Profile

ไปจ้าาา วันนี้เราจะมา รีวิว เมลาโน่ ซีซี ไบร์ทเทนนิ่ง เจล ตัวนี้เพิ่งออกมาสด ๆ ร้อน ๆ พูดถึงก่อนหน้านี้เราเคยใช้เอสเซ้นส์ที่เป็นหลอดสีเงิน อันนั้นเนื้อจะออกมัน ๆ หน่อย ต้องรอซึมเข้าผิว แต่ตัวนี้ Melano CC Brightening Gel คือ ซึมไวมากมาย แค่เปิดกระปุกมากลิ่นส้มผสมเลมอน วิตซี กระแทกตมูกเต็ม ๆ เลยจ้าาาา ยิ่งเกลี่ยก็คือกลิ่นยิ่งหอม ชอบมาก เนื้อจะเป็นเจล ใช้แล้วรู้สึกสบายไม่หนักผิว เย็น ๆ ผ่อนคลาย ทาก่อนนอนคือหลับสบาย ทาตอนเช้าคือหน้าไม่เหนอะ ปลื้มมากกกกก 

    ผลลัพธ์หลังทา ผิวนุ่มชุ่มชื้น คือเราผิวค่อนข้างแห้ง ก่อนใช้ก็คิดว่าอาจจะไม่เหมาะกับตัวนี้ แต่พอใช้แล้วผิดคาดค่ะ คือเราใช้ได้ และค่อนข้างชอบเลยล่ะ กระปุกคือใหญ่ เหมาะสมราคาค่ะ อยากให้ลองกัน

ชอบเนื้อกันแดดมากเลยค่ะ เนื้อบางเบา เกลี่ยได้ง่าย ซึมซาบได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่ฉุน ที่สำคัญที่ชอบที่สุด ตามแบรนด์เคลมคือ เรื่อง Refresh Bright ช่วยรีเฟรชผิวเราให้เย็นสดชื่น ทาตอนออกแดดร้อน ๆ ฟินมาก เหมือนช่วยคลายร้อนไปได้ในตัวด้วย เพราะนี้เป็นกันแดดเย็นค่ะ แต่ไมไ่ด้เย็นแบบซู่ซ่า หรือเย็นแสบผิวนะคะ อารมรณ์คือเย็นกำลังพอดี เราติดเรื่องแพ็คเกจค่ะ อยากให้มีเล็กกว่านี้ เพราะเวลาพกไปเที่ยวออกแดดหลอดมันใหญ่มาก พกลำบาก ต้องบีบแบ่งใส่ขวดเล็ก ๆ ไปแทนค่ะ เรื่องราคาเราว่าไม่แพงค่ะ คุ้มเพราะหลอดใหญ่

เป็นเนื้อเจลใส ๆ ทาแล้วเย็นสบายผิว ตัวเนื้อตอนบีบออกมาเด้งดึ๋งน่าใช้ดีค่ะ หลังจากที่ทาลงผิวแล้วซึมค่อนข้างไว แต่เราเป็นคนผิวแห้งมาก หลังใช้ยังไม่ค่อยรู้สึกชุ่มชื้นเท่าไรค่ะ เลยหักคะแนนไปนิดหนึ่ง แต่ราคาไม่แพง รับได้ค่ะ ถ้าคนไม่ได้ผิวแห้งมาก ๆ ใช้แล้วน่าจะโอเคกว่านะคะ ทาเช้า-เย็นได้ ไม่เหนียวเหนอะหนะให้รำคาญผิว ถ้าทาช่วงกลางวันเหงื่อออกก็ไม่ได้รำคาญผิวค่ะ แต่ตัวเราผิวแห้งแบบแห้งมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ก็เลยคิดว่าไม่เหมาะกับตัวเองเท่าไรค่ะ

เป็นเจลล้างหน้าที่อ่อนโยนค่ะ ไม่มีกลิ่น ไม่มีฟอง  เนื้อเจลเป็นเนื้อใสคงรูปหลังจากบีบออกจากหลอด พอโดนน้ำก็จะกลายเป็นเนื้อลื่น ตอนล้างหน้าแล้ววนเกลี่ยนวดทำความสะอาดพักนึงเนื้อเจลจะหายไปเลยค่ะ รู้สึกว่าไม่หลงเหลือเจลอยู่บนใบหน้า ซึ่งน่าจะเหมาะกับการล้างหน้าตอนเช้า คือตื่นมาแล้วใช้ ส่วนตัวคิดว่าหากใช้ตอนกลางคืนหลังจากกลับมาจากนอกบ้าน ล้างสองครั้งถึงรู้สึกว่าสะอาดค่ะ 
    เราไม่ได้ไม่ชอบนะ ด้วยคำเคลมก็รู้สึกว่าตรงกับที่แบรนด์บอกค่ะ อ่อนโยน ล้างง่าย ผิวไม่แห้ง ชุ่มชื้น ราคาไม่แพงค่ะ แต่น่าจะต้องเลือกใช้ให้ถูกช่วงเวลา และแต่ละคนด้วยค่ะ

