Profile
Noona*
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม,ชุ่มชื้น,ซึมซาบเร็ว,อ่อนโยน,เกลี่ยได้ง่าย,เหมาะกับผิวแพ้ง่าย,ไม่เหนอะหนะ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
เราใช้เซรั่มตัวนี้ควบคู่กับเจลแต้มสิว ค้นพบว่า ค่อนข้างเวิร์ก ตัวสิวที่บวม (ในรูปซ้ายมือ) ยุบลง (แบบรูปขวา) เมื่อใช้ผ่านไปครบ 10 วัน ในส่วนของรอยดำไม่ได้ลดลงมากขนาดนั้น แต่ก็ทำได้ดีถ้าเทียบกับตัวอื่นๆ ในท้องตลาดที่เราเคยลอง อ่านรายละเอียดราคา มีให้เลือกหลายไซส์ ซึ่งมีทั้งขวดเล็กและแบบซองพกพาสะดวก หาซื้อง่าย ถ้าใครไม่เคยลองก็อยากป้ายยาแบบซองก่อน รับรองว่าติดใจแน่นอนค่า
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : คุ้มราคา,ชุ่มชื้น,ฟื้นฟูสภาพผิว,ซึมซาบเร็ว,อ่อนโยน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
เข้าเรื่องเลยดีกว่า รอบนี้ ผลิตภัณฑ์ที่เราได้รับมาก็คือ รีวิว การ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม ที่ทางแบรนด์เรียกว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด แอมพลูเข้มข้นทรงประสิทธิภาพ 3% วิตามินซี^ และไนอาซินาไมด์ ซึมลึก* ตรงเข้าจัดการปัญหาฝ้าแดด¹ จุดด่างดำ และรอยดำใต้ตาอย่างแม่นยำ เห็นผลจริงใน 6 วัน+ โอ้ว คำเคลมคือแบบน่าสนใจมาก ใต้ตาดำ เอย จุดด่างดำ เอย ปัญหาคาใจเรามานานแล้ววว มาจัดการที!
พอได้รับ การ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม มา บอกตรงๆ แอบตื่นเต้นนะ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มาในรูปแบบแผงแคปซูลบรรจุแอมพูล เหมาะมากสำหรับคนขี้ลืมหรือกะปริมาณการใช้ไม่ถูก ก็แกะทีละแผง หมดกล่องก็ครบสัปดาห์ พร้อมแล้วสำหรับการวัดผลลัพธ์ทันที และแน่นอนว่าสีสันเหลืองอมส้มสุดสดใสของการ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม ตั้งไว้บนโตีะเครื่องแป้งยังไงก็เห็น ไม่ลืมทาแน่นอน
สเตปต่อมาก่อนการใช้งานจริงเราก็รีบศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ก็รีบพลิกอ่านรอบๆ กล่อง ทางแบรนด์เค้าชูสรรพคุณว่าช่วยบรรเทาพวก ฝ้าแดดลึกให้แลดูจางลงได้ใน 6 วัน รวมถึงผิวหมองคล้ำดูกระจ่างใสด้วย แต่ก็เข้าใจว่า ปัญหาผิวหน้าเหล่านี้มันถูกสะสมมานานก็น่าจะต้องใช้เวลา เลยไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น แต่! ผลลัพธ์กลับเกินคาด
ก่อนถึงผลลัพธ์ ขอแวะไปที่เนื้อสัมผัสสักนิด อย่างที่เราเคยพอทราบมาว่า แอมพูล ถ้าเรียกง่ายๆ
ก็เป็นเซรั่มที่เข้มข้นแต่เนื้อบางเบา ตัวนี้ก็เช่นกันค่ะ ตอนหยดบนนิ้วรู้สึกเค้าเข้มข้น จนเกือบจะหนืด แต่ตอนเกลี่ยกลับเกลี่ยง่ายมาก หนืดน้อยมากเมื่อเทียบกับตัวการ์นิเย่ ไบรท์คอมพลีท เซรั่มตัวเก่าที่พอมาเกลี่ยเทียบกันก็เห็นชัดเลยว่า ฝั่งเซรั่มมีเนื้อเซรั่มเกาะบนผิวมากกว่า ในขณะที่ฝั่งแอมพูล เซรั่มดูซึมซาบกับผิวไปแล้วนั่นเองค่ะ ซึ่งตอนทาบนผิวหน้าตรง ๆ ก็รู้สึกนะว่าเค้าเข้มข้นและเนื้อแน่น แต่เป็นความแน่นที่ลูบไปตรงไหนก็ซึมลงผิวไปได้อย่างรวดเร็ว แทนที่จะแต้มแค่จุดริ้วรอยดำสิวตรงคาง และรอยคล้ำใต้ตา นี่ก็เลยทาลูบไปทั่วทั้งหน้า ก่อนจะตามด้วยครีมหรือ sleeping mask ตาม routine ปกติของเราค่ะ ที่ชอบอีกอย่างคือกลิ่นอมเปรี้ยวสไตล์ CITRUS ของ การ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย ใช้ตอนนอนมีกลิ่นหอมๆ บนหน้า มันดีมากกก
ผลลัพธ์จากการใช้งาน 6 วันตามเคลม(มีหนึ่งวันแอบลืมทาเพราะ WFH) พบว่าผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดของเราคือรอยดำของสิวตรงคางที่วงเอาไว้จางลงค่ะทุกคน! อันนี้ถ่ายแบบล้างหน้าเสร็จของแต่ละวันหลังจากใช้ การ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม แล้ว ในส่วนของใต้ตาและฝ้าแดด คิดว่าอาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ และคอย monitor อย่างละเอียด อาจเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนค่ะ แต่โดยรวมรู้สึกว่าผิวสดชื่นขึ้น ไม่แห้งกร้าน ส่วนตัวเราชอบใช้แอมพูล ตามด้วย เซรั่ม และ NIGHT CREAM หรือ Sleeping Mask ตื่นมาผิวสดชื่นเหมือนคนนอนเต็มอิ่ม( แม้จะนอนแค่สี่ชั่วโมง )
