Profile

เป็นบลัชออนในดวงใจตอนนี้เลยค่ะ แม้ว่ามันจะมีสีให้ เลือกไม่เยอะ แต่คุณภาพบลัชของลุงชูนี่เป็นที่เลื่องลือ มากๆ เนื่องจากบลัชออนของลุงแกให้เนื้อที่เนียน ไม่ เป็นแป้งเวลาทา ดูเหมือนแก้มมันเป็นสีนั้นเองโดย ธรรมชาติแต่กำเนิด (เว่อร์ไป!) ติดทนนาน เกลี่ยง่าย และสีไม่เพี้ยนค่ะ ส่วนมากบลัชชูจะเน้นสีที่เรียบๆ ธรรมชาติ ไม่หวือหวา เป็นแนวๆ everyday blush- on ว่างั้น

เมื่อก่อนเคยใช้อยู่พักนึง สีสวยมีให้เลือกเยอะมากๆ แต่ เนื้อบลัชมันเป็นแป้งๆน่ะค่ะ ปัดแล้วดูรู้ว่าปัดบลัชออ นมา ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เลยเฉยๆกับบลัชแมค

แพ้อ่ะ ทาไปได้สามชั่วโมงมีผดๆขึ้นมาทันทีเลย เลยไม่ ได้เห็นผลเลยว่าขาวขึ้นไหม-_-"

เป็นยาทาเล็บที่มีเยอะที่สุดเลย ราคาไม่แพง ติดทนใช้ ได้ สีสวย และทาง่าย ไม่เป็นฟองอากาศเหมือนของเรฟ ล่อนด้วย ขนาดนิโนะมี skill การทาเล็บในระดับต่ำยัง ทาออกมาได้สวยเลยค่ะ thanks to Skin food! ^^

อันนี้เคยใช้สีขาวมุกๆอ่าค่ะ ตอนทาก็โอเค สีสวยดี แต่ ตอนล้างออกนี่สิ ทิ้งที่เหลือทั้งขวดเลย เพราะว่ามันทำ ให้เล็บเหลืองอ่ะ เหลืองมากๆด้วย -_-" กลับไปหาสกิน ฟู้ดดังเดิม

นิโนะใช้สีขาวค่ะ แบบสำหรับผิวมัน ก็ดีค่ะ ดูเป็น ธรรมชาติดี แต่ไม่ได้ขาวเด้งอะไรมากมาย แต่ที่ไม่ใช่ ต่อแล้วเพราะว่ามันทำให้หน้ามันเร็วขึ้นอ่ะ แรกๆก็โอ เคอยู่ แต่ใช้ไปสักพักทำไมหน้ามันง่ายขึ้นก็ไม่รู้

แพงและแพ้ บีเอบอกไม่มีแพ้แน่นอน ทำไมเราแพ้ล่ะ - _-"

เห็นด้วยกับความเห็นข้างล่างนะ นอกจากไม่ช่วยรักษา สิวแล้วยังทำให้สิวเห่อมากกว่าเดิมด้วยล่ะ

ที่ชอบอย่างแรงเลยก็คือแพคเก็จค่ะ สมัยตอนที่ซื้อมา ใหม่ๆนั้น เมืองไทยยังไม่มีบลัชออนแพคเก็ตน่ารักๆ แบบนี้มากนัก ยิ่งเป็นพัฟมาด้วยยิ่งไม่มีเลย เลย คะแนนเรื่องแพ็คเก็ตไปเต็มๆ สำหรับเนื้อบลัช ถือว่าโอเคค่ะ เนื้อดีกว่าของอีทูดี้ บลัช ตัวนี้จะมีวิ้งๆค่ะ เนื้อเนียนใช้ได้ ปัดแล้วไม่เป็นแป้ง แต่ ไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่นะคะ โดยรวมแล้วก็โอเคค่ะ ใช้ ได้เรื่อยๆ แต่ไม่ใช่บลัชในดวงใจ

นิโนะมีสีเงินค่ะ เขียนง่ายดีค่ะ ที่จับยาวพอสมควร ติด ทนดีด้วย แต่ แห้งยากมากกกกกกกมากกกกกกกกก ก เหมาะสำหรับการแต่งหน้าไปเที่ยวกลางคืน หรือ ออกงานกลางคืน และมีเวลาในการแต่งหน้าเหลือเฟือ!