เป็นเซรั่มที่โด่งดังมาก เพื่อนที่มีจุดด่างดำใช้กันแล้วลดลงจริงค่ะ แต่เราเป็คนไม่ค่อยมีจุดด่างดำ แต่มีรอยสิวทีเป็นจุดแดงเยอะมาก ทั้งหน้าเลยโดยเฉพาะตรงแก้มค่ะ เลยขอรีวิวในส่วนปัญหาผิวหน้าเรา เผื่อมีคนมีปัญหาแบบเดียวกันจะได้รู้ว่าควรใช้ไหม เราผิวแห้ง ผิวค่อนข้างเซนซิทีฟแพ้ง่ายด้วยค่ะ รูขุมขนค่อนข้างกว้าง (ดูจากรูปแถวกลางซ้ายมือค่ะ)

      เราทดลองใช้ 4สัปดาห์ โดยรูปด้านบนซ้าย จะถ่ายก่อนใช้แบบเซรั่มเต็มขวด ส่วนรูปกลางคือปริมาณที่ลดลงไปหลังจากใช้ 4สัปดาห์ (หมดไปกือบครึ่งขวด) เราทาทั้งหน้าเพราะมีรอยแดงทั้งหน้าค่ะ

       เนื้อเซรั่ม ไม่มีกลิ่นฉุน ไม่มีความเหนียวเหนอะหนะ เนื้อดีไม่ทำให้หน้ามัน มีความเข้มข้นมาก หลังจากทาแล้วให้ความชุ่มชื้นกลาง ๆ (ควรใช้ครีมมอยส์เจอร์ร่วมด้วย)

        Week แรกอาจยังไม่เห็นความต่างมากค่พ พอขึ้นวีคที่2จะรูขุมขนกนะชับขึ้น รูขุมขนเล็กลง ค่อนข้างอะเมซิ่งเลยค่ะ พอขึ้น week2 ริ้วรอยจางลงไป รูขุมขดหายไปให้อึ้งอีกแล้ว week3 หน้าใสขึ้น รอยแดงจางขึ้นเยอะ รู้สึกถึงความขาวกระจ่างใสได้ค่ะ

        หลังใช้งาน (werkที่4) รูขุมขนที่เคยกว้างขึ้นก็หายไป ใบหน้าสว่างสดใส รอยลดลงเยอะมาก ๆ ค่ะ ผิวหน้าไม่แผ้งนะคะ

         ส่วนเรื่องราคา เราว่าคุ้มค่ะ หากต้องการตัวช่วยลดรอยดำ รอยแดง ตัวนี้เอาอยู่ค่ะ

เคยใช้ครีมอาบน้ำแพรอทก่อนหน้านี้กลิ่นดอกไม้ค่ะ แต่ตัวนี้เราชอบกลิ่นหอมส้มแบบสดชื่นเหมาะกับหน้าร้อนเลย ชอบกลิ่นใหม่อันนี้มากกว่า

     ส่วนเรื่องเนื้อครีมเหมือนเดิมเลยค่ะ ข้น ๆ แต่พอโดนน้ำแล้วกลายเป้นฟองบางเบานุ่ม ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและไม่ระคายเคืองผิว อ่อนโยนกับผิวไม่แพ 

    ความชุ่มชื้นก็กลาง ๆ นะคะ เพราะเราเป็นคนผิวแห้งด้วยอาบน้ำแล้วต้องทาครีมต่ออยู่ดีค่ะ ที่ชอบที่สุดก็เรื่องกลิ่นกับฟองนุ่มค่ะ

เป็นเซรั่มใต้วงแขนที่เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ไม่เหนียว ไม่เป้นคราบ ตอนบีบออกต้องระวังเพราะถ้าบีบแรงเนื้อจะออกมาเยอะเกิน เพราะตัวเนื้อเข้มข้นมากทาแค่นิดเดียวก็ได้ทั้งวงแขนแล้วค่ะ

