Profile

เจลแต้มสิว Puricas ตัวนี้ได้ยินสรรพคุณมาเนิ่นนาน มีโอกาสได้ลองใช้เองแล้ว ประจวบกับช่วงมีสิวพอดี โดยเฉพาะสิวอักเสบ

หลังจากทาเจลได้ประมาณ 2-3 วัน สิวก็แห้งลงไวมาก ลดความบวมและการอักเสบของสิวได้ดีเลยค่ะ เนื้อเจลซึมไว แต่กลิ่นคาอนข้างแรงแบบยา ๆ ถือว่าเห็นผลลัพธ์ค่ะ ใช้ต่อยาว ๆ เลย ^^

น้อง Aveeno หลอดนี้ ชอบตรงที่ไม่มีน้ำหอม แถมค่อนข้างให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

ปกติจะไม่ค่อยชอบทาโลชั่นหรือครีมเท่าไหร่ เพราะเป็นคนเหงื่อออกง่าย แต่ว่าตัวนี้ค่อนข้างซึมเข้าผิวไว ไม่เหนอะหนะ ทาตอนกลางคืนช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ไม่คันค่ะ ยิ่งผิวแห้ง ๆ เพราะนอนห้องแอร์ หรือแพ้ฝุ่นมา ใช้ดีสุดๆเลยค่าา

เป็นครั้งแรกที่ได้ทดลองใช้แชมพูยาสำหรับขจัดรังแค
ส่วนตัวไม่มีปัญหาเรื่องรังแค หรือหนังศรีษะลอก แต่มีปัญหาผมมันง่าย และหลุดร่วง

ตัวแชมพูมีส่วนผสมของคีโตโคนาโซล 2% ซึ่งช่วยในการขจัดเชื้อรา และรังแคบนศรีษะ

เราใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง สลับกับแชมพูปกติ เนื่องจากไม่ได้มีปัญหาเรื่องรังแคมาก
ตัวแชมพูเป็นเนื้อเหลวสีชมพู กลิ่นไม่แรง มีความหอมอ่อน ๆ สระแล้วไม่มีอาการแพ้ แสบคันใด ๆ

หลังจากทดลองใช้แล้ว พบว่าช่วยขจัดความมันบนเส้นผมได้ดีเลยค่ะ ตอนสระเสร็จใหม่ ๆ ผมจะแห้งมาก แต่พอได้เป่าไดร์เรียบร้อย พบว่าผมนุ่มลื่นขึ้น และความมันหายไปเลยค่ะ

ใครที่มีปัญหาเส้นผมที่มีรังแค หรือเชื้อรา แนะนำเลยค่ะ ค่อนข้างอ่อนโยนอยู่เลยทีเดียว

ปรบมือและกรี๊ดให้ดัง ๆ กับน้องคนนี้ ครีมลดเลือนริ้วรอยตัวใหม่ล่าสุดจาก Oriental Princess
Naturally Ageless Supreme Lifting & Anti-Wrinkle Cream

ตัวนี้จุดชูโรงของเค้าคือ มีสารสกัดสเต็มเซลล์จากบัวฉลองขวัญ ที่ได้รับรางวัลระดับโลกการันตี 2 รางวัลด้วย ช่วยกักเก็บสารสำคัญที่บำรุงผิวให้มีความเสถียร และคงตัวยิ่งขึ้น

กลิ่นหอมอ่อน ๆ กำลังดี ตอนแรกคิดว่าใช้ได้เฉพาะตอนกลางคืน ปรากฎว่าใช้ได้ทั้งเช้า-เย็นเลย
เนื้อครีมไม่เหนียวเหนอะหนะ แม้จะดูเข้มข้น แต่พอทางลงบนผิวแล้วค่อนข้างซึมเข้าสู่ผิวได้ไวทีเดียว มาในรูปแบบกระปุกพร้อมฝาแคปปิด และ ไม้พายตักครีม ดีมาก ๆ สำหรับการใช้ครีมแบบกระปุก

จะใช้แบบทาบำรุงผิวด้วยมือ หรือใช้คู่กับเครื่องนวดหน้าด้วยก็ไม่ติด

ผลจากการใช้ต่อเนื่องคือ รู้สึกได้เลยว่าผิวมีความแน่นขึ้น ชุ่มชื้น และช่วยยกกระชับขึ้นจริง รวมถึงรอยดำบางจุดดูจางลงด้วย หากใช้ต่อเนื่องน่าจะเห็นผลลัพธ์มากขึ้น คนผิวผสม หรือผิวมันก็สามารถใช้ได้ ไม่อุดตันด้วย ลงลิสต์ซื้อซ้ำแน่นอนค่ะ

หลังจากที่ได้ทดลอง Colgate Optic White O2 Peach Osmanthus
รู้สึกว่าชอบกว่ารุ่นมิ้นท์ตอนแรกอีกค่ะ

สูตรนี้มันมีความหอมพีชอวล ๆ ในปาก ครั้งแรกที่ลองแปรงก็คิดว่าจะกลิ่นน้ำมันมวยเหมือนรุ่นก่อนไหม 5555 รอบนี้ไม่แหะ แต่ตอนแรกที่แปรงก็จะรู้สึกแปลก ๆ นิดนึง แต่ใช้ไปเรื่อย ๆ ก็ชินค่ะ

มันมีความอุ่นเหมือนเดิมเลย แต่รู้สึกได้ถึงความอุ่นที่ยาวนานขึ้นขณะแปรง เหมือนอณูฟองเค้าช่วยทำความสะอาดช่องปาก และฟันของเราด้วย หลังแปรงก็รู้สึกว่าช่องปากสะอาดขึ้นในระดับนึง ส่วนความขาวใส เราว่ารอบนี้เห็นผลค่อนข้างชัดดีค่ะ ใช้ต่อเนื่องก็ยิ่งเห็นผล

รอบนี้น้องมาแบบหลอดหมุน ใช้งานสะดวก พกพาง่าย คิดว่าน่าจะได้ซื้อใช้ต่อแน่นอนค่ะ <3

BSC Crystal Aura Body Lotion
ตัวนี้คือกลิ่นเดียวกับกันแดดผิวหน้าหลอดแดงในตำนานเลย แต่อันนี้กลิ่นดีกว่าแหละ

เนื้อครีมสีขาวเข้มข้น ทาลงผิวแล้ว ต้องใช้เวลานิดนึงให้เค้าซึมลงผิว ทาแล้วผิวจะดูชุ่มชื่นขึ้น ค่อนข้างเหนอะนิด ๆ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย

สำหรับเราหลังจากกช่วงระยะเวลาทดลองใช้ บอกเลยว่าครีมเค้าดีนะ แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนเหงื่อออกง่าย หรือไม่ชอบความเหนอะหนะ เพราะเราเหงื่อออกปุ๊บ ตัวนี่เหนียวปั๊บเลย จะรู้สึกเหนอะหนะผิวทันที และก็มีคราบขาว ๆ ด้วย เสียดายจุดนี้มาก
T____________T จะใช้เฉพาะวันที่ไม่ผจญแดดมาก เพราะสู้ความเหนอะไม่ไหวจริงค่ะ

แต่บอกได้เลยว่าเป็นกันแดดผิวอีกตัวที่น่าใช้ เพราะให้ทั้งความชุ่มชื่น แถมปกป้องผิวจากแสงแดด มลภาวะ ตัววิตามินบำรุงเยอะมากในหลอดนี้ แนะนำมีติดบ้านไว้ โอเคเลยค่ะ

รีวิวปากกาช่วยให้ฟันขาวขึ้นอย่างไวววว!!

Colgate White O2 Teeth Whitening Pen

เจ้าปากกามาในรูปแบบกดตรงท้ายด้าม หลอดสีแดงสดใสมากเว่อร์ ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ ถ้าใช้ครั้งแรก ต้องกดหลายครั้งหน่อย น้ำยาถึงจะซึมออกมา

ตัวน้ำยาจะเป็นสีใสเลยค่ะ พอลองทาเนื้อบนผิว แอบสัมผัสได้ถึงความเย็นนิด ๆ สักพักน้องก็จะแห้งและเคลือบไว้

วิธีใช้ก็แสนง่าย หลังจากการแปรงฟันแล้ว ซับฟันด้วยทิชชู่ให้แห้ง จากนั้นก็ทาน้องเค้าให้ทั่วฟันทุกซี่ หลังจากทาแล้วน้องเซ็ตตัวแล้ว จะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาเคลือบฟันไว้ เสร็จแล้วสามารถไปเข้านอนได้เลย ไม่ต้องบ้วนทิ้งค่า

ความรู้สึกหลังใช้ผลิตภัณฑ์มาต่อเนื่อง ตัวนี้ตอบโจทย์มาก เพราะปกติเราดื่มชา กาแฟทุกวัน ฟันก็จะเหลือง ๆ หน่อย พอได้ปากานี้มาช่วย ก็รู้สึกว่าฟันสว่างขึ้นระดับนึง คิดว่าถ้าใช้ต่อเนื่องน่าจะเห็นผลมากกว่านี้ค่ะ

ที่สำคัญ ใช้คู่กับยาสีฟันสูตรเดียวกัน ก็ทวีคูณความฟันขาวกระจ่างใสไปเลย ไปลองกันนะค้าาา ?

ได้มีโอกาสลองเจลอาบน้ำของนกแก้ว สารภาพว่า เคยใช้แต่สบู่ไม่เคยใช้แบบเจลมาก่อนเลย ที่ได้รับมาลองเป็น Parrot Oil in Bath White Perfect ขวดปั๊มใช้ง่ายเลย ปริมาณ 400 มล. ใช้ได้เป็นเดือน :)

มีส่วนผสมของอาร์แกน ออยล์ ช่วยบำรุงผิวขณะอาบน้ำไปด้วย

สัมผัสหลังจากใช้ครั้งแรก บอกเลยว่าผิวนุ่มตั้งแต่หลังอาบจริง ๆ แถมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ผ่อนคลาย ตัวฟองก็ตีขึ้นได้เยอะ นี่ใช้คู่กับใยขัดตัว ยิ่งฟองเยอะมากกกกก เรื่องผิวใส คงต้องใช้เวลาสักพัก แต่ความนุ่มคือชนะเลิศเลยจ้าา

เนื้อเจลสีชมพูอ่อน ล้างออกง่าย ไม่ทิ้งความเหนอะหนะบนผิว

มีด้วยกันทั้งหมด 3 สูตร สงสัยต้องไปตามเก็บลองให้ครบแล้วค่ะ

เดี๋ยวนี้ BSC ทำสกินแคร์เจ๋ง ๆ ออกมาเยอะมาก
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่ใช้แล้วประทับใจ BSC Super Hyalift C Brightening Serum

เนื้อเซรั่มเป็นเจลไม่ข้นไม่เหลวเกินไป เนื้อเจลใสไม่มีกลิ่นน้ำหอม

หลังทาทันทีคือหน้าฉ่ำสุด ผิวชุ่มชื้นขึ้นเลย พอทาทั่วหน้าก็เหมือนได้รับการบำรุงเต็มที่ ช่วยให้ผิวนุ่ม และกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย

เรื่องลดริ้วรอย กับกระชับรูขุมขนก็พอช่วยได้ แต่ต้องใช้ต่อเนื่อง น่าจะเห็นผลโดยรวมมากกว่านี้ค่ะ

เป็นเซรั่มอีกตัวที่ใช้ดีเลย ❤️??

ชอบความหอม และความเย็นของตัวนี้มาก กลิ่นสดชื่นของแตงกวา แถมเนื้อเซรั่มก็ไม่เหนอะหนะ ตัวเซรั่มจะสีขาวหน่อย ทาลงบนผิวแล้วช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นนิดนึงด้วย ครีมซึมเข้าผิวได้ดี ออกแดดก็ไม่แสบร้อนเลยค่า ดีงามมากกก

มีทั้งหลอดเล็กแบบพกพา หลอดใหญ่ก็ใช้จุใจ แถมลดราคาบ่อยด้วย ไม่ควรพลาดด้วนประการทั้งปวงค่ะ ?