โดยสรุปการใช้งาน การ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม ถือว่าเป็นแอมพูลตัว starter ที่ดีมากๆ ตัวหนึ่งสำหรับเรา ใช้งานง่าย ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างพึงพอใจ ส่วนตัวคิดว่าอยากให้ทำเป็นขวดจริงจังด้วย เพราะจะได้มีทั้งแบบขวดอยู่บ้านและแบบกล่องสำหรับพกพา ที่ชอบอีกอย่างคือราคาที่กำลังดีเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ถ้าใครไม่ได้แพ้พวกวิตซีน่าลองใช้ค่ะตัวนี้
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ชุ่มชื้น,ซึมซาบเร็ว,ผิวนุ่มเด้ง,คุ้มราคา
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ตั้งแต่ที่เค้ามีโปรโมชั่นหนึ่งแถมหนึ่งก็ซื้อตุนมาตลอดเลย
ตัวออยล์นี้ เนื้อเค้าจะใสๆ แต่มีความชุ่มชื้น
ซึมง่ายกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมาะมากสำหรับการชโลมผิวหลังจากอาบน้ำหรือทาก่อนเข้านอนในห้องแอร์เย็นๆ ตื่นเช้ามาผิวนุ่มเนียน ดีงามมาก ยิ่งยิ่งใช้คู่กับสบู่ของเค้า นอนหลับสบายสุด แถมตื่นเช้ามาผิวดีเลย ควรมีติดบ้านค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : ใช้ซ้ำ
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ชุ่มชื้น,ไม่เหนอะหนะ,อ่อนโยน,สดชื่น
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : ซุปเปอร์มาร์เก็ต (โลตัส, บิ๊กซี, ท็อปส์, แม็กซ์แวลู, โฮม เฟรช มาร์ท)
หลังจากใช้มาในวันทำงานถือว่าเป็นกันแดดที่โอเค หลอดที่ได้รับเป็นหลอดเล็ก ๆ พกพาง่ายอีกด้วยค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เคยใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กันแดดได้ดี,ชุ่มชื้น,ไม่ระคายเคือง,กันน้ำ/กันเหงื่อ,ควบคุมความมัน,ไม่เหนอะหนะ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ได้ฤกษ์มารีวิวแป้งตลับนี้แล้ว โดยแป้งตลับนี้เป็นของแบรนด์ BSC เช่นเคยค่ะ อย่างที่เคยเห็นเรารีวิวตัวแป้งฝุ่นที่เป็นลายคุมะมง นางก็ดีอยู่นะ เป็นแป้งเนื้อเบา ๆ พอมาเป็นแป้งตลับอันนี้ก็เหมือนเป็นการ power up ขึ้นมา ทั้งรูปลักษณ์ตลับที่ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น พลาสติกไม่ก๊องแก๊งนะ ดูดีเลย สรรพคุณที่อ่านคร่าว ๆ คือเป็นแป้งอัดแข็งที่มีคุณสมบัติเป็นได้ทั้ง pressed และ foundation เรียกว่าใช้ตัวเดียวก็ได้ ใช้เติมหน้าให้แน่นก็เอาอยู่
พอเปิดฝาออกมาก่อนใช้งานจริงก็มีพลาสติกใส คั่นระหว่างพัฟกับตัวแป้ง สิ่งที่สัมผัสได้คือ ตัวพัฟค่อนข้างนุ่ม และไม่มีกลิ่นสังเคราะห์ ซึ่งดีค่ะ ในส่วนของแป้งเราว่าประกอบในตลับเรียบร้อยดี ไม่มีรอยแตกหรือเศษแป้งกระเทาะรอบ ๆ และดูมีปริมาณเต็มตลับสมบูรณ์ แต่เนื้อสีของแป้งดูค่อนข้างเข้มค่ะ ก็แอบกลัว ๆ ว่า จะเข้มไปมั้ย เพราะพอกดพัฟลงกับแป้งดูสีชัดมาก ขนาดปาดบนผิวยังเห็นรอย ๆ แป้งเลย (รูปที่สาม) เราเลยค่อย ๆ แตะพัฟกับหน้าเบา ๆ เพราะกลัวมันจะหนาเกินไปค่ะ
และเมื่อถึงเวลาที่ทาแป้งเสร็จ ตอนที่ยังไม่เกลี่ย ก็เห็นรอยแป้งเป็นคราบ ๆ นิดหน่อย ยิ่งช่วงนี้สิวขึ้นด้วย พอแป้งเจอผิวแห้องรอบสิวก็แบบ เอาแล้ว คราบมาแน่นอน เลยกดๆ เน้น ๆ ให้แป้งเข้ากับหน้าไว ๆ กดไปกดมา เพลิน พอส่องกระจกอีกที เอ้ยมันเนียนดีแฮะ คราบแป้งที่กังวลไม่ได้เกาะหนาอย่างที่คิด ดูกลมกลืน ปกปิดรอยดำรอยแดงสิวได้ประมาณหนึ่ง และไม่มีแป้งเกาะตรงบริเวณที่กังวล ที่สำคัญคือดูหน้าสว่างอย่างเป็นธรรมชาติด้วย ซึ่งพื้นเพหน้าเราก็เป็นคนหน้ามัน เข้าใจได้ว่าพอระหว่างวัน แกะมาสก์ แกะอะไรมา แป้งก็จะหลุดติดออกมาค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้ามันขึ้นแต่อย่างใด เรียกว่าก็เป็นแป้งที่ไว้ใช้งานแบบชีวิตประจำวันได้โอเคเลย ถ้าตบ ๆ ระหว่างวัน ทัชอัพบ้างก็น่าจะโอเคทั้งวันค่ะ
โดยสรุปที่ใช้มาประมาณ 4 วันโดยเดินทางออกไปทำงานด้วย ถ้านอกจากที่ติดแมสก์และพัฟค่อนข้างกินเนื้อแป้งเยอะ อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง ทำความสะอาดค่อนข้างง่ายด้วย เรียกได้ว่าเป็นของดีราคาสุดคุ้มอีกหนึ่งชิ้นที่น่ามีติดกระเป่านะคะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจายแสง/ ปรับสีผิว,คุ้มราคา,ไม่เป็นคราบ,ดูเป็นธรรมชาติ,ปกปิดได้ดี
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