   กลิ่นหอมแต่แอบแรงไปหน่อยจนฉุน แต่ระหว่างวันพอผสมกับเหงื่อแล้วไม่เหม็นเขียว กลิ่นยังหอมอ่อน ๆ อยู่ หลอดนึงใช้ได้นานอยู่นะคะเพราะเราบีบต่อครั้งออกมาแค่นิดเดียวน้อยจริง ๆ 

ส่วนตัวแพ็คเกจใช้งานง่าย พกพาง่าย ราคาไม่แพงค่ะ

    เนื้อโลชั่นเข้มข้นดีมากค่ะ ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีสุด ๆ เลย เราชอบมาก พอดีผิวช่วงหัวเข่าที่เราถ่ายรูปลงค่อนข้างแห้งเยอะสุดไรสุด เป็นลายเหมือนกิ่งไม้เลย เส้าแปป TT ตัวนี้เหมาะกับคนผิวแห้งมาก ๆ ค่ะ
   
     เราเคยใช้ตัวสีเขียวนะคะ ตัวนั้นก็เข้มข้นดีเหมือนกัน แต่ตัวนี้สีน้ำเงินคือรู้สึกว่าทาก่อนนอน ตื่นมาผิวก็ยั่งชุ่มชื่นอยู่ค่ะ แต่ถ้าคนที่ผิวดีอยู่แล้วหรือมีความชุ่มชื้นมากอยู่แล้ว อาจจะไม่ชอบก็ได้ค่ะ เพราะเนื้อมันค่อนข้างหนักแต่ก็ไม่ได้เกลี่ยยากค่ะ เราเลิฟนะ

    ส่วนผสมจากน้ำมันข้าวโอ๊ตธรรมชาติ และ เชียบัตเตอร์ธรรมชาติ ส่วนผสมจากธรรมชาติที่เรารู้สึกว่าช่วยบำรุงผิวของคนที่ผิวแห้งมาก ๆ ได้จริง และเข้มข้นมากด้วย

    เรื่องกลิ่นเราไม่เคยเป็นกังวลกับ Aveeno เลยค่ะ เพราะแทยจะไม่มีกลิ่นฉุน ไม่มีแอลกฮอลล์ หรือน้ำหอมอยู่แล้วค่ะ เพราะงั้นคนผิวแพ้ง่าย หรือแพ้พวกแอลกอฮอล์หายห่วงได้เลย

    ส่วนที่แบรนด์เคลมแล้วเราค่อนข้างเห็นด้วย
- ลดอาการคัน จากผิวแห้งเป็นพิเศษ // อันนี้จริงค่ะ
- ให้ความชุ่มชื่นตลอด24 ชั่วโมง // อันนี้จริงค่ะ
- ปราศจากน้ำหอม// อันนี้จริงค่ะ
- อ่อนโยนสำหรับผิวบอบบางอีกด้วย // อันนี้จริงค่ะ



    

เนื้อเจลค่อนข้างเบา ซึมเข้าผิวเร็ว เกลี่ยง่าย แต่ด้วยความที่เนื้อครีมเบาเลยอาจไม่เหมาะกับคนผิวแห้งเพราะมันซึมหายเข้าไปในผิวไว และคง     ความชุ่มชื้นได้ไม่นาน

   ถ้าคนผิวแห้งมาก ๆ แนะนำให้หาครีมทาทับอีกตัวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นค่ะ ส่วนตัวเราชอบเรื่องกลิ่นที่ไม่แรงทำให้รู้สึกเป็นมิตรกับผิว หลังใช้รู้สึกหน้าตึง ๆ ดี แต่เพิ่งใช้ไม่นานเลยยังไม่เห็นผลว่าลดริ้วรอยได้ดีไหมค่ะ

   กระปุกครีมน้ำหนักเบา ชอบแพ็คเกจดูไฮคลาส สีแดงด้านดูสวย ดูแพง 

   เราชอบเรื่องส่วนผสมนะคะ มีพวกทับทิม เมล็ดองุ่น เมล็ดข้าวโอ๊ต รู้สึกไม่มีสารเคมี ทำให้ผิวปลอดภัยดีด้วย ลองนวดแบบที่แบรนด์แนะนำ หน้าก็ตึงดีค่ะ

    หน้าเรามีจุดด่างดำไม่ได้เยอะมาก แต่รูขุมขนกว้าง และ ผิวหน้าไม่กระจ่างใสค่ะ ส่วนปัญหาอื่นก็คือรอยแดงจากสิวค่ะ เราถ่ายรูปรีวิวออกเป็น 3 ส่วน คือ ก่อนใช้, ระหว่างใช้ 7วัน, ระหว่างใช้ 14 วัน