สวัสดีค่าา มาช้าแต่มานะ T-T มารีวิวกันกับ Vaseline Healthy Bright UV Extra Brightening GlutaGlow Lotion ชื่อย๊าวยาวววว มาดูกันว่า ตามคำเคลมเค้าบอกว่าผิวกระจ่างใสขึ้นหนึ่งระดับภายใน 7 วันจะเป็นจริงหรือไม่

ได้น้องขนาด 100 ml. มาจากทาง Cosmenet ขอบคุณนะค้าาา
ตัวน้องก็เป็นขวดแบบที่เราเคยเห็นกันทั่วไป เหมือนเดิม แต่สรรพคุณและส่วนผสมต่างหากที่ไม่เหมือนเดิม เอาจริง เราว่าสูตรสีชมพูนี่พัฒนาสูตรใหม่เรื่อย ๆ อยู่นะ รวมถึงสูตรอื่น ๆ ด้วย แต่รู้สึกว่าสูตรนี้จะพัฒนาบ่อยกว่าเพื่อน ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดแบบเราไหม

เมื่อก่อน ต้องบอกว่าเราก็เป็นคนนึงที่เคยใช้วาสลีนขวดชมพูแหละ อยากมีผิวที่กระจ่างใสบ้าง ขาวขึ้นบ้าง แต่ยอมรับเลยว่า รุ่นเก่า ๆ นี่ค่อนข้างเหนอะหนะกว่านี้ บวกกับเราเป็นคนเหงื่อออกง่าย เลยยิ่งไปกันใหญ่ จากนั้นก็โบกมือบ๊ายบายเจ้าวาสลีนสีชมพูไปนานมาก

กลับมาคราวนี้ เค้าผสานส่วนผสม 10x Active Niacinamide 10 เท่า รวมถึงกลูต้าไธโอนด้วย และส่วนผสมหลักคือ วาสลีนเจลลี่นั่นเอง

เนื้อสัมผัส น้องเป็นโลชั่นสีขาว กลิ่นหอมสไตล์ขวดชมพูเลย เนื้อสัมผัสเวลาทาลงผิวแล้ว รู้สึกว่าน้องจะซึมซาบลงผิวไวกว่าเดิม แถมเหนอะหนะน้อยลงด้วย พูดได้เลยว่า นี่โบกเช้า-เย็นตลอดการทดลองใช้เลย

ผลลัพธ์ที่ได้มา แม้ว่าสีผิวอาจจะดูไม่ต่างจากเดิมมากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่สังเกตได้เลยคือ ผิวรู้สึกนุ่มขึ้น แถมไม่รู้สึกแห้งหรือคัน จะมีแค่ช่วงแรก ๆ ที่ทาแล้วรู้สึกคันบริเวณที่ข้อพับเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่มีอาการนี้แล้ว

เรื่องความกระจ่างใส คิดว่าน่าจะต้องใช้ต่อเนื่องกว่านี้ถึงจะเห็นผลมากขึ้น แต่ได้ความเรียบเนียน ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านมา ก็สุดยอดมากแล้ว แถมสามารถใช้ได้ทั้งเช้า-เย็นแบบไม่เหนอะหนะรำคาญใจ
อันนี้คือเวิร์คมากเลยค่าา <3 อาจจะกลับมาซบอกน้องอีกรอบก็ได้ ^^

Booster Serum สูตรใหม่ล่าสุดจาก Garnier
รอบนี้เป็นแบบ Anti-Acne ในไลน์ของ Bright Complete

มาด้วยสารสกัดเข้มข้น 4% รวมกันของ Vitamin C + Salicylic Acid + Niacinamide + AHA ที่มีประสิทธิภาพช่วยลดรอยด่างดำ ลดรอยสิว เพิ่มความกระจ่างใส และผลัดเซลล์ผิวอีกด้วย

ตัวหลอดมาในขนาด 15 ml. หัวดรอปเปอร์ใช้งานง่าย ดูดหลอดเดียวสามารถทาได้ทั้งหน้าทั้งคอ
กลิ่นหอมสดชื่นเลมอน

เนื้อสัมผัส เป็นเซรั่มเข้มข้น จนนึกว่าทาแล้วต้องเหนียวแน่ ปรากฎทาแล้วค่อนข้างซึมไว และให้ผิวชุ่มชื้นอีกด้วย ไม่เหนอะหนะ ซึมไว

หลังใช้ต่อเนื่องสัปดาห์กว่า ๆ เห้ยย มันลดรอยสิวให้จางลงได้จริง สิวดูแห้งลง คิดว่าต้องใช้ต่อเนื่องจะเห็นผลลัพธ์มากกว่านี้ ยิ่งช่วงจะมีประจำเดือนสิวอื่นก็เริ่มทยอยขึ้นมา ต้องรีบจัดการด้วย Garnier Anti-Acne Booster Serum ขวดนี้ซะแล้ว

ใครที่ชอบไลน์หอมๆ ของเลมอนนี้ ลองไปจัดกันค่าาา เป็นอีกเซรั่มนึงที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว หน้าแข็งแรงพอ ไม่แพ้ ก็จัดไปโลดค่าาาาา ... ขอบคุณทีมงานที่ให้ร่วมทดลองด้วยนะคะ <3

ต้องยกนิ้วให้กับน้องเซรั่มตัวนี้จริง ๆ ค่าาาา ❤️❤️❤️
BSC Hemp Seed Oil Serum เซรั่มน้ำมันเมล็ดกัญชงจากบีเอสซี

หลัง ๆ นี่บีเอสซีออกสกินแคร์ได้น่าใช้มากเลยค่า ประทับใจแล้วหนึ่ง
ตัวนี้ เป็นเนื้อเจลเซรั่มใส มีเม็ดบีดส์วิตามินอี ที่ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น
แถมตัวเจล ก็สบายผิวมากกกกกกกกกกก ทาแล้วหน้าชุ่มชื้นทันตาเห็นเลย

ที่สำคัญโบกได้ทั้งหน้าทั้งตัว เอาสิแม่!!! คุ้มแค่ไหนถามใจเธอดู
แพ็กเกจเป็นแบบซองฝาหมุน พกพาสะดวก ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะ

แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ สบายผิวด้วย ทาบนผิวทีไร รู้สึกผ่อนคลายทุกที

หลังจากใช้ต่อเนื่อง ผิวคือดูอิ่มน้ำขึ้น แต่งหน้าติดทน ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสด้วยค่า

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์แบรนด์ไทยที่ไม่ควรมองข้าม ไปตำกันโลดดดดดด

ได้เวลารีวิวน้อง Garnier Sakura Glow 30x Hyaluron Booster Serum กันแล้ววว

แพ็กเกจ : มาในกล่องกระดาษ ขนาด 30 ml. เปิดกล่องมาเป็นขวดแก้วสีชมพูน่ารัก
มีหัวดรอปเปอร์ สามารถกะปริมาณการใช้ได้สะดวกดีมากค่ะ

เนื้อสัมผัส : เป็นเซรั่มสีชมพูใส เนื้อเข้มข้นมา แต่พอทาลงบนผิวแล้ว กลับซึมเข้าผิวไวมาก แถมให้ผิวดูชุ่มฉ่ำขึ้นทันที กลิ่นหอมซากุระอ่อน ๆ ช่วยผ่อนคลาย ทาแล้วสบายผิวมากค่ะ ไม่เหนียวเหนอะหนะเลยแม้แต่น้อย

ความรู้สึกหลังจากการใช้ : ก่อนใช้ สภาพผิวเรามีพวกรอยสิว และรอยด่างดำ ส่วนเรื่องอาการผิวแห้งไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ หลังจากใช้ต่อเนื่องกัน 3 สัปดาห์ รู้สึกเลยว่า ผิวเนียนละเอียดขึ้น หน้าดูมีความชุ่มชื่นมากขึ้น แต่งหน้าติดทนขึ้น ดูผิวอิ่มน้ำ และกระจ่างใสขึ้น ><

สรุป : เป็นอีกหนึ่งเซรั่มบูสเตอร์ที่เพิ่มความชุ่มชื่น ฉ่ำวาวให้ผิวได้ดีทีเดียว เนื้อเซรั่มที่ดูเข้มข้น แต่เบาบาง ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่เหนอะหนะผิวเลย สามารถทาครีมบำรุงอื่นต่อได้ และทำให้ผิวแข็งแรง แต่งหน้าติดทนมากขึ้นด้วยค่ะ คุ้มค่า และสมคำเคลมของผลิตภัณฑ์จริง ๆ ค่ะ ^^

ได้เวลามารีวิวเจ้าตัวแอมพูลเซรั่มน้องใหม่ล่าสุดของ Am Herb แล้ว
หลังจากที่เราประทับใจกับเจ้าตัว Micellar Cleansing ไปแล้ว ทีนี้มาดูโหมดบำรุงผิวของเค้าบ้าง

สูตรที่เลือกมา คือ A - Ageless ลดเลือนริ้วรอย (อายุเริ่มเยอะ รอยถามหาแล้วจ้า TwT)

ได้มาทั้งหมด 6 ซอง เป็นซองฉีก ปริมาณ 3 กรัม ตัวซองเป็นสีม่วง
สกรีนข้อความ และคำเคลม และส่วนผสมชัดเจน

รวมถึงมีรอยให้ฉีกซองออกอย่างสะดวกด้วย ♥

ตัวเนื้อเซรั่ม - น้องเป็นแอมพูลเซรั่มเนื้อใส เวลาทาแล้วจะรู้สึกเหมือนแตกตัวเป็นน้ำ ซึมเข้าผิวไวมาก ไม่เหนอะผิวเลยแม้แต่น้อย ส่วนผสมก็น่าสนใจเพราะเป็นนวัตกรรมจากเกาหลีที่เรียกว่า "Triple Shields Skin Moisture Locker" จาก Bakuchiol / สารสกัดจากเถาองุ่นฝรั่งเศส / Peptide ขนาดเล็ก 2 ชนิด ที่จะร่วมด้วยช่วยกัน ปกป้องความชุ่มชื้นให้คงอยู่กับผิว รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอย ล็อคน้ำใต้ผิวไว้ และที่สำคัญคือ เสริมสร้างการผลิตคอลลาเจนอีกด้วย!!

ความรู้สึกหลังใจ - หลังจากใช้ต่อเนื่องกัน เช้า-เย็น รู้สึกว่าใบหน้ามีความอ่อนนุ่ม และชุ่มชื้นมากขึ้น แค่ทาลงผิวครั้งแรก ก็ให้ความชุ่มชื้นแล้ว ส่วนเรื่องการลดริ้วรอย อาจยังไม่เห็นผลมากนักเพราะต้องใช้ในต่อเนื่องไปในระยะยาว แต่รู้สึกว่า ผิวมีความแข็งแรง ไม่ระคายเคือง เพราะปราศจากสารอันตรายต่าง ๆ ที่จะทำร้ายผิว เป็นเซรั่มที่อ่อนโยนอ่อนใจมากกกกก ♥

ข้อควรระวัง!!! - หลังฉีกซอง แล้วค่อยบีบเซรั่มลงบนมือ ถ้าบีบไม่ถูกจังหวะ คือน้องพุ่งกระเด็นไกลมาก หกแล้วเสียดายสุด T__________________________T

สรุปความน่าใช้ - เป็นเซรั่มอีกตัวที่น่ามีติดบ้าน เพราะด้วยความอ่อนโยนของน้อง และช่วยต่อต้านริ้วรอย แถมราคาสบายกระเป๋ามา ให้คุ้มซื้อยกกล่องเลย ซองนึงสามารถใช้ได้ประมาณ 1-2 วัน อันนี้แล้วแต่ขนาดใบหน้าแต่ละคนด้วย กับปริมาณที่ทา คุ้มค่าค่ะ แนะนำเลย ^^

วันนี้จะมารีวิวผลลัพธ์หลังการใช้เจ้าสำลีก้านกระดาษของ Evergreen Cotton Bud Paper Stick กันนะคะ

น้องมาในรูปแบบแพ็กเกจซองซิปล็อก มีจำนวน 100 ก้าน/ห่อ ตอนแกะห่อ มีดกรีดเพลินไปหน่อย เกือบทำซองน้องเจ๊งแล้ว 55555 ;____________________;

น้องเป็นสำลีก้านกระดาษ ซึ่งดูเป็นอะไรที่แปลกใหม่ เพราะปกติเราจะใช้แต่ก้านที่เป็นพลาสติก แล้วบางทีมันก็ค่อนข้างที่จะหักงอง่าย แต่ตัวนี้เป็นก้านกระดาษที่ค่อนข้างแข็งแรงเลยทีเดียว

แถมตัวสำลีก็ไม่หลุด หรือลุ่ยง่าย ส่วนมากที่จะใช้คือไว้ปั่นหูเวลาหลังอาบน้ำสระผมเสร็จ มันฟินมากก!!! ไม่เจ็บหู รวมถึงไว้ทำอย่างอื่น เช่น ทำความสะอาดแผล ทายา หรือเช็ดคราบเมคอัพบริเวณตาได้อีกด้วย เป็นต้น

นอกจากนี้น้องยังไม่มีสารฟลูออเรสเซนส์อีกด้วย ดูเป็นธรรมชาติสุดๆ และผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว สามารถใช้ได้กับผิวที่บอบบาง และบริเวณที่บอบบางต่าง ๆ

ควรค่าแก่การซื้อติดบ้านไว้มาก นี่ถ้าของเก่าหมดแล้วก็อาจจะเปลี่ยนมาใช้เป็นก้านกระดาษของเอเวอร์กรีนแทน >< ประทับจุยยย ♥

ถึงเวลารีวิวเจ้า GARNIER Skin Naturals Bright Complete Vitamin C Ampoule Serum แล้วค่าา!!

