด้วยอีกคน ตอนนี้คุณแม่ก็เข้าร่วมเป็นสาวก ของ Cream La Mer แล้วอีกคน เดี๋ยวโอกาสจะมา รายงานความคืบหน้าอีกนะคะ

เป็นคนที่ผิวกายแห้งมากๆ เวลาไป Spa นี่ก็จะต้อง โดนพนักงานทักทุกครั้งว่าผิวแห้งมากๆเลยเพราะเวลา นวด oil ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า oil ที่เค้าชโลมลงไป ให้นั้นแห้งเหือดหายไปในเวลาแป๊ปเดียว โดยเฉพาะ บริเวณแขน - ขา เวลาหน้าหนาว---อากาศที่ต่าง จังหวัดจะหนาวกว่าที่กรุงเทพมาก แล้วเราจะมีปัญหา มากๆเพราะผิวจะแห้งและคัน ทาโลชั่นก็ยังเอาไม่อยู่ พอดีมีเพื่อนแนะนำให้ลองใช้ Bath Oil เราก็เลยไปซื้อ Bath Oil ของ Loccitane มาใช้ กลิ่นที่ใช้คือ Grapefruit--- กลิ่นองุ่นเป็นกลิ่นที่ออกแนวผลไม้รส เปรี้ยวให้ความรู้สึกสดชื่นเวลาอาบน้ำ ที่สำคัญหน้า หนาวที่ผ่านมาปัญหาเรื่องผิวแห้ง+คันก็ลดน้อยลงไป มากๆ ก็ยังมีความรู้สึกว่าผิวยังแห้งนะคะแต่น้อยลง กว่าเดิมเยอะเลย จำได้ว่าซื้อมาในราคาขวดละ 900 กว่าบาท ถ้าซื้อที่ shop ในห้างก็อยู่ที่พันต้นๆ ขวดนึง ใช้ได้นานค่ะ

เห็นมี review เกี่ยวกับ Cream La Mer เยอะแล้ว ก็ เลยอยากจะมา Review La Mer The Moisturizing Lotion บ้าง จุดเด่นของมอยเจอไรเซอร์เนื้อฟลูอิดตัวนี้ ก็คือเนื้อที่บางเบากว่าแบบครีมทำให้สามารถทาในตอน เช้าได้อย่างสบายใจไม่ต้องมามีปัญหาเรื่องหน้ามัน หรือเหนียวเหนอะหนะ กลิ่นก็เหมือนกับครีมนะ แต่... ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าครีมให้การบำรุงที่เข้ม ข้นกว่า ก็เลยใช้แบบควบคู่กันไปทั้ง Fluid แล้วก็ Cream โดยทาครีมตอนกลางคืนก่อนนอน ส่วนตัวนี้ก็ ใช้เป็นบำรุงกลางวัน ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ก็ใกล้เคียงกับการใช้ครีมลาแม ร์ หน้านุ่ม ชุ่มชื้นดีค่ะ

ต้องบอกว่าใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเป็น ได้ทั้งอายแชว์โดว์ แล้วก็เป็น Highligh ช่วยให้หน้าดู กระจ่างใสขึ้นลองใช้ชิ้นนี้แล้วจะติดใจ เฉดสีจัดอยู่ใน เฉดที่เป็นธรรมชาติ สามารถเลือกทาสีเดียว หรือทา ทับหลายสีสวย สีอ่อนที่สุดเอาไว้แต้มนิดๆที่ตรงหัวตา จากนั้นก็นำแปรงทาหน้าแบบพุ่มใหญ่ๆไปปัดบนเนื้อ แป้งให้ทั่วๆแล้วก็นำมาไล้บริเวณหน้าผาก สันจมูก แล้วก็แถวๆโหนกแก้ม แค่นี้ก็สวยดูเป็นธรรมชาติแล้ว ค่ะ ตลับนึงใช้ได้นานมากๆ ค้มค่าสุดๆค่ะ

ใช้แล้วรู้สึกได้ว่าริ้วรอยรอบดวงตาค่อยๆลดเลือนลง ไป ไม่มีรอยหมองคล้ำใต้ตามาให้กังวลใจ ทำให้เวลา แต่หน้าไม่จำเป็นต้องพึ่งพา concealer เลย