- ก่อนใช้คือปัญหาที่เราเกริ่นไว้ด้านบนทั้งหมดเลยค่ะ 
- ช่วงใช้ 7 วัน รูขุมขนเริ่มกระชับ ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น กระจ่างใสขึ้น ความหมองคล้ำลดลงค่ะ 
- ช่วงใช้ 14 วัน สำหรับเราผลที่เห็นชัดได้มากที่สุดจะเป็นเรื่อง รูขุมขนกระชับแบบเห็นได้เลยค่ะ ผิวหน้าเรียบเนียน และ กระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม

   เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่หนักหน้า ค่อนข้างบางเขา ซึมง่าย แนะนำให้ใช้คู่กับครีมตัวอื่นนะคะสำหรับคนหน้าแห้ง เพราะเราทดลองใช้ตัวเดียวระยะหนึ่งผิวหน้าไม่ค่อยชุ่มชื้นค่ะ ต้องหาครีมเข้มข้นหนักหน่อยมาช่วยเสริม

    หลอดนี้ดูเหมือนจะเล็กแต่ใช้ได้เกิน 14 วันค่ะ เราบีบใช้ครั้งละ 4ปั๊ม ทาเช้า-เย็น ตอนนี้ใช้ได้เกือบ 20วันแล้วยังไม่หมดนะคะ 
    

เนื้อแป้งเกลี่ยง่ายดีค่ะ ปกปิดริ้วรอยได้ในระดับหนึ่ง ไม่ได้ทำให้หน้าดูหน้าวอกแบบหลอกตา ใช้งานได้ง่ายเพราะตบแป้งซ้ำตรงรอยแดง รอยสิว แล้วหน้ายังคงดูธรรมชาติอยู่ หลังจากทาแล้วหน้าเนียนขึ้น แต่เราเลือกสีผิดไปหนึ่งเบอร์ หน้าเลยดูดรอปไปหน่อย อยากแนะนำเวลาเลือกสีให้เลือกดี ๆ นะคะ เลือกให้ตรงกับสีผิวเราได้เลยค่ะเพราะสีไม่ดรอปแต่ระหว่างวันต้องเติมแป้งเพราะมีหลุดค่ะ

อัพเดท 21 ก.พ 62 ค่ะ
ถ้าออกไปข้างนอกนาน เจอแดดแรง เหงื่อซึม แป้งมีหลุดนะคะ เติมบ่อยอยู่ นิ่งถ้าเที่ยวต่างจังหวัดอยู่กลางแจ้งทั้งวัน ต้องซับหน้าและเติมแป้งด้วยค่ะ

เนื้อกันแดดเกลี่ยให้เข้าผิวได้ไม่ยาก เพราะเคยใช้ของบางแบรนด์จะหนืดจนต้องทั้งเกลี่ยทั้งถูแถมต้องตบด้วยค่ะ แต่ตัวนี้เกลี่ยได้แบบลื่นปรื้ด หลังจากซึมเข้าผิวไปแล้วช่วงแรกจะรู้สึกเหนียวผิวหน่อย พอทิ้งไว้5นาทีจนเนื้อกันแดดซึมเข้าไปหมดแล้วก็จะไม่รู้สึกเหนอะแล้วค่ะ สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้ว่ากันแดดได้จริงคือเนื้อหนัก ๆ ข้น ๆ นี่ล่ะค่ะ 

   เรื่องกลิ่นจะมีกลิ่นแบบครีมกันแดด ไม่ถึงกับแรงมากจนฉุนแต่ก็ได้กลิ่นค่ะ สำหรับเราไม่ได้ติดเรื่องกลิ่นเท่าไรเพราะพอผ่านไปแป๊ปนึงก็จะชินค่ะ ไม่ได้กลิ่นแล้ว

   ข้อดีของแพ็คเกจจิ้งคือ มีห้เลือกแบบซองไว้พกไปเที่ยวเบากระเป๋าได้ด้วยค่ะ ตัวหลอดแบบซองจะออกมาเยอะกว่านะคะเพราะหัวใหญ่กว่า เวลาบีบต้องเบามือนิดหนึ่ง

    ถือว่าเป็นกันแดดที่ใช้งานได้ทุกวันค่ะ ราคาก็ไม่แพง แถมมีหลายสูตรด้วย สูตรนี้ก็ทำให้ผิวแมตต์ได้จริงค่ะ สมชื่อ เพราะผิวเราไม่ได้มันวาวเหนียวเหนอะหนะหลังจากใช้ค่ะ 