หลังจากมีระยะเวลาให้ทดลองใช้ต่อเนื่อง 6 วัน ก็พิสูจน์กันไปให้เห็นเล๊ยยยย ว่าเห็นผลจริง หรือจกตา

อันนี้เป็นสกินแคร์ใหม่ล่าสุดจากการ์นิเย่ค่ะ ไลน์ Bright Complete ซึ่งกลิ่นอย่างแรกต้องมาก่อนเลยคือ ความหอมสดชื่นของเลมอน มะนาว

ตัวนี้เป็นแอมพูลเซรั่มแบบเข้มข้น อุดมด้วย วิตามินซีเข้มข้น 3% และ ไนอาซินาไมด์ (หรือ Vit B3) ที่ช่วยเสริมให้ผิวกระจ่างใส แอมพูลเซรั่มตัวนี้ จุดเด่นเค้าคือ เข้าจัดการปัญหาฝ้าแดด จุดด่างดำ และรอยดำใต้ตาอย่างแม่นยำ ให้เห็นผลลัพธ์จริงใน 6 วัน (ถ้าใช้อย่างต่อเนื่อง) รวมถึงบูสท์ผิวให้กระจ่างใสอีกด้วย แค่คำเคลมก็ชนะเลิศแล้ว ทีนี้มาดูผลลัพธ์กันค่า

แพ็กเกจ : ที่ได้มาเทสต์ มาในรูปแบบกล่อง บรรจุด้วยแอมพูล 12 หลอด สำหรับการใช้ 6 วันต่อเนื่อง (ใช้เช้า-เย็น) เป็นหลอดสีเหลือง

แพ็กเกจแอมพูลเป็นแบบหลอดเล็ก ๆ ขนาดบรรจุ 1.5 มล. มีรอยปรุแยกให้หักใช้ทีละหลอดได้สะดวก รวมถึงเวลาใช้ต่อหลอด ก็มีรอยให้หักหัวจุกแอมพูลไปข้างหลังเพื่อบีบผลิตภัณฑ์ออกมา ตัวหลอดเป็นพลาสติก ค่อนข้างแข็งทนทานดี ตอนบีบก็ต้องออกแรงหน่อย ในการจะรีดออกมาให้หมดหลอด

เนื้อผลิตภัณฑ์ : น้ำแอมพูลเป็นสีใส ไม่เหนียวเหนอะหนะ ค่อนข้างเข้มข้น และมีกลิ่นหอมของเลมอน สไตล์ของไลน์นี้อยู่แล้ว

ความรู้สึกหลังการใช้ : หลังจากการใช้ต่อเนื่อง 6 วัน (สารภาพแอบมีบางคืนที่ไม่ได้ทาก่อนนอน เลยไปทาชดเชย แต่ว่าพยายามใช้ทุกวัน ><") สิ่งที่สังเกตได้เลยอย่างแรกคือ ไม่แพ้ ไม่แสบ ไม่คัน แต่ช่วงนี้เหมือนฮอร์โมนจะแปรปรวน เลยมีสิวขึ้นเยอะบริเวณคาง (ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพราะเปลี่ยนมาลองสกินแคร์ของใหม่ด้วยไหม?)

เราจะมีปัญหาพวกรอยดำ รอยแดงจากสิว รวมถึงรอยดำใต้ตา และความหมองคล้ำของผิว ซึ่งพอใช้จนครบโดส ผลลัพธ์ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ เพราะว่า รอยสิวที่บริเวณข้างแก้ม ดูมีความจางลง กับแถว ๆ หน้าผาก ดูเรียบเนียนขึ้น

เรื่องความกระจ่างใสของผิว ดูไบร์ทขึ้นอยู่นะ นิดนึง แต่ไม่ถึงกับเปลี่ยนเฉดสีผิว แค่หน้าดูกระจ่างใส และก็เรียบเนียนขึ้นบริเวณช่วงแก้ม

ส่วนเรื่องรอยคล้ำใต้ตา ก็ดูสว่างขึ้นนิดหน่อย แต่ด้วยความที่เราเป็นแพนด้ามานาน อาจจะต้องใช้ระยะเวลาอีก คงต้องใช้ต่อเนื่อง น่าจะเห็นผลชัดกว่านี้

อันนี้เราพยายามถ่ายด้วยกล้องหลัง ด้วยแสงธรรมชาติ ไม่ปรับสีแสงเพิ่ม พยายามเก็บให้ได้มุมเดิมเยอะที่สุด จะได้เปรียบเทียบให้เห็นชัด ^^

โดยรวมคือ ค่อนข้างพอใจกับตัวแอมพูลนี้อยู่ ถือว่าเป็นทางลัดฟื้นฟูผิวที่ช่วยกู้ผิวสำหรับคนเป็นฝ้า จุดด่างดำแบบลึกและเข้มข้น น่าจะช่วยให้จางลงได้ (โชคดีที่เราไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องฝ้าเท่าไหร่)

ทริคแนะนำ!! เนื่องจากรู้สึกเองว่า บีบจากหลอดแล้วมันไม่สุด ผลิตภัณฑ์ออกไม่หมด เสียดายของ หลังจากหักหัวจุกหลอดไปข้างหลัง เลยลอกฟอยล์ออกไปด้วย ปรากฎว่าเวิร์ค!! สามารถควักแอมพูลที่เหลือติดหลอดมาใช้ให้หมดได้ 555555555 เอาให้เกลี้ยง ให้คุ้มค่า (แต่กว่าจะคิดได้ก็ทิ้งไป 2-3 หลอดแล้ว)

คุ้มค่าและน่าลอง สำหรับคนผิวค่อนข้างแข็งแรง ไม่แพ้น้ำหอม และไม่แพ้การ์นิเย่สูตรนี้นะคะ แนะนำเลยยย :) หรืออยากลองซื้อแบบหลอดเดี่ยวมาทดลอง ก็มีขายที่เซเว่นแล้วนาาา ลองสักอันแล้วจะติดใจค่าา ♥

สวัสดีค่า วันนี้จะมาแชร์ผลการใช้ยาสีฟัน Colgate Optic White Active Oxygen Whitening กันค่าา

ความพิเศษของเจ้ายาสีฟันตัวนี้ เค้าเคลมมาว่า สามารถเห็นผลลัพธ์ฟันขาวขึ้นได้ภายในสามวัน รวมถึงยังให้ความรู้สึกอุ่นขณะแปรงด้วย เอาซี่!! อันนี้ยังไม่เคยเจอเจ้าไหนเลยที่บอกว่าแปรงแล้วจะให้ความรู้สึกอุ่น มาดูกันค่ะ

แพ็กเกจ : มาในกล่องสีดำ มีลวดลายสีสันสวยงามเลย แกะออกมาก็จะเจอเป็นหลอดสีดำเช่นกัน แถมมี QR Code ให้สแกนดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อีกด้วย หลอดเป็นแบบฝาหมุน ใช้งานง่าย แถมไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะด้วยเวลาพกพา ตรงรูหลอดผลิตภัณฑ์ก็ใหญ่พอประมาณ กำลังดีค่ะ สามารถกะปริมาณยาสีฟันที่จะใช้ในแต่ละรอบได้เลย

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อครีมสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แนวอโรม่าเมนทอล ค่อนข้างสดชื่นเลย

ความรู้สึกหลังการใช้ : จะบอกว่าวันแรกๆ ที่ทดลองใช้ ยังไม่รู้สึกถึงความอุ่นนะ 5555555 แต่พอเริ่มไปใช้เรื่อยๆ มาสังเกตว่า เออ มันอุ่นจริงแหะ แถมอณูฟองตอนแปรงก็คือละเอียดมากกกกก! ฟองนุ่ม สัมผัสรสไม่แสบในปากนะคะ คือค่อนข้างอ่อนโยนกับช่องปากเลย เพราะปกติยาสีฟันบางยี่ห้อ เวลาแปรงแล้ว ตอนแปรงไม่รู้สึกอะไร แต่พอตื่นเช้ามานี่ผนังปากลอกออกมาเป็นขาว ๆ เลย Y_Y อันนี้ถือว่าสอบผ่านเรื่องความอ่อนโยนเลยค่ะ

หลังจากทดลองใช้ต่อเนื่องประมาณ 3 สัปดาห์ สิ่งที่สังเกตได้คือ ช่องปากดูสะอาดขึ้น

ถามว่าเรื่องควบคุมกลิ่นระหว่างวันได้ไหม อันนี้สำหรับเราเองว่ายังได้ไม่เต็มที่นัก แต่อาจจะเป็นเพราะการกินของเราเองด้วย (พวกชา กาแฟ อาหารต่าง ๆ ที่มีกลิ่น) รวมถึงกลิ่นและรสของยาสีฟันที่หลังจากแปรงเสร็จก็อยู่ได้สักพักใหญ่ แล้วก็จางหายไป แต่ชอบกลิ่นนางอยู่นะ หอมจริง

ความกระจ่างใสของฟัน ยังไม่ค่อยเห็นผลมากนัก คิดว่าน่าจะต้องใช้ต่อเนื่อง บวกกับพฤติกรรมการกินดื่มด้วย เพราะติดชา กาแฟมาก 5555

ชอบความฟองละเอียดด้วย เพราะรู้สึกว่ามันทะลุทะลวงทุกซอกมุมดี 5555

เอาเป็นว่า โดยรวมคือประทับใจ และก็สอบผ่านอยู่ค่าสำหรับตัวนี้ เพราะเคยใช้คอลเกตรุ่นอื่นที่ว่าอ่อนโยนกว่านี้ ผนังปากยังลอก (ร้องไห้แย้วน้าาา) ถือเป็นอีกประสบการณ์นึงสำหรับยาสีฟันแบบอุ่นและฟองละเอียด เพื่อนๆ ไปลองกันดูนะคะ หลอดนึงน่าจะใช้ได้นานหลายเดือนเลย เราบีบแค่เท่าเม็ดข้าวโพด ไม่ได้บีบเต็มแปรง ก็แปรงได้ทั่วทั้งปากแล้วค่า ^^

ขอบคุณทีม Cosmenet สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ส่งมาให้เราได้ทดลองด้วยนะค้าาาา ♥

ตัวนี้เป็นเนื้อสครับ ชอบซื้อใช้คู่กับอันที่เป็นเนื้อโฟม จะใช้สลับกันไป กลิ่นหอมอ่อนๆ สดชื่นมาก
เสียดายว่าเลิกขายไปแล้ว ตอนนั้นฮิตมากยี่ห้อนี้

เป็นโฟมที่ใช้แล้วชอบมากอยู่ช่วงนึงเลย หอมมากก ล้างสะอาด
ประมาณ 10 ปีที่แล้วได้ ตอนนี้ไม่มีขายอีกแล้ว อยากให้กลับมาขายอีก ราคาไม่แพง ถูกและดีเลยค่ะ

เห็นรีวิวมาเยอะแยะมากมาย บวกกับเพิ่งมีโปร 2 แถม 1 เลยจัดมาลอง
ด้านนึงเป็นลิปแมตต์ อีกด้านเป็นกลอสทาทับอีกที

จะบอกว่ามันปังเว่อร์!! คือถ้าทาสีแมตต์อย่างเดียวก็ได้อยู่ แต่มันจะออกแห้งๆ ไปนิดนึง
พอทากลอสทับแล้วคือแบบ สวยว้าวมาก ปากฉ่ำเว่อร์!