มาในส่วนสีของยาสีฟัน เป็นสีขาวบริสุทธิ์ไม่มีสารเจือปน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมิ้นต์ (คิดว่าน่าจะใช่) จากคำอธิบายเขาบอกว่าให้ใช่เท่าเม็ดถั่วเขียว แต่พอดีเราใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า น้องเค้ามี area ค่อนข้างสั้น เลยปาดให้เต็มขนแปรงไปเลย ซึ่งก็ใช้ไม่เยอะเลยค่ะ จากนั้นก็เริ่มการแปรงฟัน ด้วยความที่เราใช้แบบไฟฟ้า ปกติถ้าบีบยาสีฟันเต็มแปรงแบบนี้แล้วกลั้วน้ำก็จะทำให้ฟองฟ่อด เลอะเทอะไปทั้งด้ามแปรง แต่เหมือน Denta Mate จะมีฟองไม่มากเกินไปค่ะ แล้วก็ละลายบนผิวฟันได้ค่อนข้างดี ไม่ต้องใช้น้ำมาก ก็ได้ฟองยาสีฟันทั่วทั้งปาก แต่เป็นฟองที่ค่อนข้างแน่น ไม่เหลวจนเลอะเทอะเปียกปอน เราว่าเค้าน่าจะมีวิทยาการอะไรซักอย่างทำให้มันใช้งานได้ง่ายขนาดนี้ อันนี้ดีงาม ชอบ
แล้วอย่างที่บอกไปว่ามีกลิ่นหอมของมิ้นต์รวมถึงกลิ่นจากสมุนไพรบาง ๆ ที่หอมแบบสดชื่น ๆ ค่ะ ทำให้เรารู้สึกแปรงแล้วเพลิดเพลินมาก ที่สำคัญคือไม่แสบ แม้ว่าในปากจะมีแผลร้อนใน แต่ฟองยาสีฟันโดนก็ไม่เป็นไร ค่อนข้างอ่อนโยนทีเดียว
ตอนใช้เสร็จใหม่ ๆ ก็รู้สึกปากสดชื่นสะอาดดี รู้สึกว่าพวกคราบที่เกาะผิวฟันมันน้อยลงค่ะ รู้สึกโล่งสบายปากม๊ากกก
แล้วพอตื่นมาตอนเช้านี่เซอร์ไพรซ์อีกจุด ทั้ง ๆ ที่ปกติตื่นมาจะรู้สึกถึงกลิ่นปากตอนเช้า แต่หลังจากใช้อันนี้เหมือนกลิ่นปากบางลง มีกลิ่นหอมของยาสีฟันเจือ ๆ ซะมากกว่า ซึ่งเป็นฟีลลิ่งที่แฮปปี้มาก ๆ เลยค่ะ
โดยสรุปก็คือเราโอเคกับยาสีฟัน Denta Mate มาก ยิ่งใช้กับแปรงไฟฟ้านี่แปรงสนุกมาก จริง ๆ ถ้ามีรุ่นแบบผสมฟลูออไรด์ด้วยน่าจะเวิร์คมาก ๆ เลยค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : อ่อนโยน,ทำความสะอาดได้ดี,กลิ่นหอม,ระงับกลิ่นระหว่างวัน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ซึ่งจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องนั้นบอกเลยว่าเรายังคงชอบผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตาม เพราะทำให้ผิวเราแลดูกระจ่างใสได้อย่างสม่ำเสมอจริง ๆ เลยอยากจะมารีวิวในส่วนความแตกต่างของรุ่นเก่า (Brigtening Essence) และรุ่นใหม่ (Premium Essence) เราว่าเนื้อของรุ่นนี้จะมีความเคลียร์ ใส และใช้งานง่ายกว่ารุ่นไบรท์เทนนิ่ง ที่เนื้อจะมีความเข้มและหนืดคล้ายน้ำมันบำรุงผิวมากกว่า ซึ่งทำให้รุ่น Premium นี้เหมาะกับการเป็น Essence ที่ใช้ก่อนการลงครีมเนื้อหนัก ๆ อื่น ๆ ต่อไป สามารถใช้งานร่วมกับตัวบำรุงอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย ในเรื่องของกลิ่นก็มีความสดชื่น ออกส้ม ๆ นิด ๆ คล้าย ๆ ตัวเก่า เรื่อฝผ้ากระไม่ค่อยแน่ใจเพราะว่าเราไม่มี เลยไม่รู้ว่าเค้าลดได้หรือเปล่า แต่โดยรวมก็คิดว่าดีอยู่นะคะ เราว่าถ้าใครใช้อยู่แล้วอยากอัพเลเวลหรือบำรุงให้ลึกขึ้น ตัวนี้ก็น่าสนใจดีค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : ใช้ซ้ำ
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ชุ่มชื้น,กระจ่างใส,ผิวนุ่มเด้ง,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,คุ้มราคา,ซึมซาบเร็ว,อ่อนโยน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ในส่วนแพคเกจจิ้งที่บอกไปนอกจากเรื่องสีแดงแรงฤทธิ์ บรรจุภัณฑ์เป็นแก้วค่อนข้างหนัก ทำให้แลดูหรูหราเกินราคาไปเลย เปิดฝาออกมาก็มีพลาสติกกั้นหนึ่งชั้น และมีช้อนตักครีมตามสไลต์ OP ซึ่งเราชอบมากเพราะทำให้เราตักครีมออกมาใช้งานได้อย่างสะอาดและปลอดภัย
เนื้อครีมตัวนี้ เนื่องจากเป็นครีมกลางคืน เนื้อก็จะเหนียว หนัก แต่ไม่ได้ทำให้ผิวเหนอะหนะ ออกจะชุ่มฉ่ำบนผิวเสียมากกว่า ตอนทาอาจจะรู้สึกหนืดนิด ๆ แต่ก็ซึมซาบได้ไวดี สามารถใช้เป็นครีมจบก่อนนอน หรือทาตัวอื่นต่อก็ได้ กลิ่นเราไม่ค่อยชอบ แต่ก็ไม่ได้แรงขนาดนั้น รับได้อยู่
ในส่วนของผลลัพธ์ ที่จริงไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้ใช้ผิวหน้าทำอะไร คิดว่าน่าจะผิวโอเคอยู่ แต่ปรากฎกว่าพอทาเสร็จ เช้าวันต่อมา ผิวค่อนข้างนิ่ม และดูฟู เหมือนนอนอิ่มกว่าทุก ๆ วัน ทั้ง ๆ ที่นอนและตื่นเวลาเดิม อาจจะต้องดูผลลัพธ์อีกทียาว ๆ แต่โดยรวมก็ค่อนข้างพอใจนะคะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส,คุ้มราคา,ซึมซาบเร็ว,ลดริ้วรอย,ใช้งานง่าย,ชุ่มชื้น,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,กระชับรูขุมขน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ในส่วนแพคเกจจิ้ง หน้าตาค่อนข้างคุ้นเคย เพราะเราเองก็เคยใช้ Olay Regenerist Miracle Boost Youth Pre Essence ความขวดแก้วความหัวปั๊มและดรอปเปอร์เอยอะไรเอย ทำให้เรารู้สึกว่าใช้งานง่าย สามารถกะปริมาณของเนื้อเซรั่มได้อย่างสะดวก และไม่ต้องใช้นิ้วสัมผัสกับเนื้อผลิตภัณฑ์จากบรรจุภัณฑ์โดยตรง