ได้ลองตัวนี้เพราะทนกระแสลือว่ามันดีไม่ไหว เลย จัดการหามาลองจนได้ แต่.....ไหงไม่เห็นดีแบบที่เค้า ลือกันเลยอ่ะ ทาตอนแรกๆก้อปกติ ไม่เท่าไหร่ แต่ผ่าน ไปซักพัก หน้าหมองมากๆ และเห็นเป็นจุดรูขุมขนชัด เกินจริงมากๆ ไม่ว่าจะพยามอย่างไรผลก้อเป็นแบบ เดิม ใช้ไปได้สามวันเลยต้องเซย์กู๊ดบายกันไป

คลีนิกส์ขึ้นชื่อในเรื่องแอลกอฮอล์ และตัวนี้ก็เช่นกัน แอลกอฮอล์คงเยอะน่าดู สังเกตจากตอนทาครั้งแรกก็ ได้กลิ่นแอลกอฮอล์แรงมากๆ และแสบหน้าด้วย ทนทา ต่อไปได้ไม่นานก็ต้องเลิกค่ะ แสบหน้าจริงๆ

ใช้แล้วผ่องมากๆค่ะ แต่ที่ให้คะแนนน้อยเพราะมันทำให้ อุดตันมากๆค่ะ แพ้หนักเลยอ่ะ สาวๆผิวแพ้ง่ายไม่ควร ลองนะคะ อันตรายยยย!

ข้อดีอย่างเดียวของลิปสติคแมคก้อคือสีสวยค่ะ แต่ข้อ เสียนี่คือเนื้อมันแห้งมากๆ ปากลอกจนเป็นขุยเลย แบบ นี้ก็เลยขอบายเพราะแม้ว่าสีจะสวยแค่ไหน แต่ปากลอก เป็นแผ่นๆนี่ไม่โสภาเร้ย -_-"

เป็นคอนซีลเลอร์ที่ดีที่สุดของนิโนะในขณะนี้อ่าค่ะ ยัง ไม่มีตัวไหนมาล้มได้ นิโนะใช้สี sc 3 นะคะ เป็นคู่สีที่ เข้ากับคนผิวขาวแบบอาหมวยได้ดีค่ะ ตัวนี้เนื้อจะแห้ง พอควร แนะนำให้ใช้คู่กับแปรงทาคอนซีลเลอร์ค่ะ ลอง ทาด้วยมือแล้วไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ -*- แต่ถึงเนื้อมันจะ แห้งแค่ไหน ก็ยังสามารถเอามาเป็นคอนซีลเลอร์ปกปิด รอยคล้ำใต้ตาได้ค่ะ เพราะเม็ดสีมันกำลังดีเลยค่ะ ปก ปิดรอยสิวและรอยคล้ำก็ได้ค่ะ แต่ข้อเสียของมันก็คือว่า หากทาทิ้งไว้นานเกินครึ่งวัน คราบคอนซีลเลอร์ก็จะเริ่ม โผล่ออกมา ต้องเช็ดออก --"

อันนี้นิโนะใช้แทน day cream ค่ะ ซึมง่ายดี ไม่มัน ด้วย และก้อให้การบำรุงได้ดีค่ะ ทาแล้วหน้าจะนุ่มๆ ดึ๋งๆ รอแป๊บนึงแล้วค่อยทากันแดดและลงเมคอัพค่ะ เป็น everyday moisturizer ของเราเลย