อันนี้ที่ได้มา สีเบอร์ 103 ค่ะ สีขายดีสุดด้วย โดนพนง.ป้ายยา 55555
ราคา 449 บาท สีสวยอยู่น้าาาาาาา

ข้อแนะนำ สีลิปที่เห็นตรงหลอด กับเนื้อใน ไม่เหมือนกันนะคะ เห็นมาหลายสีละ ต้องไปลองปาดเองที่ช้อป จะได้เห็นสีที่แท้จริงค่าา

สวัสดีค่าา วันนี้จะขอมาบอกต่อความดีงามของสำลีตัวนี้นะคะ

เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจากศรีจันทร์ ออกเป็นสำลีรุ่น Beauty to Go

ความดีงามของคุณน้องตัวนี้ สำลีเค้านุ่มมาก ไม่บาดผิว

มาในรูปแบบซองซิปล็อก สะดวกใช้ พกพาง่าย แต่แอบแกะยากนิดนึง แกะจนหัวพลาสติกขาดไปแล้ว 5555

สามารถใช้เช็ดทำความสะอาดบนใบหน้า ได้ทั้งเมคอัพรีมูฟเวอร์ และเช็ดโทนเนอรื

มาในรูปแบบซอง ขนาด 110 แผ่น ใช้ได้นานเลยทีเดียว
เค้าเป็นสำลีแบบไม่รีดขอบ ขนาดพอดีมือ

เช็ดทำความสะออกไปได้หมดจดจริงๆ แถมราคาก็สบายกระเป๋ามากกก ต้องลองบ้างแล้ว ??

ได้ฤกษ์มารีวิวสักที กับเจ้าความดีงามของ Ri en Underarm Care White Secret Collection Set

แค่เห็นกล่องก็หวานแหววน่ารักน่าใช้แล้ว มาดูที่ผลิตภัณฑ์บ้างดีกว่า

ในเซ็ตจะประกอบด้วย ตัวสครับ เอสเซนส์ และครีม

พูดถึงตัวสครับก่อน สครับเป็นเนื้อสีชมพูอ่อนๆ มีเม็ดบีดส์ที่ขัดผิวใต้วงแขนแล้วไม่บาดเลยยย ดีมาก แถมกลิ่นหอมด้วย เรียกว่าสครับเพลินเลยทีเดียว เหมือนช่วยขจัดสิ่งตกค้างที่สะสมบริเวณผิวใต้วงแขน ล้างออกง่ายด้วย

เอสเซนส์ มาเป็นน้ำใส ๆ กลิ่นหอมเช่นกัน เช็ดแล้วสะใจมาก พวกคราบดำ คราบต่าง ๆ ออกมาเยอะมาก เห็นแล้วยังแอบตกใจ ขนาดว่าบางทีเราใช้ใยขัดตัวขัดผิวบริเวณนี้แล้ว ก็ยังเอาออกไม่หมด พอเช็ดแล้วผิวดูดีขึ้น ดูใสขึ้น เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ 5555

ตัวสุดท้ายคีอครีมบำรุง ตัวนี้ก็กลิ่นหอมเหมือนกัน เอาดี ๆ นี่ว่าทาแทนโรลออนได้อยู่นะ กลิ่นหอมค่อนข้างติดทนอยู่ แต่อาจจะไม่ยาวนานเท่าโรลออน แต่ก็พอแก้ขัดได้ระดับนึง เนื้อครีมส่วนตัวว่าเข้มข้นอยู่ บีบนิดเดียวคือทาได้ทั่วน้องเต่าเลย แต่ก็ต้องรอทิ้งไว้ซักพักนึงให้น้องซึมลงผิวก่อน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่ฉุนเกินไป

รวมแล้ว ใช้ทั้ง 3 ตัวควบคู่กันไป เป็นระยะเวลาสัก 2 สัปดาห์ ผิวใต้วงแขนคือดีขึ้นอยู่นะ ดูเนียน และใสขึ้น (ขออภัยไม่กล้าโชว์ 555) จากที่มีความคล้ำเพราะเสียดสีบ่อย ก็ดูจางลงบ้าง แต่คิดว่าคงต้องใช้ต่อเนื่องไปอีกสักพัก น่าจะเห็นถึงความกระจ่างใสมากกว่านี้

โดยรวมแล้วชอบค่ะ ชอบมากก เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวใต้วงแขนอีกอันที่อยากแนะนำเลย แพ็กเกจเอย สีเอย กลิ่นเอย ดูดีไปหมด คุ้มราคาค่าา ต้องลองๆ ♥

ถึงเวลารีวิวเจ้าแป้ง BSC Smoothing Matte Powder ตลับนี้แล้วค่า
ขอบคุณทาง Cosmenet มาก ๆ นะคะ สำหรับผลิตภัณฑ์ให้ทดลอง

ตัวนี้เป็นแป้งผสมรองพื้นเนื้อแมตต์ มีกันแดดกรุบกริบ SPF 20 PA++ ด้วยค่ะ

ที่ได้รับมาเป็นไซส์แบบพกพา ตลับสีดำ มีสกรีนชื่อรุ่นบนหน้าตลับ สวยงามหรูหรา
ข้างในมีกระจกให้ด้วย และพัฟนุ่มๆ แต่ว่าไม่มีชั้นแยกนะคะ

สีที่ได้รับมาเป็น C2 ผิวสองสี ลองปาดเนื้อดูแล้วออกโทนขาวเหลืองหน่อย

ความรู้สึกหลังจากทดลองใช้ - ปกติเป็นผิวผสม สภาพผิวคือมีพวกรอยดำ รอยสิว หลังจากที่ทาแป้งแล้ว คือค่อนข้างปกปิดได้ดีเลยทีเดียว กลบรอยกริบมาก และช่วยปรับสีผิวให้สว่าง และเนียนขึ้นด้วยค่ะ

ส่วนตัวใช้แต่งหน้าไปทำงาน มีหลุดติดแมสก์บ้างในระดับนึง กลับมาบ้านสภาพหน้าก็ยังมีแป้งติดอยู่ ถามว่าคุมมันดีไหม ก็ยังมีความวาวออกมาอยู่บ้างค่ะ กันเหงื่อในระดับนึง ไม่ละลายเท่าไหร่

ชอบตรงที่เนื้อสัมผัสค่อนข้างเบาบาง ติดผิวดีเลย สีก็ไม่ทำให้หน้าวอก หรือเทาด้วย
เป็นแป้งงานผิวอีกตลับนึงที่แนะนำให้ลองเลยค่ะ

ตัวนี้เพิ่งเล่นเกมได้มาทดลองหมาดๆ และเป็นอะไรที่อยากลองมานานแล้ว
ทดลองใช้ไปสองวัน ชอบตรงที่เค้าดูอ่อนโยนมาก ไม่มีน้ำหอม
ฟองก็ไม่เยอะด้วย นวดหน้าเพลินมาก ล้างแล้วหน้าไม่เอี๊ยด
ยังไม่มีอาการแพ้ใดๆ

เดี๋ยวขอใช้ต่อเนื่องแล้วมารีวิวผลลัพธ์ให้อีกทีค่า

หลัง ๆ เป็นคนที่เริ่มอินกับผลิตภัณฑ์สมุนไพรมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อผม ผิวหน้า หรือร่างกาย มาวันนี้ ได้ทดลองยาสีฟันสมุนไพร Denta Mate หลังจากทดลองใช้มาสักระยะ มาดูรีวิวกันค่า

อย่างแรก ตัวแพ็กเกจก็ดูน่าใช้แล้ว ด้วยสีสันเอยอะไรเอย พอแกะกล่องมาก็เป็นหลอดฟอยล์สีฟ้าสดใส แถมมาแบบหลอดใหญ่ด้วย เคลมมาด้วยว่าใช้ได้ถึง 600 ครั้ง ตามปริมาณที่เค้ากำหนด แค่เมล็ดถั่วเขียวเท่านั้น

ตัวเนื้อยาสีฟันเป็นสีขาว กลิ่นสมุนไพรชัดเจนมาก หอมสดชื่น

หลังจากที่ได้ลองครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจเลย เพราะว่า มันไม่แสบปากจ้าา!! น้ำตาจะไหล ปกติคือใช้ยาสีฟันสมุนไพรยี่ห้ออื่นคือแบบ แสบปากแล้วหนึ่ง แถมสำคัญคือ ผนังในปากลอกด้วย! เป็นเยื่อขาวๆ ใครที่เคยใช้ยาสีฟันแบบแรงๆ จะรู้ดี T_T .. ทดลองแปรงซ้ำรอบที่สอง ก็ไม่แสบปากเหมือนเดิม มันเริดค่ะ!

ประการที่สองคือ ตื่นมาตอนเช้าคือไม่มีกลิ่นน้ำลายบูด ซึ่งก่อนหน้าที่จะใช้เดนตาเมท ใช้ยี่ห้ออื่นที่เคลมว่าช่วยเรื่องระงับกลิ่นปากยามเช้า ก็ยังเอาไม่อยู่ มาใช้ตัวนี้คือกลิ่นน้ำลายบูดแทบไม่มี แถมยังได้กลิ่นหอมอวลอยู่ในปากอยู่หน่อยๆ ด้วย

ถามถึงเรื่องความขาวของฟัน ส่วนตัวลองใช้ต่อเนื่องมาตลอด 2 สัปดาห์ ถามว่าขาวขึ้นเห็นชัดไหม ก็ยังไม่ชัดขนาดนั้น เพราะเป็นคนที่ติดชา กาแฟมาก ดื่มทุกวัน แต่รู้สึกได้ว่าฟันสะอาดมาก ขึ้นเลย เวลายิ้มก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้น จะทาลิปสีสดๆ ก็กล้ายิ้มได้ ไม่ต้องกลัวฟันเหลือง ♥ คิดว่าถ้าใช้ต่อเนื่อง ก็อาจจะเห็นผลมากกว่านี้

เป็นยาสีฟันสมุนไพรอีกตัวที่ใช้แล้วค่อนข้างว้าวเลยทีเดียว ถ้าหมดแล้ว มีสิทธิ์ซื้อต่อแน่นอนค่าา

ถึงเวลารีวิวไนท์ครีมสูตรเข้มข้นตัวนี้แล้ว
ขอบคุณทาง Cosmenet มากนะคะที่มอบโอกาสให้ได้ทดลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้

ต้องบอกก่อนว่า ปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบใช้ผลิตภัณฑ์แบบครีมเลย เพราะรู้สึกว่าไม่เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง และรู้สึกเหนอะหนะ อุดตัน แต่พอได้ลองตัวนี้ ต้องเปลี่ยนใจเลยค่ะ

Oriental Princess Red Natural Whitening & Firming Phenomenon Night Moisturizer ไนท์ครีมบำรุงผิวสูตรใหม่ล่าสุดจาก Oriental Princess

ตัวนี้ Made in Japan เลยค่ะ แถมสารสกัดก็น่าสนใจด้วย
อาทิ เช่น
• สารสกัดจาก Gold Colloid Koyamaki หรือ สารสกัดจากสนญี่ปุ่น ด้วยอณูสารสกัดโมเลกุลขนาดเล็ก ช่วยให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย และล้ำลึกยิ่งขึ้น
• Rose Hybrid Flower Extract นวัตรกรรม 5 คุณค่าสารสกัดเข้มข้นจากดอกกุหลาบ ช่วยในเรื่องสกัดกั้นความหมองคล้ำบนใบหน้า แถมยังต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าไลโคปีนถึง 2.5 เท่า

และยังปราศจากสารที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองผิวอีกด้วย

บรรจุภัณฑ์ : ภายนอกเป็นกล่องกระดาษสีแดง ฉลุลายลูกสนบนหน้ากล่อง ข้างในมาในรูปแบบกระปุกฝาหมุนสีแดง ดูหรูหรา สวยมากก ชอบนะ ดูไฮโซดี แถมมีไม้พายสำหรับตักครีมมาให้ด้วย เพื่อความสะอาดนั่นเอง

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ตัวไนท์ครีมนี้มีสีส้มอ่อน ๆ เนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น เนื้อสัมผัสนุ่มดีค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ส่วนตัวแอบรู้สึกไม่ค่อยชอบกลิ่นเท่าไหร่ กลิ่นแปลกๆ >w<" เนื้อครีมเมื่อทาลงบนผิวแล้ว มอบความชุ่มชื้นให้กับผิวขั้นสุดมาก!!! ผิวดูชุ่มฉ่ำทันทีหลังทา แอบมีความมันหน่อย ๆ ด้วย

ความรู้สึกหลังการใช้ : หลังการทดลองใช้ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ .. อย่างแรกเลย ขอปรบมือให้กับความชุ่มฉ่ำของครีม เป็นไนท์ครีมที่ฉ่ำมากจริงๆ เข้มข้น และบำรุงผิวได้ดีมากกก ตื่นมาคือแบบหน้าดูไม่โทรม ดูผิวยังอิ่มฟู .. เหมาะมากกับการกู้หน้าที่พังเป็นซอมบี้ให้กลายเป็นคนได้อีกครั้ง (555)