สำหรับเนื้อของรุ่นนี้คิดว่าค่อนข้างเข้มข้นกว่าตัวที่เคยใช้ เนื่องจากเค้าเป็น Serum ที่จะมีความเข้มข้นกว่า Pre Essence อยู่แล้ว จากการอ่านส่วนผสมพบว่ามีสารบำรุงที่จำเป็นมากมาย ทั้ง คอลลาเจน เปปไทด์ + Niacinamide ซึ่งตัวหลังนี้เรียกว่ามาแรงมากในเรื่องของการบำรุงและฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า ซึ่งเค้าจะมีความเป็นเนื้อสีขาว หนืดเล็กน้อย สามารถทาให้ทั่วใบหน้าได้ โดยไม่ไหลย้อย และก็ไม่หนึบหน้าจนไม่สามารถบำรุงผิวขั้นตอนต่อไปได้ ทำให้ตัวนี้สามารถใช้งานในตอนเช้าได้ด้วย เป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ
ในส่วนของผลลัพธ์ ต้องบอกก่อนว่าเราใช้ตัวนี้ร่วมกับครีมบำรุงผิวอื่น ๆ อีกหลายตัว ซึ่งทำให้เราไม่แน่ใจนักในส่วนของผลลัพธ์ แถมช่วงนี้ work from home ทำให้ไม่ได้แต่งหน้าสักเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าช่วงที่ใช้ตัวนี้ เหมือนทาครีมอะไรก็ดี หน้าดูอิ่ม เรียบเนียน รู้สึกชุ่มชื้นแต่ไม่มัน เวลาเอามือจับหน้าไม่รู้สึกถึงความหยาบกร้าน ทั้ง ๆ ที่นั่งห้องแอร์ในบ้านทั้งวัน อาจเรียกได้ว่าน้องช่วยเสริมพลังครีมอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี และด้วยราคาที่น่ารักของเค้า จะมีสักขวดในบ้านก็ไม่เลวนะคะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส,ผิวนุ่มเด้ง,ฟื้นฟูสภาพผิว,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ซึมซาบเร็ว,คุ้มราคา,อ่อนโยน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ตกใจกับขนาด มาดูในส่วนคุณสมบัติ น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเค้าบอกว่าตัวเองเป็นวิตามินเซรั่มที่ชูด้วยวิตามินซี และ วิตามินบี 3 ปกติเราจะเห็นพวกครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เป็นวิตามินซีมักจะมาจากส้ม มะนาว แต่ซองนี้เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มากกว่า 32 ชนิด ทำให้มีปริมาณวิตามินซีมากกว่าส้ม 32 เท่า เข้าท่าๆ
ในส่วนของเนื้อผลิตภัณฑ์ หลังจากเปิดฝา บีบเนื้อครีม คือผิดคาดมาก เข้าใจว่าจะเป็นครีม เนื้อโลชั่น กลิ่นส้ม ๆ แต่ผิดหมดเลยยย น้องเป็นเนื้อเจลใส และมีเม็ดสีแดง ๆ เจือ หน้าตาแบบเดียวกับหน้าซองเป๊ะ ๆ ตื่นเต้นๆ
มาถึงตอนใช้งาน วิธีใช้ก็คือต้องเอานิ้วค่อย ๆ นวดวน จนเม็ดสีแดง ๆ ผสมกับเนื้อเจลใสจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วค่อยนำมาทาผิว ซึ่งเราว่าทำให้น่าใช้มาก เหมือนเราได้วอร์มเนื้อเซรั่มไปในตัว ตอนทาบนผิวก็ทาง่าย ซึมซาบไว เรื่องกลิ่นไม่แน่ใจแต่ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างอ่อน และไม่ระคายเคือง ไม่ทำให้เหนอะหนะระหว่างวันด้วย
ด้านสรรพคุณเค้าบอกว่าเน้นผลลัพธ์ผิวใส นุ่มเด้ง มีออร่า ซึ่งส่วนตัวเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เข้าใจได้ว่าต้องใช้เวลา แต่ก็รู้สึกว่าใช้แล้วผิวนุ่ม ๆ ดี ราคาไม่แรง ถ้าต้องพกพาไปไหนแล้วอยากทำพวก mask pack ตัวนี้เราว่าก็เวิร์คนะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส,ชุ่มชื้น,ผิวนุ่มเด้ง,ซึมซาบเร็ว,อ่อนโยน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ดูในส่วนของแท่งลิปก็เหมือนลิปทั่ว ๆ ไป ส่วนตัวคิดว่าแพคเกจน่ารัก มีความญี่ปุ่นสูงมาก เปิดฝาออกมา โอ้ สีดูเข้มจังเลย (สีที่เราได้มาคือ Clear Cranberry) แต่ก็เข้าใจแหละว่า ปกติลิปมันมีสีพวกนี้ก็มักจะไม่ได้สีเดียวกับในแท่งอยู่แล้ว เลยไม่ติดอะไร พอมาปาดที่ผิว ถึงรู้ว่า ที่เราคิดว่าสีน่าจะอ่อนกว่าแท่ง มันไม่อ่อนธรรมดา มันอ่อนมากกกกกกก ถ้าเทียบกับลิปมัน Chanel ที่เคยรีวิวไป อันนั้นสีบนแท่งคล้าย ๆ กัน แต่ตอนปาดสวอชก็ดูมีสีเข้มกว่าน้องแท่งนี้อีก ความแตกต่างระหว่างน้อง Aqua Organic กับลิปมันมีสีอื่น ๆ ที่เรามีคล้าย ๆ กันคือ เนื้อเขาจะบางเบากว่า แล้วสัมผัสของตัวลิปบนผิวค่อนข้างนุ่มกว่านิดหน่อย เหมือนเนื้อเขาตีมาเบาและฟูกว่าค่ะ
คราวนี้มาถึงตอนทาบนปากบ้าง เนื้อเค้าลื่นทาง่ายแต่สีออกค่อนข้างน้อยมาก จะเห็นความแวววาวบนปากมากกว่า รู้สึกว่าต้องปาดหนักมือกว่าลิปอื่น ๆ กว่าจะกลบสีปากธรรมชาติได้มิดค่ะ