ปกปิดเบาบางถึงปานกลางค่ะ ขึ้นกับวิธีการทา ถ้า อยากให้เป็นธรรมชาติก้อให้เกลี่ยด้วยฟองน้ำหมาดๆ (แต่แบบนี้รองพื้นส่วนมากจะไปอยู่ในฟองน้ำแทน เปลือง -_-") แต่ถ้าอยากให้เนี๊ยบๆแนะนำให้ใช้มือ แตะๆๆๆให้ทั่วใบหน้าค่ะ ก็จะเนียนและปกปิดได้ดีที เดียว แต่ก็ไม่ปกปิดได้หมดนะคะ ต้องลงคอนซีลเลอร์ ต่อในส่วนที่มีรอยเห็นชัด ข้อดีของตัวนี้คือเรื่องควบคุมความมัน ตามคอนเซปป์ หลักของลอร่า คุมมันได้ดีทีเดียวค่ะ และเมื่อเวลาผ่าน ไปสีรองพื้นก็ไม่เปลี่ยนด้วยค่ะ (ทั้งนี้ขึ้นกับเบสและแป้ง ที่ใช้ควบคู่กันด้วย) แต่สิ่งที่นิโนะไม่ค่อยชอบคือเรื่องสี ค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีสีเยอะก็จริง แต่ก็หาที่เข้ากับสีผิวตัวเอง แบบเป๊ะๆไม่ได้เลย แต่ก็แก้ปัญหาด้วยการซื้อสีที่ใกล้ เคียงกับตัวเองที่สุดมาสองสี เวลาใช้ก้อเอามาผสมกัน จะได้สีที่ตรงกับสีผิวพอดี ของนิโนะคือสี porcelain กับ blush ivory ค่ะ สำหรับรองพื้นตัวนี้ นิโนะใช้ในโอกาสที่ต้องการความ เนี๊ยบในการแต่งหน้าค่ะ วันไหนอยากแต่งหน้าแบบ full-option ก็จะใช้ตัวนี้ แต่ถ้าแต่งแบบวันสบายๆ คิด ว่าตัวนี้อาจให้ลุคที่มากเกินไปค่ะ

เป็นกลอสที่ออกสีค่ะ ใช้ทาเดี่ยวๆได้เลย หรือจะทาทับลิ ปก้อได้ค่ะ สีตรงกะในหลอดเลย กลิ่นหอมดี ติดทน ปานกลางค่ะ เนื้อเหนียวพอดู แต่ไม่ได้เหนียวมากเกิน ไป ใช้แล้วไม่เป็นคราบค่ะ ชอบสี Girly ค่ะ เป็นสีชมพู หวานๆกำลังดี หมดไปแล้วหลอดนึงแต่ยังไมได้ซื้อใหม่ เลย กับสี Cosmopolitan ค่ะ เป็นสีชมพูนู้ดๆมีชิมเมอร์ ด้วย ทาแล้วเซ็กซี่ หุหุหุ

อันนี้ซื้อมาใช้เพราะว่าเมือ่ก่อนใช้มาสคาร่าฟาสิโอ้ เลย ต้องเอารีมูฟเวอร์ยี่ห้อเดียวกันมาล้าง สามารถล้างมาส คาร่าฟาสิโอ้ได้หมดจดแม้ว่าจะต้องล้างสองถึงสามรอบ ก็ตาม ก็ถือว่าก็ยังโอเคอยู่ มีทิปการใช้คือ หลังจากที่เท ใส่สำลีแล้ว ให้เอาแปะตาไว้ก่อนสักพักแล้วค่อยๆเช็ด ออกค่ะ จะดีกว่าการเช็ดทันทีเลย ข้อดีอีกอย่างนึงก็คือ ราคาถูกค่ะ ขวดนึงราวๆ 150 บาทได้ และก็ไม่ทำให้ตา ระคายเคืองด้วยค่ะ สาวผิวแพ้ง่ายไม่ควรพลาด!