เป็นโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นได้เท่ากับครีมดี ๆ เลย แถมตัวโลชั่นบางเบานุ่มมาก ตอนที่กดออกมาแล้วทาให้ซึมลงผิวเนื้อโลชั่นจะเปลี่ยนตัวเป็นเหมือนน้ำกระจายความชุ่มฉ่ำได้ทั้งหน้าเลยค่ะ ตัวนี้ยิ่งคนที่ผิวแพ้ง่ายยิ่งตอบโจทย์เลยเพราะเป็นครีมอันดับ1จากอเมริกาที่หมอผิวหนังที่นั่นเขาใช้กันด้วย เราเคยลองตัวครีมกระปุกใหญ่มาก่อนหน้านี้ เอามาทาได้ทั้งตัวรวมทั้งหน้าเลยค่ะ จริง ๆ ผลลัพธ์ระหว่างตัวโลชั่นกับครีมไม่ต่างกันเท่าไร จะต่างจากตัวนี้ตรงที่ตัวนี้เนื้อจะเหลวกว่าให้สัมผัสที่ไม่เหนอะหนะเพราะถ้าเป็นตัวครีมถ้าคนไม่ชอบเนื้อเหนอะหรือผิวมันน่าจะรำคาญค่ะ ตัวนี้หลอดเล็กพาพาสะดวกได้ด้วย

เป็นอะไรที่ไอเดียเจิดมาก การเอาครีมสองแบบมารวมกัน พวกเราไม่ต้องเลือกอะไรอีกต่อไปแล้ว ใช้แค่นี้ล่ะจบเลยจ้า เป็น Clinique MD สูตร Resculpt และ Revolumize ทั้งสองสูตรนี้เหมาะกับคนที่อายุ 30 ขึ้นไป เระาเน้นลดริ้วรอย แถมยังช่วยเรื่องผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นมากกกก เรื่องผิวกระจ่างใจ ลดความหมองคล้ำก็ช่วยได้ สูตรสีม่วงอ่อน Resculpt ทาได้ทั้งหน้าคอ ส่วนสูตรสีม่วงเข้ม Revolumize ทาเฉพาะจุดตามร่องแก้ม รอบดวงตา หรือจุดที่เป็นริ้วรอย คือหลังจากใช้แล้วผิวหน้าดีขึ้นเลยค่ะ สมกับเป็น Clinique จริง ๆ แนะนะเลยค่ะ

สูตร Revolumize เนื้อครีมเนียนมาก เนื้อฟูเข้มข้นแต่เกลี่ยง๊ายง่าย ชอบมากเลยยย เป็นคนผิวแห้งเลยค่อนข้างเทใจให้สูตรนี้ค่ะ แต่คำเคลมของแบรนด์เขาบอกให้ทาเฉพาะจุด ตอนแรกเราเอาไปทาทั้งหน้าก่อนนอน ปรากฏว่าตื่นมาหน้านุ่มฟูเด๋งดึ๋ง ถูกใจจริง ๆ ไม่แน่ใจว่าใช้ผิดหรือเปล่าแต่เราว่าก็ใช้ได้เหมือนกันล่ะ แต่ติดแค่ใช้เยอะจะเปลือง เราเลยเอาสูตรนี้มาทาเฉพาะจุดเพราะเขาเน้นลดริ้วรอย เราก็ทาทั้งใต้ตา ร่องแก้ม รู้สึกริ้วรอยตื้นลงค่ะแต่ก็ไม่ได้เห็นผลชัดเจนแบบเป๊ะ ๆ

ตัว Rescuplt คือ เนื้อครีมเข้มข้นแต่ไม่หนักหน้า ด้วยความที่เป็นเท็กซ์เจอร์แบบครีมที่ไม่เหนอะหนะ ทำให้เกลี่ยง่าย เบาสบาย รู้สึกได้เลยว่าซึมซาบเร็ว หลังใช้ผิวหน้านุ่ม รู้สึกยกกระชับได้จริง ผิวหน้าดูสว่างสดใสขึ้นด้วย จุดด่างดำก็ลดลงค่ะ คนผิวหน้าแห้งน่าจะชอบนะคะเพราะใช้แล้วน้านุ่มไปทั้งวันเลย