ยิ่งใช้ต่อเนื่อง ผิวยิ่งเหมือนได้รับการบำรุงแบบเข้มข้นในทุกคืน ผิวหน้านุ่มขึ้นนะ เรื่องความกระจ่างใส และกระชับ อาจจะต้องขอสังเกตไปอีกสักหน่อย ยังไม่ค่อยเห็นในจุดนี้มาก แต่ก็ดูเฟิร์มขึ้นนิดนึง พวกริ้วรอยเล็กๆ ตื้นๆ ก็ดูดีขึ้นค่ะ

สิ่งที่ขัดใจนิด ๆ กับตัวนี้คือ ทาแล้วมันแอบมันอยู่นะ! มันทั้งหน้า ทั้งมือที่ทาเลย 5555 เวลาไปล้างมือนี่รู้สึกได้เลยว่า มีความมันเคลือบอยู่บนมือ วิธีแก้ของเราคือ หลังจากทาไนท์ครีมตัวนี้แล้ว ถ้าไม่อยากรู้สึกว่าเหนอะหน้าเกินไปตอนนอน เราจะเอาทิชชู่มาซับทั่วหน้าอีกที ก็จะพอลดความเหนอะหนะไปได้บ้าง โดยที่ไม่ได้ทำครีมหลุดออกจากหน้าไปหมด ยังมีความชุ่มชื้นบนผิวที่โอเคอยู่ค่ะ

ส่วนตัวคือใช้แล้วไม่แพ้ ไม่มีสิวเพิ่ม และไม่อุดตันด้วย ดีใจมากในจุดนี้ ♥

ถือว่าเป็นไนท์ครีมอีกตัวที่น่าสนใจมาก กำลังมาแรงเลยทีเดียว แถมผลิตภัณฑ์ตัวอื่นในไลน์นี้ก็น่าทดลองไม่แพ้กัน จากคนที่ไม่ค่อยชอบผลิตภัณฑ์เนื้อครีม แอบเทใจให้กับตัวนี้เลย เข้มข้น และบำรุงได้ดีมากค่ะ อยากให้ได้ลองกันเลย

อยากลองมานานแล้ว กับ Melano CC แต่คราวนี้ได้ลองเป็นรุ่น Premium Essence ที่เหมาะกับปัญหาผิว ฝ้า กระ จุดด่างดำเป็นหลัก มาดูกันค่ะว่า เอสเซ้นส์ขายดีอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น 5 ปีซ้อน จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้จริงหรือไม่

แพ็กเกจ : มาในกล่องสีเหลืองทองเหลือบๆ เมทัลลิค ภาษาญี่ปุ่นเต็มไปหมด (555) มีคำอธิบายภาษาไทยไว้ด้านข้าง พร้อมส่วนผสม และคุณสมบัติ

แกะกล่องออกมา จะพบกับหลอดเอสเซ้นส์สีเหลือง เป็นหลอดแบบ Foil UV ทึบแสง ซึ่งดีสำหรับการบรรจุวิตามินซี ที่ต้องการหลีกเลี่ยงจากแสงแดด เปิดฝาหมุนออกมา จะพบจุกสญญากาศ ที่ช่วยรักษาความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ และป้องกันเชื้อโรค และกันลมด้วย
ตัวจุกนี้ช่วยกะปริมาณในการใช้เอสเซ้นส์ได้ดีเลยค่ะ เป็นหยดๆ แต่แอบบีบยากเหมือนกัน กลัวบีบแล้วหลอดแตกมากเลย T_T

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อเอสเซ้นส์ใส แต่เข้มข้นด้วยวิตามินซี ถึง 4 ชนิด และสารสกัดอื่นอีกมากมาย ตอนทาลงผิว จะรู้สึกว่ามีความมันนิด ๆ แต่พอเกลี่ยลงผิวแล้ว ก็สามารถซึมเข้าผิวได้ดี ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้ ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นหน่อย ๆ ด้วยค่ะ อ่อ มีกลิ่นหอมแบบเปรี้ยวอ่อนๆ ด้วย

ความรู้สึกหลักการใช้ : หลังจากทดลองใช้ต่อเนื่องประมาณ 2 สัปดาห์ เช้า-เย็น พบว่าเซรั่มตัวนี้ค่อนข้างเวิร์คมากกกกกก!! ปัญหาผิวส่วนตัวตอนนี้ คือหน้าแอบมีความหมองคล้ำ และรอยดำบนผิว รอยสิว หลังใช้แล้ว รอยดำ และรอยสิวดูจางลง โดยเฉพาะช่วงแก้มที่มีรอยดำเยอะๆ คือเห็นชัดจริงๆ ว่ามันจางลง แล้วผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย >,<

ผิวดูเรียบเนียนขึ้น และความมันลดลงเช่นกันค่ะ เรื่อยรอยดำมีความจางลงจริง แต่อาจจะต้องใช้ต่อเนื่อง ถึงจะเห็นผลมากขึ้น และที่สำคัญ ต้องไม่ลืมทากันแดดด้วยนะค้าาาาาาาา

แต่ตัวนี้เป็นวิตซีที่ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่คัน ไม่แดง และไม่สิวขึ้นด้วยค่า ♥ ความจริงมีอีกรุ่นนึงของ Melano CC ที่สามารถลดพวกรอยสิว รอยแดงได้ แต่สำหรับเราคิดว่าตัวนี้ก็ทำได้เช่นกัน และเข้มข้นด้วย เป็นวิตซีที่น่าลงทุนอีกตัวเลยค่า เลิฟค้าบบ

ขอบคุณทาง Cosmenet มากค่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ทดลองตัวนี้

Olay Regenerist Collage Peptide 24 Serum ขวดนี้ แค่แพ็กเกจจิ้งก็ชนะเลิศแล้ว มาในขวดแก้วสีแดง แบบไล่เฉดสี ดูหรูหรามาก ตัวฝาเป็นดรอปเปอร์หัวปั๊มสีเงิน ใช้งานสะดวก แค่หมุนฝาขึ้นมาก็มีเนื้อเซรั่มติดหลอดมาแล้ว

เนื้อสัมผัส : เนื้อผลิตภัณฑ์ เป็นเซรั่มเนื้อเหลว สีขาวขุ่น ไม่มีน้ำหอม ดูเป็นอะไรที่อ่อนโยนมาก เมื่อเกลี่ยลงบนผิวแล้วค่อนข้างเกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมสู่ผิวได้ค่อนข้างดี เมื่อซึมลงผิวหมดแล้ว ให้ความชุ่มชื้นกับผิวทันที จะมีฟีลเหมือนมีอะไรบาง ๆ เคลือบไว้บนผิว

ความรู้สึกหลังการใช้ : หลังจากทดลองใช้ต่อเนื่องประมาณ 2 สัปดาห์ ใช้ทั้งช่วงเช้า-เย็น รู้สึกว่า ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้น
เรื่องริ้วรอย ดูจางลงเล็กน้อย บริเวณร่องแก้ม ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาสังเกตกว่านี้อีกหน่อย
ความเรียบเนียน ผิวดูเรียบเนียนและสว่างขึ้นเล็กน้อย

สิ่งที่ชอบมากในเซรั่มตัวนี้คือ ไม่มีน้ำหอม และสารระคายเคืองผิวอื่น ๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นเซรั่มที่อ่อนโยนกับผิวระดับนึงเลย ที่สำคัญคือส่วนตัวใช้แล้วไม่แพ้ด้วยค่ะ แถมทารอบดวงตาแล้วไม่แสบตาด้วย อันนี้คือเริดจริง

รวมถึงสารสกัดคอลลาเจน-เปปไทด์ ที่สามารถซึมลึกเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวดูแข็งแรงมากขึ้น รวมถึงกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีอีกด้วย เป็นเซรั่มอีกตัวที่น่าใช้มาก ๆ ค่ะ ♥

ได้ฤกษ์ทดลองแบรนด์น้องใหม่จากญี่ปุ่น กับ Aqua Aqua Organic
ที่ได้รับมาเป็น เบสสีเหลือง ที่ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอค่ะ

แพ็กเกจ : ห่อมาในถุงผ้าน่ารัก ♥ ข้างในแกะออกมาแล้วจะมีกล่องคูชชั่นอยู่ กับ Thank you card และก็รายละเอียดผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในแบรนด์ ดูแล้วน่ารักน่าใช้หลายตัวเลย แต่ราคาก็แอบเอาเรื่องพอตัวนะ / ตัวคูชชั่นอยู่ในกล่องอีกที แกะกล่องมาจะเจอห่อฟอยล์ ข้างในเป็นตลับคูชชั่นแบบ Refill ที่มาพร้อมพัฟเนื้อนุ่มเลยค่ะ ตัวฟองน้ำค่อนข้างละเอียดดีเลย เนื้อหนานุ่ม ดูแข็งแรง ไม่ขาดง่าย

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ชอบในเนื้อผลิตภัณฑ์มาก ลองเทสต์เนื้อก่อนทา มันออกเป็นแบบน้ำ ค่อนข้างเบาสบายผิวเลย ตอนเกลี่ยลงผิวก็เกลี่ยง่ายมาก กลืนไปกับผิวได้ดี ไม่ทิ้งคราบไว้ ทาลงบนผิวแล้วช่วยปรับให้ผิวสว่างขึ้นทันทีหลังทาเลย

ผลลัพธ์หลังการใช้ : หลังจากบำรุงผิวแล้วทากันแดดแล้ว ก็ลองทาเบสตัวนี้ต่อ ตอนแกะผลิตภัณฑ์ออกมาแล้วเห็นว่าเป็นเบสเหลือง ก็แอบคิดว่าจะรอดไหม เพราะตัวเองผิวโทนขาวเหลืองจริง แต่ก็กลัวว่าจะหน้าลอยหรือหน้าเทา แถมไม่เคยใช้เบสสีเหลืองมาก่อนด้วย กลัวไม่รอด 555

ตอนทาครั้งแรกแอบตกใจเลย เพราะมันขาวจริง 5555 แบบทาครึ่งหน้าแล้วรู้เลยว่าสีผิวคือต่างกันสุด ๆ แต่ก็เลยลองทาไปทั้งหน้า ปรากฎว่าก็ไม่ได้ทำให้หน้าเทา หรือว่าหน้าวอกเกินไป มันช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้นจริง แต่ก็ดูไม่หลอกตามากเกินไป เนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างเกลี่ยง่าย เพราะมีความเป็นน้ำนิด ๆ สบายผิวอยู่ แต่ถ้าทาตอนที่ผิวเริ่มมัน หรือมีเหงื่อออก ก็อาจจะเป็นคราบได้บ้างเล็กน้อย

นอกจากจะปรับสีผิวให้สว่าง และสม่ำเสมอแล้ว ความปกปิดก็ดีในระดับนึง ปกปิดแบบบางเบา และช่วยเบลอรูขุมขนให้ดูเนียนขึ้น แถมรู้สึกว่าหน้าดูมีความชุ่มชื้นด้วย จากนั้นก็ลงเมคอัพต่อได้เลย พอลงด้วยแป้งทับแล้วผลออกมาค่อนข้างดีมากก! ให้ผิวสวยเรียบเนียน ไม่อุดตันรูขุมขน ไม่มีอาการแพ้แต่อย่างใด ด้วยสูตรที่มาจากส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิค ค่อนข้างอ่อนโยนกับผิวมาก

ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้ลองใช้เบส แล้วค่อนข้างประทับใจเลยค่ะ กำลังเล็งตัวอื่นในแบรนด์ไว้อยู่ด้วย ทั้งรองพื้นคูชชั่น ทั้งลิป คือน่าลองมากจริง ๆ ♥

ถ้าพอมีงบประมาณ แล้วอยากลองเครื่องสำอางที่เป็นออร์แกนิค Aqua Aqua Organic ก็เป็นอีกแบรนด์ที่น่าสนใจค่ะ ^^

มาแชร์ความรู้สึกหลังจากได้ทดลองกันแดด L'Oreal UV Defender SPF 50+ PA++++ ค่ะ สูตรที่ลองคือ Matte & Fresh

ได้รับมา 3 ซอง เป็นแบบซองฝาหมุน แพ็กเกจเป็นซองแบบด้าน มาในปริมาณ 5.5 มล. พกพาง่าย สะดวกมากเลย