สำหรับความรู้สึกตอนลิปอยู่บนปาก ไม่ค่อยแตกต่างอะไรกับลิปมันมีสีแบรนด์อื่น ๆ ไม่เหนอะหนะ ไม่แสบ ไม่หนักปาก ทำให้ปากรู้สึกชุ่มชื้นได้ยาวนานพอประมาณค่ะ
ส่วนตัวให้คะแนนลิปแท่งนี้ที่ 4 เพราะรู้สึกว่าเป็นลิปมันออกสีที่สีค่อนข้างน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ถ้าใครแพ้พวกสารเคมีในลิปง่าย หรือกังวลาเกี่ยวกับสารต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้กับริมฝีปาก เลือกตัวนี้ไว้ก็น่าจะปลอดภัยดีค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ไม่เป็นคราบ,ชุ่มชื้น,ล้างออกง่าย,แพ็กเกจสวย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กันแดดได้ดี,อ่อนโยน,ไม่ระคายเคือง,กันน้ำ/กันเหงื่อ,ล้างออกง่าย,ไม่เหนอะหนะ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
มาเริ่มในส่วนของแพคเกจจิ้งและผลิตภัณ์กันก่อน ตอนได้รับจากกิจกรรม cosmenet เขาก็จะมาในแพคเรียบร้อยแบบนี้เลย มี QR ให้เราส่องเพื่อมารีวิวง่ายๆ หรืออ่านสรรรพคุณเพิ่มเติมทำความเข้าใจก่อนใช้งานก็ได้ จากนั้นเราก็แกะพลาสติกหุ้มห่อ (ทำให้เรามั่นใจว่าสินค้าสะอาดไม่ปนเปื้อนแน่นอน ตอนนี้อะไรก็ต้องระแวงไว้ก่อน 555555) เปิดฝามาปั๊บ ขนแปรงเรียว พู่กันดูเป็นทรงไม่มีชี้โบ๊ชี้เบ๊ อันนี้ก็ผ่าน ด้ามจับเท่า ๆ กับอายไลเนอร์ทั่วไป อันนี้ก็ดี
มาในส่วนเนื้อผลิตภัณฑ์กันบ้าง ที่เราได้รับคือสีดำด้าน ไม่มีเงาสะท้อนใด ๆ ทดสอบบนหลังมือโดยการกรีดแบบแตะเบา ๆ แล้วลากเส้น กับแบบกดแรง ๆ เพื่อจะดูความแตกต่างของขนดเส้น พบว่าก็สามารถควบคุมความหนาของเส้นได้ดีประมาณหนึ่ง อาจจะทำเส้นเล็กแบบอินเนอร์ได้ยากนิดหน่อย (แต่ถ้าคนสกิลดีตรงนี้น่า่จะไม่มีปัญหา)
ทดสอบต่อมาคือการติดคงทน หลังจากเรากรีดเสร็จแล้วก็เอานิ้วรูดทันที พบว่าไม่มีอายไลเนอร์ติดนิ้วแต่อย่างใด แต่สีกลับจางนิดหน่อย ไม่รู้ว่าไปติดอยู่ไหนเหมือนกัน แต่ใด ๆ ก็คือไม่ได้เลอะเทอะ แม้จะซึมตามร่องรูขุมขนหรือรอยหยักผิวหน้างบ้าง แต่บริเวณเปลือกตาเราไม่ได้มีเยอะเท่าตรงมือ เลยคิดว่าไม่มีปัญหาค่ะ
จากนั้นก็เป็นการใช้กับดวงตา ด้วยความที่ขนแปรงนุ่มเวลากรีดเลยต้องเกร็งมือเล็กน้อย แต่ก็ควบคุมเส้นได้ง่ายอยู่ และไม่ออกนอกลู่นอกทางดี เส้นค่อนข้างคมถูกใจ แห้งไว ซึ่งในวันที่ทดลองใช้เราเริ่มกรีดก่อนออกไปทำงานตอน 8 โมงเช้า เดินทางไปออฟฟิศและทำงานในห้องแอร์ตั้งแต่ 9 โมงจนถึง 5 โมงเย็น เดินทางกลับบ้าน กลับมาออกกำลังกายที่บ้าน และเมื่อผ่านไปจนถึง 3 ทุ่มพบว่าสีอายไลเนอร์ยังคงทนอยู่ ไม่มีเลอะเทอะใด ๆ เมื่อเทียบกับใบหน้าที่มันย่องจากกิจกรรมที่ทำอย่างหนักหน่วงทั้งวัน ถือว่าน้องทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว ที่สำคัญไม่มีการระคายเคืองใด ๆ สิ่งที่ทำให้ขัดใจนิดเดียวคือตอนล้าง ต้องโบกทั้งออยล์ ทั้ง Eye Remover ถึงจะออกหมดจด แต่ก็ถือว่าโอเคเมื่อเทียบกับการติดแน่นคงทนเช่นนี้
โดยรวมคิดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าใช้ ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด และนี่ก็จะเป็นอายไลเนอร์ที่ขึ้นแท่นลูกรักของเราอีกหนึ่งด้ามค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กันน้ำ/กันเหงื่อ,สีสวยชัด,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ติดทน,คุ้มราคา,ใช้งานง่าย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
เราชอบที่เค้ามาในรูปลักษณ์ที่น่าใช้ มีส่วนปลายสองด้าน ด้านแรกเป็นดินสอปลายเหลี่ยมตัดขวางแบบที่ทำให้เขียนบนผิวบริเวณคิ้วแล้วสะดวก ดีกว่าดินสอที่เป็นหัวแหลม ๆ สีที่เราได้รับทดลองมาคือสีน้ำตาลเข้มเข้ากับสีผม ด้วยความที่เป็นหัวดินสอแบบนี้นี่เองทำให้การเขียนเส้นเลียนแบบขนคิ้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งจนเกินไป และส่วนปลายอีกด้านมีความเป็นพุ่มพู่กัน ซึ่งสามารถเกลี่ยสีคิ้วรองพื้นก่อนเขียนคัดเส้นขนคิ้วได้ ทำให้คิ้วดูเป็นธรรมชาติไม่เข้มเป็นปลิง
ขั้นตอนเขียนคิ้วสองสเตปนี้ เราใช้เวลาไม่เกิน 15 วินาทีเท่านั้น คิ้วก็ดูเป็นทรง เป็นธรรมชาติสุด ๆ ไม่หลุดลอกหรือเป็นคราบระหว่างวัน ถือว่าเป็นไอเทมที่ตอนนี้ติดมากถ้าต้องเขียนคิ้ว ที่สำคัญคือราคาน่าคบหา น่าใช้ต่อมากๆ ค่ะ ตัวนี้