เป็น2in1 ที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางและล้างหน้าได้อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองไม่แสบผิว หลังล้างหน้าแล้วหน้าไม่แห้งตึง รู้สึกหน้านุ่มไม่สูญเสียความชุ่มชื้น 
เนื้อเจลไม่เหลวคือบีบออกมาจากหลอดก็เป็นแนื้อเจลแบบแข็งตัวทำให้ป้ายลงผิวหน้าแล้วไม่เยิ้ม ไม่มัน ไม่เหนอะ
 ใช้ง่ายดีค่ะ แค่นวดวนรอบผิวหน้าเมคอัพก็ค่อยๆหลุดออก ให้เรานวดไว้แป๊ปนึงแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำได้เลย ไม่ต้องใช้โฟมล้างหน้าอีกรอบค่ะ
 สิ่งที่ชอบคือ ไม่อุดตันผิว หน้าไม่แห้งตึง ขณะนวดหน้าไม่รู้สึกแสบ และล้างออกได้ไม่ยาก
     แพ็คเกจพกพาได้ง่าย ไม่เปรอะเปื้อน หลอดใหญ่คุ้มราคา

เห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้แต้มสิวเล้ยยยย สิวยุบทันตาเห็น พวกสิวที่แบบหัวแดง อักเสบพร้อมสุกแล้วก็กำลังขึ้นยุบไปเหมือนไม่เคยขึ้นเลยค่ะ  เนื้อเจลแต้มสิวเป็นแบบฟิล์มใสจึงมั่นใจได้ว่าไม่อุดตันผิว ซึมไวเข้าไปรักษาสิวได้อย่างตรงจุด พวกจุดด่างดำก็ดูไม่เข้มเหมือนเมื่อก่อน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ค่ะ ไม่แสบผิวเหมือนเจลแต้มสิวตัวอื่นที่เคยใช้  กลิ่นไม่แรง ไม่เหม็น ไม่ฉุน ค่อนข้างใช้ง่าย

เป็นเซรั่มวิตามินซีเข้มข้นมากค่ะ เนื้อเซรั่มเวลาทาแล้วต้องปาดและตบ ๆ ให้ซึมลงผิวไว ๆ เพราะเนื้อเซรั่มค่อนข้างมันนิดหนึ่งค่ะ เวลาทาตอนเช้าอาจจะต้องรอแป๊ปนึงก่อนถึงจะซึมเข้าผิวแล้วค่อยลงรองพื้น กลิ่นเซรั่มเป็นกลิ่นเปรี้ยว ๆ หอมเลม่อน ช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ระดับหนึ่งไม่ถึงกับหายขาดค่ะ ไม่ค่อยชอบแพ็คเกจหลอดเล็กไปหน่อย บีบแล้วหลอดบู้บี้ไม่สวย แต่น้ำหนักเบาพกพาสะดวก

เอสเซ้นส์เนื้อบาง หลังจากหยดลงผิวเกลี่ยแล้วไม่หนักผิว เบาสบายดี กลิ่นไม่แรงค่ะ ใช้แล้วไม่แสบหน้าเลย พอเนื้อเซรั่มซึมลงผิวแล้วรู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ว่าผิวหน้านุ่มเนียน ผิวเด้งเลยค่ะ รู้สึกผิวกระจ่างใสขึ้นมานิดหนึ่ง ใช้มาเดือนนึงแล้วริ้วรอยจางลงไปค่ะ ได้ผลดี รอยด่างดำลดลง

เนื้อน้ำตบชุ่มชื่นดี เหมาะกับเป็นเอสเซ้นส์เพระาหลังใช้แล้วผิวไม่แห้งค่ะ รู้สึกผิวยิดหยุ่นแต่ระหว่างวันผิวแอบแห้งไปหน่อยค่ะ ไม่แนะนำให้ใช้แค่น้ำตบอย่างเดียวนะคะ แนะนำให้ใช้เดย์-ไนท์ครีมด้วยค่ะ ผิวจะได้ชุ่มฉ่ำ และ ดีกว่าปกติ ส่วนเรื่องความขาวยังไม่เห็นผล เพราะเพิ่งเริ่มใช้ค่ะ