• เนื้อผลิตภัณฑ์
เป็นเนื้อครีมสีขาวเหลืองอ่อนๆ เมื่อเกลี่ยบนผิวแล้ว ค่อนข้างเกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวได้ง่าย ให้สัมผัสแบบแมตต์ๆ บนผิว ไม่วาว แต่ผิวดูมีความชุ่มชื่นเล็กน้อย ช่วงลงเสร็จใหม่ๆ จะมีความหนึบเล็กน้อย รอให้เซ็ตตัวกับผิวสักพักก็จะแห้งแมตต์ไปเองค่ะ

• กลิ่น
กลิ่นน้ำหอมชัดมาก คนไม่ชอบอาจจะรู้สึกว่ากลิ่นแรงไป กลิ่นที่ได้มันออกแนวแป้งๆ เปรี้ยวๆ สดชื่นหน่อย

• ความรู้สึกหลังการใช้
หลังใช้ต่อเนื่อง รู้สึกชอบในเนื้อสัมผัส ใช้แล้วไม่รบกวนกับเมคอัพแต่อย่างใด ให้ผิวดูเนียนขึ้น สามารถคุมมันได้ดี (แต่ต้องรอให้ครีมมันเซ็ตลงผิวแบบแห้งจริง ๆ ก่อนนะ ไม่งั้นทาแป้งอาจะเป็นคราบได้) กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี ไม่ทำให้เครื่องสำอางหลุดลอก หรือเป็นคราบระหว่างวัน

เรื่องการกันแดด ใช้แล้วหน้าไม่หมองคล้ำเลย ประสิทธิภาพในการกันแดดค่อนข้างสูง และทำได้ดี ด้วย SPF50+ PA++++ หน้าไม่ไหม้ แม้จะเจอแดดแรงแค่ไหน ><

ใช้ดี ใช้เพลินมาก จนเสียดายหยดสุดท้ายเลยต้องตัดซองออก คว้านเนื้อกันแดดในซองมาใช้ให้หมด 5555

โดยรวมคือเป็นกันแดดที่ทำออกมาได้ดีเลย ราคาไซส์จริงก็แอบแรงใช่ย่อยอยู่นะคะ แต่ถ้ายอมลงทุนกับกันแดดหน่อย ก็ถือว่าโอเคนะ มีหลายสูตรด้วยน่าลองทุกสูตรเลย แต่สำหรับสูตร Matte & Fresh คนผิวผสมแบบเรานี่ได้ใจไปเลยค้าบ ♥

ต้องขอขอบคุณทางทีมงาน Cosmenet มาก ๆ เลยนะคะที่ให้ได้ทดลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้

เขาว่ากันว่า ดวงตา คือ หน้าต่างของหัวใจ และสิ่งที่เราให้ความสำคัญมากกับการแต่งหน้า คือ การกรีดอายไลเนอร์นั่นเอง เป็นคนที่ชอบกรีดอายไลเนอร์มากก!! วันไหนถ้าไม่กรีดคือแบบคนจะทักเลยว่า ป่วยเหรอ ไม่สบายรึเปล่า?? (เปล่าจ้า ฉันแค่ไม่ได้แต่งตาา 555)

สิ่งที่ได้ลองนี้เป็นอายไลเนอร์จากทาง BSC เป็นรุ่น Lock it Fit Perfect Sharp Eyeliner ซึ่งเขาเคลมมาว่า ด้วยนวัตกรรมพอลิเมอร์ใหม่ ช่วยให้อายไลเนอร์สูตรกันน้ำนี้ ติดทนนานยิ่งขึ้น กันน้ำ กันเหงื่อ และที่สำคัญ กันความมันรอบดวงตา บอกลาปัญหาหมีแพนด้าใต้ตาด้วย!

ซึ่งขอบอกก่อนเลยว่า ... เราเคยมีประสบการณ์ฝังใจกับอายไลเนอร์ของ BSC รุ่นอื่นมาก่อนแล้ว คือมันไม่โอเคอย่างมาก Y_Y อาจจะด้วยความที่ผลิตนานแล้ว เขียนแบบไม่ออกสีเลย หมึกไม่ทนทาน และก็เลอะง่ายมาก เลยค่อนข้างฝังใจที่จะลองใช้ยี่ห้อนี้อีกครั้ง .. แต่พอได้กลับมาลองรุ่นนี้คือต้องเปลี่ยนใจทันที ไปดูกันค่ะว่าเหตุอะไรที่ทำให้เปลี่ยนใจ

ก่อนอื่นพูดถึงตัวผลิตภัณฑ์
• มาในรูปแบบแท่งปากกาหัวพู่กัน ปลายพู่กันเรียวเล็ก ขนาด 0.15 มล. เป็นแบบหัวแหลม ซึ่งหลังๆ เราชอบใช้อายไลเนอร์แบบนี้อยู่แล้วเพราะมันเขียนง่ายมาก สะดวกด้วย
มาในปริมาณ 0.5 มล. ก็ใช้ได้นานอยู่ ตามมาตรฐานทั่วไป :3

• ตัวแท่งสกรีนชื่อรุ่นชัดเจน สวยงาม ดูเท่ ออกวัยรุ่นดี

เนื้อผลิตภัณฑ์
• ลองเทสต์เขียนบนผิว ให้สีน้ำหมึกสีดำชัดเจนดี สามารถลากเส้นได้ต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน
ถามว่าเนื้อเป็นแบบหมึกฟิล์มมากไหม มันก็ไม่ได้เงาแบบหมึกฟิล์มมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบเนื้อแมตต์เช่นกัน พอแห้งเซ็ตตัวแล้วก็ไม่เงา หรือ ไม่ด้าน แต่อย่างใด

สามารถเขียนได้ทั้งเส้นหนา เส้นบาง ควบคุมทิศทาง เส้น ตามน้ำหนักมือเราได้ตามใจชอบเลย ♥

ความรู้สึกหลังจากได้ทดลองใช้
อย่างที่บอกคือ เคยมีปสก.ฝังใจไม่ดีกับยี่ห้อนี้มาก่อน แต่พอได้ลองใช้จริง ๆ จัง ๆ .. ต้องเปลี่ยนใจ และ ปรบมือให้มาก ๆ เลย....เพราะมันเป็นอายไลเนอร์ที่เขียนง่ายจริงๆ! แถมสีดำชัดเจนสนิท เคยลองมาหลายยี่ห้อแล้วที่บอกว่า เส้นดำคมชัด พอเขียนจริงคือดำไม่สนิท เลยแอบเฟลไปเยอะ แต่ตัวนี้ ดำสนิทจริง กรีดเส้นเฉี่ยว เส้นบาง เส้นหนา ได้หมด ตวัดหางลายกนกยังได้ ถ้าอยากทำ 55555 มันสวยจริง ๆ แก!!!

แล้วคือช่วงนี้กรีดไปทำงานทุกวัน ปกติก็เป็นคนหนังตามันระดับนึง ทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น เส้นแทบไม่หลุด ไม่หายเลย อาจจะมีเป็นแบบผงเล็ก ๆ บ้าง เวลาเผลอขยี้ตา แต่โดยรวมคือติดหนังตาเช้ายันเย็นจริงๆ เหงื่อออกมาแค่ไหน ก็ไม่เลอะแพนด้าใต้ตา ประทับใจมาก!

ความกันน้ำ ลองเทสต์โดยเปิดน้ำจากก๊อกสาดตรง ๆ แล้วซับด้วยทิชชู่อีกที ก็ไม่มีการหลุดติดทิชชู่ออกมาเลย ที่สวอชไว้บนแขนจนแห้งแล้ว ลองเอานิ้วถูแบบขยี้ สีก็ไม่หลุดติดนิ้วออกมาด้วย ถือว่าความทนทานนี่ให้คะแนนเลยแหละ

อีกอย่างคือ ไม่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ด้วย จึงไม่ระคายเคืองตาเวลาใช้งานค่ะ ^^

สรุปโดยรวมคือ เป็นอายไลเนอร์ที่ประทับใจมากอีกตัว แถมราคาก็ค่อนข้างดีด้วย ปกติ 290 แต่ราคาพิเศษตอนนี้เพียง 149 บาทเท่านั้น ... ขอแนะนำเลยสำหรับใครที่มองหาอายไลเนอร์ราคาสบายกระเป๋า และคุณภาพโอเค ผายมือที่ BSC Lock It Fit เลยค่า ♥

วันนี้จะมารีวิวดินสอเขียนคิ้วที่ถูกและดีอีกแบรนด์ที่ชอบค่ะ
BSC Lock it Fit Perfecting Brows Styler เป็นดินสอเขียนคิ้วเนื้อครีม มาพร้อมแปรงปัดจัดแต่งทรงคิ้วด้วย มาดูรายละเอียดและความดีงามน้องกันค่ะ

♥ สีที่ได้รับ
เป็นสีน้ำตาลเข้ม Dark Brown ค่ะ (ปกติจะมีสองสี)
แพ็กเกจมาในกล่องพลาสติกใส เห็นตัวแท่งดินสอชัดเจน ตัวแท่งสีน้ำตาลล้วน สกรีนตัวหนังสือสีขาว อ่านง่าย มีสองด้าน คือด้านดินสอเขียน และด้านแปรง
ในส่วนด้านดินสอ เป็นแบบหัวหมุนค่ะ หมุนออกมาจะเป็นดินสอหัวแบน ซึ่งสำหรับเราชอบแบบนี้นะ รู้สึกเขียนง่ายดี เพราะปกติเราจะเจอแบบหัวตัดซะส่วนใหญ่
อีกด้านหนึ่งเป็นแปรงจัดแต่งทรงคิ้ว แปรงเป็นทรงพุ่มมน อัดขนแปรงมาแน่นอยู่ ตัวขนแปรงไม่แข็งค่ะ นุ่มอยู่ ใช้เบลนด์สีได้ ไล้ดั้งได้ด้วย

♥ เนื้อสัมผัสดินสอ
ตัวดินสอรุ่นนี้เป็นเนื้อครีมค่ะ ทดลองเกลี่ยลงบนผิวคือ เกลี่ยได้ค่อนข้างง่ายเลย สีที่ออกมาก็คือเป็นสีน้ำตาลชัดอยู่ พอลองใช้แปรงอีกด้านเบลนด์สีดู ก็เบลนด์ได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบ

ตัวดินสอนี้มีส่วนผสมที่น่าสนใจอยู่หลายตัวเลยค่ะ ทั้งสารสกัดจากน้ำมันแมคาเดเมีย / Aloe Vera / น้ำมันมะพร้าว รวมถึงน้ำมันดอกทานตะวัน ที่ช่วยบำรุงให้ขนคิ้วมีสุขภาพดี และนุ่มชุ่มชื่น

♥ ทดสอบประสิทธิภาพกันน้ำ
หลังจากลองเปิดน้ำใส่ตรง ๆ ไปเลย ไม่อยากจะบอกว่า มันกันน้ำได้จริงๆ!! คือสีไม่หลุดลอกเลยแม้แต่น้อย เอาทิชชู่ซับให้แห้ง ก็พบว่าสียังคงติดอยู่บนผิวอย่างดี ไม่มีหลุดติดทิชชู่ออกมาแม้แต่น้อย ข้อนี้ผ่านฉลุยค่ะ ในเรื่องกันน้ำ

♥ ความรู้สึกหลังการใช้ผลิตภัณฑ์
พอมาลองบนใบหน้าจริง ด้วยตัวเนื้อดินสอที่เป็นเนื้อครีม มีความนุ่มลื่น มันจึงเขียนง่ายมาก สามารถวาดทรงคิ้วได้ตามใจต้องการ และเมื่อใช้แปรงเกลี่ยแล้ว ก็เบลนด์สีให้เท่ากันได้สม่ำเสมอ
เขียนออกมา ได้สีน้ำตาลเข้มออกไปทางดำ แต่ก็เข้ากับสีผมโทนน้ำตาลอยู่นะ ทำให้ใบหน้าคมชัดมากขึ้น

ทดสอบการกันเหงื่อคือผ่านเช่นกัน แต่งหน้าผ่านไป 10 ชม. สีคือยังคงทนอยู่บนคิ้ว เริดจริงอะไรจริงค่ะ!