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กันน้ำ/กันเหงื่อ,เม็ดสีชัดเจน,ติดทน,ใช้งานง่าย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
โดยสีที่เราได้มาคือ no more orchids ค่ะ ซึ่งเป็นสีที่เซฟมาก ๆ เป็นชมพูแดงพีช ๆ เนื้อใส ๆ ฉ่ำ ๆ บนแท่งมีสลักคำว่า GUCCI ด้วย แต่การออกสีค่อนข้างชัดชนกลบสีปากได้มิดค่ะ ที่สำคัญคือคงความชุ่มชื้นและไม่เหนอะติดมาสก์ด้วย เลิฟสุด ๆ ไปเลยค่ะ
ถ้าเปรียบเทียบระหว่างแท่งนี้กับ Chanel ที่เคยรีวิวไป คิดว่าตัว Chanel เนื้อเค้าจะมีความเป็นลิปมันออกสี เน้นความชุ่มชื้น ในขณะที่ตัวนี้มีความคล้าย ๆ ลิปจริง ๆ มากกว่า และเนื่องจาก Chanel เราใช้สีที่ค่อนข้างเข้ม ในเรื่องของการออกสีเลยทำได้ดีพอ ๆ กัน ก็ชอบทั้งคู่นะคะ ใช้ทั้งสองอัน แล้วแต่ลุคที่จะแต่งออกมามากกว่า แต่เหนืออื่นก็คืออยากเชียร์ค่ะ ของเค้าดี ราคาไม่แพงเลย ซื้อในช้อปคือได้ถุงผ้าใส่ลิปที่เอามาใช้อย่างอื่นได้ ได้ถุงกระดาษแบรนด์ ได้ซองเขียวครบชุดเหมือนถอยกระเป๋า GUCCI เลยค่า
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : ใช้ซ้ำ
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : คุ้มราคา,ติดทน,อ่อนโยน,ไม่เห็นผลลัพธ์,ใช้งานง่าย,ไม่เหนอะหนะ,ลดความหมองคล้ำ,ชุ่มชื้น,เรียบเนียน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : แบรนด์ชอป
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กันแดดได้ดี,อ่อนโยน,กันน้ำ/กันเหงื่อ,ควบคุมความมัน,เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ชอบในส่วนของเนื้อที่มีความเป็นกันแดด ไม่เหลวจนเกินไป กันแดดบางรุ่นจะมีเนื้อที่ค่อนข้างเหลวทำให้เราทาแล้วไม่แน่ใจว่าทาตรงไหนไปแล้วบ้าง แต่ตัวนี้มันจะคงอยู่บนผิว ทำให้เรารู้ว่าเราเกลี่ยได้ทั่วแล้วหรือยัง อีกอย่างคือกลิ่นที่เป็นกลิ่นกันแดดแต่ไม่แรง ทาบนหน้าแล้วไม่รู้สึกเท่าไหร่ ระยะเวลาที่ทิ้งไว้ให้แห้งไม่นานจนเกินไป ทาเสร็จแล้วผิวหน้าชุ่มชื้น ไม่แห้งไม่สากค่ะ และเนื้อผลิตภัณฑ์ไม่ปนกับพวกผลิตภัณฑ์แต่งหน้าอื่น ๆ ไม่ได้ทำให้หน้าว่อกลอย ดีมาก ๆ ค่ะ
ในส่วนที่ไม่ชอบ ในการกันแดดเค้าน่าจะโอเคอยู่แล้วแหละ แต่เราเป็นคนหน้ามัน รู้สึกว่าเค้าทำให้หน้าเราแลดูมัน เมื่อทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง ผิวหน้าเราแลดูมันวาวแต่เวลาซับหน้าออกมาก็ไม่ได้มันนะคะ เป็นไปได้ว่าตัวเนื้อของเค้าทำให้หน้าเราดูไบรท์ๆ บริ๊งๆ ดิวอี้ลุคประมาณนั้น ซึ่งส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบค่ะ
โดยรวมถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจตัวนึงเลย ราคาก็ไม่แพง เราใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง และใช้มาสองสามครั้ง ยังไม่มีสิวผดหรืออุดตันอะไรนะคะ ใครสนใจลองซื้อมาติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ก็ไม่เสียหายค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กันแดดได้ดี,ชุ่มชื้น,ไม่ระคายเคือง,กันน้ำ/กันเหงื่อ,ล้างออกง่าย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
KUMAMON CHEERFUL LOOSE POWDER จริง ๆ เราก็คงเคยได้ยินสโลแกน "ตบทีเดียวอยู่" ของชีเน่ แต่สมัยนู้นก็จะเป็นแป้งตลับสี่เหลี่ยม ๆ ราคาเบา ๆ เหมาะกับเด็ก ๆ วัยรุ่นในยุคนั้น แต่พอโตมาเราก็ไปใช้ยี่ห้ออื่นตามที่ชอบ ซึ่งพอมาวันนี้ทาง *cosmenet ก็ใจดี แจกแป้งชีเน่ ขวัญใจเราในสมัยนั้น แต่มาคราวนี้เค้าเปลี่ยนไปเป็น "แป้งฝุ่น" และที่พิเศษสุดคือตลับนี้เป็นลาย "คุมะมง" น้องหมีสีดำหน้าตาน่ารัก ทำให้ผลิตภัณฑ์น่าใช้มากขึ้นไปอีกกกก นี่คือความประทับใจแรก ซึ่งสีที่เราได้รับมาทดลองใช้คือ C2 ค่ะ
จบจากเรื่องของแพคเกจน่ารัก ก็มาในส่วนของเนื้อแป้ง จริง ๆ ตอนแกะออกมาก็จะมีสติ๊กเกอร์ใส ๆ แปะกันไม่ให้แป้งหล่นออกจากตลับเหมือนแป้งฝุ่นทั่วไป และมีพัฟให้หนึ่งอัน ส่วนตัวก็รู้สึกว่าพัฟนุ่มดีนะคะ เมื่อแกะออกมา แป้งฝุ่นเค้าเนื้อค่อนข้างละเอียดดีพอสมควร อาจจะไม่ได้เนื้อเนียนนุ่มเท่าแป้งฝุ่นแบรนด์แพง แต่ในแง่การใช้งานก็ถือว่าโอเคเลยค่ะ
ตอนทาผิวด้วยพัฟของชีเน่เอง เราแอบรู้สึกว่าพัฟเค้าเกาะเนื้อแป้งได้ไม่ดีนัก ทำให้มันไม่ติดหน้าเท่าไหร่ เราเลยใช้แปรงปัดแป้งฝุ่น ผลลัพธ์ก็จะเห็นได้เลยว่าเค้าค่อนข้างเนียนและช่วยพรางรูขุมขนได้ดีเกินคาด (รูปซ้ายคือก่อนทา รูปขวาคือหลังทา) ทำให้ผิวดูนวลเนียนไม่มันเลยค่ะ แต่รู้สึกได้เลยว่านางไม่ค่อยเกาะผิว ก่อนกินข้าวเราตบแป้งอีกทีก็หน้าเนียนเหมือนตอนเช้าแล้วค่ะ