เคยใช้ครีมอาบน้ำแพรอทตัวเก่าที่ออกมาก่อนหน้านี้ค่ะ ตัวนั้นว่าหอมแล้ว ตัวนี้หอมกว่า กลิ่นหรูราโกอินเตอร์กว่ามากมาย ชอบเรื่องกลิ่นมากค่ะ เลิฟมาก อยากให้ลอง มันหอมดอกไม้แบบไม่ฉุน หอมเหมือนน้ำหอมจริง ๆ 
ส่วนเนื้อครีมอาบน้ำไม่ต่างอะไรจากตัวเดิมมาก เนื้อนุ่ม ใช้นิดเดียวแล้วโดนน้ำก็ถูฟองได้ทั้งตัวค่ะ หลังใช้ผิวนุ่ม ให้ความชุ่มชื้น รู้สึกผ่อนคลาย (น่าจะเพราะกลิ่น) สูตรที่เราใช้คือเรื่องผิวกระจ่างใส ล้างออกไม่ยากด้วยค่ะ ค่อนข้างชอบเลย อยากให้ได้ลองค่ะ

พอดีเห็นกิจกรรมบนเว็บไซต์ Cosmenet เลยแวบไปเอาขนาดทดลองที่เคาน์เตอร์แบรนด์มาค่ะ เราเอาสูตรสีม่วงมา ช่วยเรื่องต่อต้านริ้วรอย ปกติเราไม่ค่อยใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ลักษณะนี้ จะใช้เป็นครีมเนื้อข้นซะมากกว่าเพราะผิวหน้าไม่ค่อยมีความชุ่มชื้น และหน้าแห้งมากค่ะ ซึ่งหลังจากได้ลองเทสเตอร์เพียงครั้งเดียวก็รู้สึกว่าสามารถทดแทนเนื้อครีมหนัก ๆ ที่เราใช้อยู่เป็นประจำเช้า-เย็นได้ค่ะ เป็นมอยส์เจอร์ที่เนื้อดีงามสุดอะไรสุด
  ลักษณะการใช้งานก็เก๋ไก๋ เอาเนื้อเบส ที่เหมาะกับผิวเรามาผสมกับบูสเตอร์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะตัวเลย ซึ่งตรงนี้เราว่าดีมาก ๆ นะคะ ตอนนี้ได้ลองเทสเตอร์แล้วรู้สึกชอบ โดยเฉพาะเรื่องกลื่นค่ะ ไม่มีกลิ่นฉุนเลย ทำให้รู้สึกอยากไปซื้อใช้ขนาดจริงค่ะ

อายุ 30กว่าแล้วววว แถมลองใช้บีโอเรมาหลายตัว มาเจอตัวนี้บอกช่วยเรื่องผิวแก่เลยต้องลอง 555+ อันนี้ก็เป็นอีกตัวไม่ผิดหวังกับบีโอเรเรื่องของเนื้อสัมผัส จะรุ่นไหนก็ทำเนื้อได้ลื่นดี เกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะให้ผิวเลย
  เวลาออกแดดก็ไม่เป็นคราบเพราะซึมเข้าผิวไว ถ้านั่งทำงานในห้องแอร์คือผิวจะรู้สึกชุ่มชื่น แต่ถ้าออกแดดอาจเหนอะผิวหน่อย (สำหรับคนที่มีสภาพผิวดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนะคะ) คือเราเป็นคนผิวแห้งพอทาแล้วก็บอกว่าโอเค แต่ลองใ้เืพ่อนยืมใช้เพื่อนผิวดีกว่าเรา เป็นคนผิวชุ่มชื่นอยู่แล้วเพื่อนทาแล้วระหว่างวันบอกว่ามันเหนอะไปตอนเหงื่อออก แต่เราคนผิวแห้งว่าเฉย ๆ ค่ะ
    กลิ่นน้ำหอมฉุนไปหน่อย เราชอบตัวก่อนที่เคยลองมากกว่าเหมือนกลิ่นไม่แรงเท่านี้ ส่วนเรื่องแพ็คเกจจิ้ง หลอดใหญ่คุ้มราคา ใช้ได้นานดีค่ะ แพ็คเกจน้ำหนักเบาถึงขนาดใหญ่แต่ก็ไม่ลำบากที่จะพกไปเที่ยวด้วยกันค่ะ

เราลองกันแดดบีโอเรมาหลายตัวแล้ว เป็นกันแดดในใจเราและคงอีกหลายคนด้วย ตัวนี้เองเราก็เคยใช้มาก่อนค่ะเลยแวะมารีวิวซะหน่อย เห็นบิวตี้เทสเตอร์เขารีวิวกันก็อยากรีวิวบ้าง กิกิ 

กันแดดเนื้อบางมากกกกก เบาสบายผิวสุด ๆ เนื้อเหลวแบบชุ่มฉ่ำ เกลี่ยง่ายเกิ้น ซึมเข้าผิวไว สำหรับเราใช้แล้วไม่แพ้นะคะ 