ถือเป็นตัวเขียนคิ้วที่ถูกและดีอีกตัวมาก ๆ แต่งหน้าลุคไหนก็เอาอยู่ แนะนำเลยค่ะ ราคาก็ดีงามด้วย ♥

เป็นรองพื้นลูกรักขึ้นหิ้งอีกหนึ่งตัว
มีโอกาสได้ทดลองใช้ สีที่ใช้เป็น 2W1.5 CM Natural Suede กับ 2W0 Warm Vanilla

ตัว Natural Suede จะออกโทนเหลืองมากกว่า
Warm Vanilla จะดูขาวกว่า

เนื้อสัมผัสค่อนข้างดี ไม่เหลวไม่ข้นเกินไป แต่ต้องรีบเกลี่ย เพราะค่อนข้างแห้งไว
ปกปิดได้ดี พวกรอยสิว รอยดำถ้าไม่เยอะมาก นี่ปิดหมด เนียนกริ๊บมาก
สามารถบิวด์เพิ่มได้ถ้าต้องการปกปิดมากขึ้น

โดยรวมพอลงเมคอัพครบ ให้ผิวที่ค่อนข้างดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ
ผ่านไปหลายชั่วโมง ก็แอบมีเป็นคราบบ้าง ตรงช่วงหน้าผาก ซอกจมูก
แต่ไม่ดรอป ไม่ทำให้หน้าโทรมค่ะ เป็นรองพื้นคุณภาพงานผิวอีกตัวที่อยากแนะนำเลย
แถมโทนสีเข้ากับผิวคนไทยด้วย มีเฉดให้เลือกเยอะ ดีมากเลยค่ะ

ตัวนี้ต้องเขย่าก่อนใช้ เป็นตัวเช็ดทำความสะอาดที่อ่อนโยนดีค่ะ
เช็ดเกลี้ยงเกลา หมดจดมากๆ
ราคาสูงแต่ใช้ได้นานอยู่ค่ะ

มาส์กอาหารผิว ใช้เป็น Sleeping Mask ข้ามคืนได้เลย
ตื่นมาล้างหน้าออก หน้านุ่มขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้าได้ดีมากค่ะ
ราคาสูงอยู่ แต่หลอดนึงใช้ได้นานมาก

เป็นครีมนวดหน้าที่ได้ซื้อมาลองใช้ตอนไปเรียนนวด
กลิ่นหอมผ่อนคลายดีมาก เนื้อครีมนุ่ม ไม่อุดตันผิว
นวดแล้วให้ผิวผ่อนคลายดีมากค่ะ บำรุงผิวหน้าไปด้วย

เป็นซับมันที่โอเคมากอีกยี่ห้อเลยค่ะ
ไม่มีวางขายทั่วไป ต้องเป็นสมาชิกและซื้อผ่านช็อปแอมเวย์
ตัวนี้ช่วงมีโปรจะคุ้มค่าอยู่

ซับมันได้ดี แผ่นเดียวก็ได้ทั้งหน้าอยู่ เก็บความมันเกลี้ยงค่ะ

กลิ่นแบบทาตอนกลางคืนมีหลอนนิดๆ 55
เป็นสีผึ้งที่เนื้อหนึบ กลิ่นหอมแบบโบราณๆ หน่อย
ใช้ตอนก่อนนอน โบกหนาๆ ไปเลย ตอนเช้าเช็ดออกคือปากนุ่มขึ้นเลยค่ะ
ราคาถูก ของถูกและดียังมีอยู่ค่ะ ไอเทมในตำนานจริงๆ

ตัวนี้ต้องมาอวยหน่อย เป็นเจลล้างหน้าสำหรับคนผิวมัน ผิวผสม
เนื้อเจลหอมสดชื่นมากก กลิ่นแบบแตงกวาๆ หน่อย

เนื้อเจลนุ่ม ผสมน้ำแล้วให้ฟองดีค่ะ ล้างหน้าแล้วรู้สึกสดชื่นดีค่ะ
ไม่ทำให้ผิวแห้ง ใช้ล้างหน้าช่วงเช้ารู้สึกเฟรชดีเลย แนะนำเลยค่า

ได้ทดลองใช้ขวดเล็กค่ะ กลิ่นแบบสดชื่นหน่อย คล้าย ๆ แตงกวา
เช็ดสะอาดดีค่ะ รู้สึกเบาหน้าเลย เหมาะกับคนหน้ามันเป็นสิว
แต่อย่าให้เข้าตานะ มีแสบตาอยู่ค่ะ

เป็น CC ครีมที่ลองซื้อมาใช้เพราะเห็นว่าแปลกใหม่ และเป็นแบรนด์เวชสำอางด้วย
เสียดายเค้าทำออกมาแค่สีเดียว เนื้อครีมจะออกสีส้มๆ หน่อย บางเบาค่ะ
ต้องรีบเกลี่ย เพราะค่อนข้างแห้งไวอยู่ ช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้น แต่ถ้าคนผิวเข้มมากๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ คุมมันได้ไหม ช่วงนั้นหน้ามันมากๆ ก็คุมไม่ค่อยอยู่เท่าไหร่

ได้เป็นขนาดทดลองไซส์เล็กมาค่ะ เป็นเซรั่มในตำนานของใครหลายคน
ทดลองใช้เองรู้สึกว่า ช่วยเรื่องผิวอิ่มฟูหน่อยๆ
กลิ่นอาจจะดูแปลกๆ ไปหน่อย เนื้อเซรั่มออกสีส้มเหลืองนิดๆ
ค่อนข้างซึมเข้าผิวไวอยู่ค่ะ เรื่องลดริ้วรอย ยังไม่เห็นผลมากเพราะลองแค่ขวดเล็ก

แป้งม่วงในตำนานของใครหลายคน เป็นแป้งฝุ่นที่เซ็ตผิวได้ดีเลยค่ะ
วันไหนเบื่อๆ แป้งตลับผสมรองพื้น ก็จะทาเจ้านี่แทน
คุมมันได้ดีในระดับนึง แต่ไม่ค่อยสู้เหงื่อมากเท่าไหร่ เหงื่อออกเยอะๆ แป้งก็เป็นคราบนิดหน่อย
แต่เป็นอีกไอเทมที่ควรมีเลยจริงๆ ค่ะ

รีวิวหลังการใช้ BSC Crystal Aura Sunscreen SPF50 PA+++
กันแดดตัวดังจาก BSC ความจริงเห็นเจ้าตัวนี้มานานหลายปีมากแล้วในเซเว่น แต่หลังๆ ไม่เจอแล้ว เลยสั่งมาจาก Flagship Store ใน Lazada ช่วง Flash Sale ด้วยความอยากลองล้วนๆ

กันแดดขนาด 25 กรัม มาในหลอดสีขาวฝาแดง เป็นหลอดฝาหมุน ขนาดกำลังพอมือ ปริมาณค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ แต่เทียบกับราคา ก็ถือว่าโอเค ถูกอยู่ ^^

ตัวนี้คุณสมบัติช่วยในเรื่องกันแดด ป้องกันรังสี UVA/UVB รวมถึงป้องกันมลภาวะต่าง ๆ ด้วย (Anti-Pollution) แถมช่วยให้ผิวกระจ่างใส พร้อมบำรุงผิวด้วย Vitamin C&E และ Vitamin B3 ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นจากส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate และ Ronacare Ectoin และปกป้องผิวจากมลภาวะด้วยสาร Pollustop คือจัดมาครบทั้งกันแดด กันมลภาวะ และบำรุงผิวไปในตัว

• เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์
เป็นเนื้อครีมสีขาว ไม่เหลวไม่ข้นเกินไป บีบแล้วไม่ไหลย้อย มีส่วนผสมของน้ำหอม (ใครแพ้หรือไม่ปลื้มผ่านไปได้เลย) กลิ่นหอมพอประมาณไม่ฉุนเกินไป เมื่อเกลี่ยเนื้อครีมลงบนผิวแล้ว ค่อนข้างที่จะซึมเข้าสู่ผิวได้ดีอยู่ เกลี่ยง่าย หลังเกลี่ยลงผิวจนหมดแล้ว ก็ไม่เป็นคราบตกค้างบนผิว แถมผิวยังดูชุ่มชื้นขึ้นทันทีหลังทาด้วย

• ความรู้สึกหลังการใช้
ปกติจะใช้หลังจากลงสกินแคร์เรียบร้อยแล้ว ครั้งแรกที่ลองใช้ หลังทาลงผิว รู้สึกว่ามันแอบมันอ่ะ มือคือมันมาก 555 แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะหน้านะ เนื้อครีมค่อนข้างมีน้ำหนักนิดนึงตอนทาบนหน้า ต้องทิ้งไว้สักพัก หรือเอาหน้าจ่อพัดลม คือจะหายมัน หรือถ้าขี้เกียจรอมาก วิธีของเราคือ เอาทิชชู่ซับออก ก็จะได้ผิวที่แมตต์ขึ้น

ตัวครีมหลังทาลงผิวมันจะดูหน้าเงาขึ้น ดูชุ่มชื้นขึ้นหน่อยๆ เลยบอกไม่ถูกว่าความมันที่สัมผัสได้คือความชุ่มชื้นอันนี้หรือเปล่า แต่พอหลังจากลงแป้งฝุ่นทับ ความมันที่ว่าก็ไม่มีแล้ว ค่อนข้างสบายผิวมากขึ้น ทาตอนแรกอาจจะดูเหมือนเหนอะๆ มันๆ ใช้ไปเรื่อยๆ ก็เริ่มชินกับผิวมากขึ้นค่ะ

ใช้ต่อเนื่องมา 1 สัปดาห์ ไม่มีปัญหากับผิวเลย ไม่อุดตัน ตกร่องผิว หรือทิ้งคราบไว้เลย เหมือนช่วยให้ผิวสว่างขึ้นนิดหน่อยหลังทา หน้าไม่หมองคล้ำ ไม่แสบร้อนเวลาออกไปเจอแดด ผ่านไปหลายชั่วโมง หน้ามีความวาวขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำให้หน้ามันเยิ้มแต่อย่างใด ไม่รบกวนเมคอัพด้วย สำหรับผิวผสมแบบเรา ค่อนข้างโอเคและพอใจในผลลัพธ์ตรงนี้มาก ๆ ค่ะ :)

• สรุป •
เป็นอีกหนึ่งตัวที่ให้ผลดีในการกันแดด หน้าไม่หมองคล้ำลงหลังใช้ สามารถสู้แดดได้จริง ไม่แสบผิว ไม่ระคายเคือง ราคากำลังดี ถ้ามีโปรโมชั่น ก็แนะนำให้ตุนเลยค่ะ คุ้มค่าอยู่ทีเดียวเลย

เจลอาบน้ำเดอลีฟพอมิกราเนท ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุดจากทาง De Leaf
ตัวนี้เป็นเจลอาบน้ำเซรั่มเข้มข้น 2-in-1 ได้ทั้งอาบทั้งบำรุงในขั้นตอนเดียว

สารสกัดที่ใส่มาทั้งตัวทับทิม ชาเขียวออร์แกนิก ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ให้ผิวเปล่งปลั่ง สุขภาพดี

น้ำแร่ธรรมชาติที่ช่วยคืนความสดชื่น ความชุ่มชื้นให้ผิว

ตัวนี้กลิ่นหอมแบบสดชื่น ออกเปรี้ยวๆ คล้ายส้ม มะนาวเลยค่ะ

เนื้อเจลใส ให้ฟองดี ใช้คู่กับพวกใยขัดตัวนี่จะให้ฟองมากขึ้น อาบเพลินมาก
ชอบใช้อาบน้ำช่วงเช้า เพราะว่าเรียกความกระปรี้กระเปร่าให้ผิวดีมากเลย ทำให้อยากตื่นนอน 55

แพ็กเกจมาแบบขวดปั๊ม สีแดงใส สีโดดเด่นมาก น่าใช้สุดๆ

ใช้ต่อเนื่องจะรู้สึกว่าผิวดูชุ่มชื่นขึ้น เปล่งปลั่ง และกระชับขึ้น แถมเรียบเนียนขึ้นด้วย
เป็นเจลอาบน้ำอีกตัวนึงที่ควรมีติดบ้านไว้เลย ราคาก็ไม่แพง แถมปริมาณเยอะ Must have เลยค้าบ!