จากที่ใช้มาประมาณ 2-3 วัน รู้สึกว่าผิวเราไม่ค่อยมัน ถ้าเป็นตัวอื่นลูบหน้าที ความมันก็ติดมือ แต่ตัวนี้ถึงมีความมันติดมือก็ค่อนข้างน้อยกว่าตัวอื่น ๆ แต่อย่างที่บอกไปว่าเค้าก็ไม่ได้ติดทนนัก สีผิวอาจจะดรอป ๆ นิดนึงพอทาไปสัก 3-4 ช.ม. แต่ตบอีกทีก็เอาอยู่นะคะ
สรุปจากการใช้งาน เราคิดว่าแป้งฝุ่นคุมะมงตลับนี้ทำออกมาดีเลยแหละ ราคาก็ดี ตลับก็สวย อาจจะใช้แล้วเปลืองนิดนึงแต่ก็น่าใช้ค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจายแสง/ ปรับสีผิว,คุ้มราคา,ไม่เป็นคราบ,ดูเป็นธรรมชาติ,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ในส่วนราคาก็ไม่แรงเกินไป 1550 / 400 ml. ใช้ได้นานอยู่ ค่อนข้างดีงาม เราใช้สูตร 2 สำหรับผิวแห้งและผิวผสมค่ะ ใครชอบผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วให้ความรู้สึกสะอาด ๆ แบรนด์นี้ ขวดนี้แนะนำเลยค่า
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส,ชุ่มชื้น,ผิวนุ่มเด้ง,ฟื้นฟูสภาพผิว,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,คุ้มราคา
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
เซตนี้เราว่าโอเคมาก ๆ เนื้อบางเบา ทาลงบนผิวแล้วซึมซาบเร็วมาก ๆ ใช้เช้าเย็นได้ไม่มีปัญหา รอยดำจากสิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกเลยว่าแต่งหน้าง่ายขึ้น ผิวดูอิ่มขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้นด้วย ส่วนราคาก็น่าคบ (Base 1,400 / booster 500) เหมาะที่จะมีติดโต๊ะเครื่องแป้งอีกขวดค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : ใช้ซ้ำ
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส,ฟื้นฟูสภาพผิว,ชุ่มชื้น,ผิวเรียบเนียน,ซึมซาบเร็ว,อ่อนโยน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : คุ้มราคา,ผิวไม่แห้งเป็นขุย,แผลเป็นสิวดูจางลง,ไม่ระคายเคือง,ใช้งานง่าย,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,รักษาสิว
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : ร้านสะดวกซื้อ (7-11, แฟมิลี่ มาร์ท, ลอว์สัน)
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : พกพาสะดวก,คุ้มราคา
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
หลายคนก็คงเคยใช้โอเลย์ไม่ไลน์ใดก็ไลน์หนึ่ง อย่างเรารู้จักและได้ลองใช้โอเลย์ในไลน์ Regenerist ที่เป็นสีแดงค่ะ แต่ถ้าไลน์ White Radiance ที่ขึ้นชื่อเรื่องกระจ่างใส ผิวมีออร่าใด ๆ ก็จะเป็นสีขาว ๆ เหลือบมุก ๆ แบบนี้ ซึ่งสำหรับตัว White Radiance Niacinamide + Hyaluronic Super Serum หน้าตาแพคเกจจิ้งเหมือนกันกับตัวนั้นเลย หัวเป็นดรอปเปอร์เหมือนกันด้วย ใจก็คือให้บวกหนึ่งแต้มไปแล้ว เพราะส่วนตัวค่อนข้างชอบดรอปเปอร์แบบนี้ รู้สึกว่ามันทำให้เราได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความสะอาดดี ที่สำคัญ เค้าเป็นดรอปเปอร์แบบกดเพื่อกำหนดปริมาณเนื้อผลิตภัณฑ์ได้ด้วย อันนี้คือดีมาก ๆ ให้คะแนนไว้ก่อน
ต่อมาเป็นในส่วนของเนื้อเซรั่มค่ะ เป็นเนื้อครีมค่อนข้างเหลวสีขาวครีม ๆ ดูน่าใช้ ชโลมผิวแห้ง ๆ เลย จะรู้สึกเค้าไม่ค่อยซึมค่ะ แต่ถ้าทาบนหน้าหลังจากทาโทนเนอร์หรือโลชั่น จะเกลี่ยง่ายมาก และซึมได้อย่างรวดเร็วเลยค่ะ กลิ่นก็ไม่ค่อยหนักค่ะ สบาย ๆ ดี
ในส่วนของสรรพคุณ เราคิดว่าโอเลย์เป็นแบรนด์นึงที่มีขายทั่วไป และให้ส่วนประกอบของสารบำรุงผิวค่อนข้าง"ถึง" หมายความว่า ถ้าเค้าบอกว่าใส่อะไรมา ก็ค่อนข้างมั่นใจว่ามันเป็นปริมาณที่ผิวเรารับแล้วเห็นผลจริง ๆ
ซึ่งไลน์ที่เราเลือกใช้อันนี้จะนำด้วย Niacinamide ตัวเก่งคู่ใจสาววัยสามสิบบวก เนื่องจากเป็นตัวครอบจักรวาล ช่วยดูแลไล่ตั้งแต่ลดริ้วรอย ลดอาการระคายเคือง และที่สำคัญคือช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (ceramide) ที่ช่วยให้ผิวกระชับและชุ่มชื้น ทำให้ผิวแลดูเต่งตึง เรียบเนียน แถมช่วยกระชับรูขุมขน ดังนั้นคนผิวมัน หรือแห้งจนมันแบบเรา ใช้ได้สบาย หายห่วงมากเลยค่ะ