ราคาถูก พกพาง่าย เราเอาไปเที่ยวด้วยประจำเลย ไม่แพง ใช้ได้นาน ใช้ทุกวันหรือพกไปเที่ยวก็ได้ค่ะ เยี่ยมมากตัวนี้ คำเดียวค่ะ ชอบ

ราคาถูกดี ล้างแล้วรู้สึกหน้าสะอาด แต่พอดี่เราเป็นผิวแห้งมาก ๆ เลยค่ะ เลยไม่เหมาะกับโฟมล้างหน้าตัวนี้เท่าไร เพราะหลังจากใช้หน้าเราค่อนข้างแห้งเลย ต้องโปะบำรุงเยอะอยู่ค่ะ

ส่วนเรื่องกลิ่นถ้าเบากว่านี้หน่อยน่าจะโอเคค่ะ สำหรับราคาและความคุ้มค่า โฟมหลอดใหญ่ได้ปริมาณเยอะอยู่นะคะ 

ฟองโฟมเนียนนุ่มดี แต่ใช้มือตีขึ้นยากค่ะ ไปซื้อตาข่ายที่มินิโซอันละ 60 บาท มาตีแป๊ปเดียวขึ้นฟูค่ะ

ด้วยความที่เป็นขนตาสั้นแถมน้อยอีกต่างหาก TT (เส้าแปป) เราเลยค่อนข้างหามาสคาร่าที่จะช่วยเพิ่มทั้งความยาวและความหนา ซึ่งอันนี้เป็นแท่งแรกที่ได้ทดลองใช้ของ Lily By Red ใช้ครั้งแรกก็ชอบเลยค่ะ ยังกับต่อขนตาเลยเพราะตั้งแต่เกิดมาเหมือนมีปมเรื่องขนตา ไปต่อมาแล้วก็หลายรอบ หลัง ๆ ขี้เกียวต่อแถมเปลืองเงินเลยหันมาใช้มาสคาร่าปัดเอา ซึ่งตัวนเพื่อนเราเป็นคนแนะนำค่ะ เราทดลองปัด1ครั้ง ขนตาพุ่งทะลุขึ้นไปเลย ยิ่งปัดข้างล่างด้วยความที่เนื้อแห้งง่ายก็เลยไม่เลอะขนตาล่างแม้ขนตาล่างเราจะน้อยและสั้น ปัดยากมากก็ตามค่่ะ 
   สำหรับเรื่องติดทนก็ยกให้สุดยอดจริง ๆ ขนตาเด้งงอนพุ่งอยู่ตัวได้ทั้งวัน เริ่ดสุด แต่หลังจากปัดแล้วเนื้อตัวนี้ตอนติดขนตามันจะแห้ง แข็งหน่อยนะคะ เราเข้าใจว่าเพราะเหตุนี้ล่ะทำให้แติดทน แต่สำหรับเราไม่ได้ติดอะไรในส่วนนี้ค่ะเพราะไม่ได้มีใครมาจับขนตา ตอนล้างออกต้องใช้คลีนซิ่งสำหรับดวงตาโดยเฉพาะ ยิ่งถ้าเป็นคลีนอายเนื้อน้ำมันยิ่งล้างออกง่ายค่ะ 
   ที่ชอบอีกเรื่องคือ สีสันของมาสคาร่ามาทีให้เลือกเยอะมาก ครั้งนี้เราใช้สี Choco Brown ค่ะ เป็นครั้งแรกที่ใช้สีน้ำตาลปัดขนตาเพราะเคยฟังจากเมคอัพอาร์ทติส เขาบอกการใช้สีน้ำตาลนอกจากจะทำให้ตาดูธรรมชาติแล้วยังทำให้ตาโตกว่าเดิมด้วยค่ะ แถมราคาไม่แพงอีกด้วย

ส่วนตัวเป็นคนผิวแพ้ง่าย สิวผด สิวอุดตันขึ้นบ่อย แถมหน้าแห้งอีกต่างหาก ตัวนี้เราใช้แล้วผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้นค่ะ ใช้แล้วไม่แพ้ สังเกตจากการที่สิวไม่เห่อ มันลดง อีกอย่างที่ค่อนข้างชอบและไว้ใจเป็นพิเศษก็เรื่องส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติทำให้เราวางใจมาก หน้าไม่มันด้วยจ้าาาา ส่วนเรื่องราคาเราซื้อขสดเล็กแต่ราคาสูงไปนิดค่ะ