ข้อดีคือ งอนเด้งได้ใจมากๆ เด้งยาวนานทั้งวัน ราคาไม่ แพง แต่ข้อเสียคือ มันทำให้ขนตาดูแห้งๆคล้ายขาแมลง สาบ -_-" และล้างออกยาก สำหรับนิโนะแล้ว รองจากมาสคาร่ามาจอริก้า ก็คือมาส คาร่าฟาสิโอ้ตัวนี้แหละค่ะ

IPSA ถือเป็นแบรนด์สำหรับผิวแพ้ง่ายค่ะ เคยมีสาวคน นึงรีวิวในเวบพันทิพย์ให้ฟังว่า ผลิตภัณฑ์ของอิปซ่าจะ ไม่ได้ดีแบบหวือหวาเหมือนพวกเอสเคทูหรือน้ำโสมโค เซ่ แต่ในทางตรงข้าม มันจะค่อยๆฟื้นฟูและปรับสภาพ ผิวให้ดูสุขภาพดีไปเรื่อยๆ เรียกง่ายๆว่า ใช้ไปนานๆจะ ค่อยๆเห็นผลที่ดีขึ้นๆ และเท่าที่ใช้มาเกือบปี นิโนะก้อ เห็นด้วยกับที่บอกมานะคะ แรกๆใช้ไปก้องั้นๆ แต่เวลา ที่ใช้หมดไปทุกๆขวดก็จะค่อยๆเห็นผลการเปลี่ยนแปลง ของผิวหน้าตัวเองขึ้นเรื่อยๆ สรุปว่าชอบมากๆค่ะ เป็น basic moisturizer ของนิโนะเลย ที่ชอบอีกอย่างหนึ่ง ก็คือว่า นิโนะเป็นคนหน้ามันค่ะ แล้วเมืองไทยอากาศ ร้อน ผิวก้อแพ้ง่ายอีก ที่ผ่านมาถ้าใช้บำรุงที่เป็นเนื้อ ครีมหนักหน่อยนึงก็แพ้แล้ว อุดตันมั่ง อักเสบมั่ง พอมา เจอบำรุงที่เป็นน้ำๆแบบนี้เลยกรี๊ดเลยค่ะ เวลาทาก้อทาๆ ถูๆแล้วทิ้งไว้สักพัก ก็จะซึมไปเองค่ะ ไม่มันและไม่ทำให้ หนักหน้าเลย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับแต่ละสูตรว่าเหมาะกับ อากาศแบบไหน สำหรับ Ex-1 อันนี้ นิโนะใช้แทน nite cream ค่ะ ทาได้ทุกคืน

ตัวนี้เป็น Must Have สำหรับสาวผิวมันเลยค่ะ นิโนะใช้สี translucent ค่ะ สียอดนิยม ทาแล้วจะดูใสๆ แต่ไม่ปกปิด เหมาะกับผิวขาวจัดไปจนถึงผิวขาวเหลือง ค่ะ แต่ถ้าสาวผิวคล้ำจัดควรลองเทสสีดูอีกทีนะคะ เนื้อแป้งละเอียดค่ะ เป็นธรรมชาติ ช่วยเซ็ตรองพื้นได้ ดี ไม่ทำให้เป็นคราบ คุมมันได้ดีจึงเหมาะกับสาวผิวมัน แต่เนื่องจากที่มันเปนแป้งเนื้อแมตต์มากๆ เลยทำให้ หน้าดูไม่มีมิติได้ค่ะ ก้อแก้ไขด้วยการลงไฮไลท์ตามจุด ต่างๆได้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีแป้งฝุ่นยี่ห้อไหนมาล้มแชมป์ได้ เลยค่ะ คาดว่าคงจะไปใช้ต่อไปเรื่อยๆๆๆๆๆจนแก่เฒ่า 555+