มาบอกต่อความดีงามของครีมอาบน้ำเซรั่มเข้มข้นตัวใหม่จาก De Leaf Thanaka ค่ะ

ตัวนี้เป็นเซรั่มอาบน้ำ 2-in-1 คือได้ทั้งอาบทั้งพอกในขั้นตอนเดียว

มาในขนาด 450 ml. แบบหัวปั๊มขวดพลาสติก
แถมส่วนผสมที่ใส่มาในครีมอาบน้ำก็จัดเต็มมาก ทั้งสารสกัดทานาคาเข้มข้น วิตามินบี 3 ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

รวมถึงน้ำผึ้งมานูก้าออร์แกนิก ที่ให้ความชุ่มชื่น ให้ผิวสวย เรียบเนียน
และน้ำแร่ธรรมชาติ คืนความสดชื่นให้ผิว

สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือ กลิ่นค่ะ เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบอโรมาผ่อนคลาย
ชอบใช้อาบเวลาก่อนนอน จะได้รู้สึกสบาย ผ่อนคลายกลิ่นหอมยามนอนหลับด้วย

ตัวครีมเป็นเนื้อสีขาวมุกเลื่อม ๆ ค่อนข้างเหลวนิดนึง
เวลาผสมน้ำให้ฟองนุ่มเนียนละเอียด ถ้าใช้คู่กับพวกใยขัดตัวจะยิ่งให้ฟองดีมากเลย

ล้างออกง่าย มีกลิ่นหอมติดผิวหลังจากอาบน้ำ
ที่สำคัญ ใช้ต่อเนื่องช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียนขึ้นด้วยค่ะ

สารภาพจากใจเลยว่า หลงรักตัวนี้มาก ทำให้อยากอาบน้ำบ่อย ๆ ขึ้นเลยค่า
แนะนำว่าควรมีติดบ้านเลยยยยยย

อยากแนะนำกันแดดลูกรักอีกตัวที่ได้ทดลองมาสักพักแล้ว
อันนี้ได้จากกิจกรรมของทาง Cosmenet ขอบคุณมากนะค้าาา

หลังจากที่ได้อ่านบทความเรื่องคุณสมบัติของกันแดดตัวนี้แล้วเลยทำให้เกิดความอยากลองมากๆ
และสุดท้ายก็ได้มาทดลอง อิอิ

Nivea Sun Triple Protect รุ่น Anti Wrinkle สูตรนี้ตัวหลอดโดดเด่นมาด้วยสีทองแบบเมทัลลิคนิดๆ รุ่นนี้จะมี 3 สูตรให้เลือกตามสภาพผิว แต่เราอยากทดลองสูตรนี้เลยเลือกมา เพราะว่าเข้าวัยเลข 3 แล้ว คุณริ้วรอยเค้าก็เริ่มมาเยือน

Triple Protection ในที่นี้ คือ ช่วยปกป้องผิวหน้าของเราจากแสง UVA / UVB และมลภาวะต่างๆ ในอากาศ และที่สำคัญรุ่นนี้ช่วยปกป้องผิวจากแสง Blue Light ได้ด้วย ล้ำหน้าไปอีก! เสริมประสิทธิภาพกันแดดด้วย SPF50+ PA+++ ถือว่าเป็นค่ากันแดดที่สูงมาก และดีสำหรับผิวหน้า

จุดเด่นของตัวนี้คือ เค้ามีส่วนผสมของ European Algae หรือ สาหร่ายจากทะเลน้ำลึก ที่เป็นส่วนผสมชูโรง ช่วยในการปกป้องคอลลาเจนในผิวให้ไม่เสื่อมสภาพ จากการโดนแดดทำร้าย รวมถึงเคลมด้วยว่า ช่วยลดเลือนริ้วรอยแม้บริเวณรอบดวงตา

เนื้อผลิตภัณฑ์ เป็นกันแดดเนื้อเซรั่ม บางเบามาก ๆ เกลี่ยลงบนผิวแล้ว ซึมเข้าสู่ผิวไวมาก ไม่ทิ้งคราบขาว หรือความเหนียวเหนอะหนะไว้เลย ใช้บริเวณรอบดวงตาก็ไม่มีอากาสแสบร้อน หรือระคายเคืองแต่อย่างใดค่ะ อ่อนโยนในระดับนึงเลยแหละ

กลิ่น มีน้ำหอมนะคะ และก็มีกลิ่นออกสาหร่ายนิดๆ แต่ไม่เหม็น หอมๆ ดี ชอบ

หลังจากการใช้ต่อเนื่อง ชอบมาก ๆ เลย จนต้องส่งน้องขึ้นหิ้งกันแดดลูกรักไปอีกตัว ด้วยความเนื้อบางเบา กันแดดได้ดีจริง และไม่ระคายเคืองผิว ไม่ทำให้ผิวอักเสบ หรือเกิดอาการแพ้
ไม่ทำให้หน้าไหม้ หรือหมองลง สามารถปกป้องผิวจากแดดได้ดีตามคำเคลม อ่อ ทาแล้วรู้สึกผิวชุ่มชื้นดีด้วย หน้าไม่มันเพิ่ม

เรื่องลดเลือนริ้วรอย เราไม่ค่อยเห็นผลมากเท่าไหร่ อาจจะหวังผลกับแค่กันแดดอย่างเดียวไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการทากันแดดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไม่เกิดริ้วรอยนะ ทาไว้ดีกว่าจ้า

แนะนำเลยค่ะตัวนี้ ราคาปกติประมาณ 389 บาท หลอดนึงก็น่าจะใช้ได้นานอยู่ 1-2 เดือน คุ้มค่ามากๆ จ้า

มาแชร์ความรู้สึกหลังจากได้ทดลองใช้ Feather Nature Clean & Care Shampoo สูตร Nourish-Deo ค่าา ขอบคุณทีมงานมาก ๆ นะคะที่ให้เป็นหนึ่งในผู้ทดลองครั้งนี้

ต้องบอกก่อนเลยว่า ทางเราเป็นแฟนของแชมพูแฟซ่ามานานมาก ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ แล้ว เปลี่ยนแพ็คเกจเอย สูตรใหม่เอย ทางเรานั้นสายลองมาเยอะมากกับแบรนด์นี้

ความดีงามของรุ่นนี้คือ เค้าปรับสูตรใหม่ และมีการนำเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่นมาเสริมประสิทธิภาพในแชมพูขวดนี้ ที่ช่วยดูแลทั้งเส้นผม และหนังศรีษะ และคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ใช้แล้วโคนไม่มัน ปลายไม่แห้ง แม้ไม่สระทุกวัน!! ซึ่งเป็นอะไรที่ตอบโจทย์กับสภาพอากาศในประเทศไทยมากกกก!!!! เลยอยากพิสูจน์ในจุดนี้ไปด้วยเลย

แชมพูที่ได้มาในขนาด 340 ml. ขวดพลาสติกใหญ่ เป็นฝาฟล็อบเปิด-ปิดง่าย ตัวขวดรุ่นนี้ Nourish-Deo เป็นสีชมพู มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ พร้อมสารแอนตี้แบคทีเรีย ที่จะช่วยลดความมัน อาการคันหนังศรีษะ และ Silky Serum ที่ช่วยให้ผมเรานุ่มสลวย จัดทรงง่ายยิ่งขึ้น

เนื้อผลิตภัณฑ์ ค่อนข้างเหลว สีขาวขุ่น ตอนเทออกมาจะได้กลิ่นหอมของผลิตภัณฑ์ด้วย กลิ่นหอมสบาย สดชื่น ทำให้เราเพลิดเพลินกับการสระผมยิ่งขึ้น ^^

สภาพผม-หนังศรีษะของเรา ปกติเป็นคนผมมันง่าย ต้องสระผมทุกวัน และเพิ่งทำสีผมมาสักพักด้วย เลยจะมีความแห้ง ๆ บริเวณช่วงปลายหน่อย วันไหนที่สระผมอย่างเดียวและไม่ลงครีมนวด โอ้โห! ปลายผมนี่กระด้างอย่างกับอะไรดีเลย แต่ก็ไม่อยากลงครีมนวดทุกวัน เนื่องจากผมจะมันไวมาก Y_Y (ชีวิตจะยากไปไหมฉันน!!)

หลังจากได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ต้องบอกเลยว่า มันดีมากค่ะแม่!!
ประการแรก คือ มันสระสะอาดมากกก!! แล้วระหว่างสระคือ กลิ่นหอมผ่อนคลาย ดมเพลินเลย แถมพอสระไปสักพัก จะรู้สึกเย็นสบายหนังศรีษะด้วย เพราะว่ามีส่วนผสมของ Menthol ด้วยค่ะ ช่วยให้หนังศรีษะสดชื่น เบาสบาย แถมล้างออกง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะเส้นผมด้วย เคยทดลองสระเยอะสุด 3 ครั้ง ก็ไม่มีแชมพูตกค้าง หรือหนักหัวแต่อย่างใด (เริด!!)

ประการสอง คือ ผมเรานุ่มสลวยขึ้นทันทีหลังสระ แม้จะเป่าด้วยพัดลม มันก็ไม่ฟูฟ่องเป็นหัวสิงโต แถมจัดทรงได้ง่ายด้วย ผมดูมีความเงางาม ดูไม่มัน ปลายผมก็ยังดูเงา มีน้ำหนักอีกต่างหาก ยิ่งถ้าเป่าด้วยไดร์ จะยิ่งได้ทรงที่สวยตามต้องการมากกว่านี้ ^^

ประการสาม คือ คุมมัน และคุมกลิ่นได้จริง ๆ เพราะปกติเป็นคนที่เหงื่อออกง่ายมาก เวลาอากาศร้อนมาก ๆ เหงื่อจะผุดบนหนังศรีษะเยอะมากและทำให้ผมมันเร็ว แต่พอมาใช้ตัวนี้ เจอเหงื่อออก กลับไม่เหม็น แถมกลิ่นหอมของแชมพูยังติดที่ผมอยู่ แม้จะกลิ่นไม่แรงเท่าตอนสระใหม่ๆ แต่ก็ยังได้กลิ่นอ่อนๆ บนเส้นผมอยู่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ประทับใจมาก ๆ ค่ะ

เรื่องกลิ่น ตอนสระเสร็จใหม่ๆ จะได้กลิ่นหอมมาก แต่พอผมแห้งแล้ว กลิ่นก็จางลงไปเยอะมาก อยากให้เพิ่มกลิ่นให้ติดทนนานกว่านี้หน่อย จะดีมากเลย ><"

เทียบความคุ้มค่ากับปริมาณ 340 ml. กับราคา 89 บาท บอกเลยว่า...คุ้มมากจ้ะแม่!! เป็นแชมพูที่เหมาะกับหน้าร้อนมาก ๆ อยากแนะนำสุดๆ ไปเลยค่า ทางเราจะเป็นแฟนแชมพูแฟซ่าไปอีกนานแน่นอน <3

กันแดดอีกตัวที่ถูกพูดถึงมานานมากกก
วันนี้ได้มีโอกาสลอง ขอบคุณทาง Cosmenet ด้วยนะคะ

กับ La Roche-Posay Anthelios Invisible Fluid SPF 50+ PA++++
เป็นกันแดดเนื้อฟลูอิดตัวดัง ที่เหมาะสำหรับวันที่ออกแดดจัดๆ หรือกิจกรรมกลางแจ้ง
บอกเลยว่าตัวนี้เอาอยู่มาก!!

ได้ตัวทดลองมาหลอดเล็ก ขนาด 3 ml. เนื้อสัมผัสเป็นแบบเหลว เวลาจะใช้ต้องเขย่าก่อน
บีบออกมาแล้วเนื้อเหลว บางเบา เกลี่ยง่ายมากๆ พอทาลงบนผิวแล้ว แอบมีความมันอยู่นิดนึง แต่พอทิ้งไว้สักพักให้เซ็ตตัวก็เริ่มดีขึ้น ซึมเข้าสู่ผิวไวอยู่ ไม่ค่อยเหนียวเหนอะหนะ

หลังจากทดลองใช้มาสักระยะ รู้สึกว่าเป็นกันแดดที่อ่อนโยนกับผิว และสามารถกันแดดได้ดี
ไม่ทำให้หน้าหมอง หรือไหม้ เวลาออกไปข้างนอก
ถามว่ากันน้ำกันเหงื่อไหม ก็ค่อนข้างกันในระดับนึงเลยค่ะ อาจจะมีเป็นคราบเล็กน้อย ถ้าเหงื่อออกจัด ๆ แบบเรา ไม่อุดตันผิวด้วยค่ะ

กันแดดตัวนี้ไม่มีน้ำหอม แต่ก็มีกลิ่นของผลิตภัณฑ์อยู่แบบกันแดด อันนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับเราเลย

เป็นกันแดดที่ควรมีติดบ้านไว้เลย มีประสิทธิภาพสุดๆ ในการกันแดดทั้ง UVA และ UVB รับรองว่าหน้าไม่หมองแน่นอน โดยรวมคือชอบมาก สาวผิวแพ้ง่ายต้องไม่พลาดตัวนี้เลย เพราะอ่อนโยนกับผิวมาก ๆ ค่า