ส่วนตัวที่สองที่พิเศษอีกตัวคือ Hyaluronic ตัวบำรุงผิวที่เพิ่มฟังก์ชั่นคือ ให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มฟู อิ่มน้ำ ซึ่งจากการใช้งานเป็นระยะเวลาสัปดาห์กว่า ๆ โดยไม่ใช่ครีมบำรุงที่เป็นเซรั่มตัวอื่น ผลลัพธ์ที่เราได้คือ ผิวเราชุ่มชื้นขึ้นค่ะ ลองสังเกตจากภาพวันแรก ถ่ายหลังจากอาบน้ำคือหน้าดูแห้งมาก และในวันที่ 1-2 ที่ลองใช้ตัวนี้ เรารู้สึกว่า เราทาเซรั่มลงบนผิวได้ลื่นมือขึ้นค่ะ พอครบสัปดาห์ กลับมาถ่ายอีกทีหลังจากทาครีมไปแล้ว เปรียบเทียบกับวันที่สอง เรารู้สึกว่าผิวเราฟูขึ้นนะ ตัวร่องอะไรที่เห็นชัด ๆ ก็แอบตื้นขึ้น ส่วนความกระจ่างใสไม่แน่ใจเพราะถ่ายคนละสภาพแสงค่ะ แต่ที่รู้สึกเลยคือ ผิวเรานิ่ม เนียน จับไปไม่รู้สึกสากมือ ถือว่าผ่านอีกหนึ่งจุดค่ะ ก็ค่อนข้างพึงพอใจนะคะ เหมาะที่จะมีติดบ้าน ด้วยสนนราคา 30ml/999 THB มีติดโต๊ะอีกสักขวดก็ไม่เสียหายค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส,ชุ่มชื้น,ผิวนุ่มเด้ง,ฟื้นฟูสภาพผิว,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ซึมซาบเร็ว,คุ้มราคา
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : คุ้มราคา,ชุ่มชื้น,ติดทน,ลดความหมองคล้ำ,อ่อนโยน,เรียบเนียน,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ไม่เห็นผลลัพธ์,ใช้งานง่าย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง
ในเรื่องของส่วนประกอบก็ค่อนข้างไว้ใจได้ เนื่องจากเป็นคลินซิ่งสูตรไมเซลล่าวอเตอร์ ที่ได้รับการยอมรับทั่วไปอยู่แล้วว่าเป็นสูตรทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ดีที่สุดในยุคนี้ มีความอ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว พร้อมทั้งส่วนผสมของน้ำกุหลาบที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแห่งการปลอบประโลมผิว ดังนั้นก็น่าจะเป็นคลีนซิ่งติดโต๊ะใครหลาย ๆ คนอยู่ก็เป็นได้
ที่ครั้งนี้ได้ทดลองใช้ก็พึงพอใจกับผลลัพธ์ในการทำความสะอาดนะคะ ยกเว้นแค่เครื่องสำอางติดทนจำพวกลิปกลอสพิกเมนต์แน่น ๆ ที่เราลองทดลองใช้ในภาพรีวิว ( ที่ปกติต้องใช้คลีนซิ่งออยล์หรือ point make up ทำความสะอาด) ในรูปสุดท้ายจะเห็นว่า แม้ว่าจะทาคลีนซิ่งและโปะทิ้งเอาไว้แล้วค่อย ๆ เช็ดออกตามขั้นตอนที่ทางแบรนด์แนะนำ ก็ยังมีคราบของลิปหลงเหลืออยู่บนผิวค่ะ
ดังนั้นเลยคิดว่า ตัวนี้น่าจะเหมาะกับการเช็ดทำความสะอาดผิวแบบ daily make up แต่งหน้าบาง ๆ อะไรแบบนี้มากกว่า ถ้าใครไม่ได้แต่งหน้าจัดมาก ก็สามารถใช้นีเวียเช็ดเครื่องสำอางพวกแป้ง ครีมกันแดด/รองพื้น อายแชโดว์บาง ๆ ออกหมดจดดีไม่ตกค้างบนผิว รู้สึกผิวหน้านุ่มหลังการใช้งานด้วยค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : คุ้มราคา,พกพาสะดวก,ชุ่มชื้น,อ่อนโยน,ไม่เหนอะหนะ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
เคยได้ยินว่า เซตาฟิลจะดังในเรื่องตัวทำความสะอาดผิว เพราะอ่อนโยนและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว สำหรับตัวนี้ จะเป็นในไลน์ที่ชื่อว่า Bright Healthy Radiance แพคเกจจิ้งโดยรวมจะเป็นสีชมพูกลีบบัวดูสวย ๆ บริ๊ง ๆ ดี แต่แพคเกจที่ให้ทดลองใช้มาจะเป็นซอง และมีเขียนไว้ว่า Night ค่ะ
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เจ้า Cetaphil Bright Healthy Radiance Brightening Night Comfort Cream เค้าเคลมว่าเป็นครีมบำรุงผิวสูตรสำหรับกลางคืน ช่วยในเรื่องความกระจ่างใส อย่างดูสุขภาพดี พออ่านรายละเอียดสินค้าก็พบว่าเป็นอีกตัวที่น่าสนใจ เนื่องจากมีส่วนผสมสำคัญสำหรับผิวอย่าง Niacinamide ที่ช่วยเรื่องบำรุงผิวอย่างครบวงจร ตั้งแต่งลดริ้วรอยและรอยแผลเป็น ลดอาการแดงและอาการระคายเคือง รวมถึงช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (ceramide) ที่ช่วยให้ผิวกระชับและชุ่มชื้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เรียกได้ว่าเป็นคุณสมบัติเด่นหนึ่งที่อยู่ในเทคโนโลยี GentleBright ของเซตาฟิลค่ะ
อ่านสรรพคุณเราก็มาที่ส่วนของเนื้อครีมบ้าง มีความเป็นครีมที่ไม่หนาไม่บางจนเกินไป เหมาะสมกับการเป็นครีมบำรุงผิวสูตรกลางคืน แต่ที่ดีงามอีกอย่างคือพอเกลี่ยแล้วเนื้อเค้าจะบาง แต่ซึมซาบได้รวดเร็วทั่วใบหน้า โดยไม่ทิ้งความเหนอะหนะกวนใจแบบครีมเนื้อหนักตัวอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เรานอนอย่างสบายใจ ดขึ้นค่ะ เรื่องกลิ่นหรือการระคายเคืองอะไรเราไม่รู้สึก เลยคิดว่าน่าจะใช้ได้ทุกสภาพผิวนะคะ
หลังจากการใช้ตัวนี้มาประมาณ 5 วัน แม้จะยังไม่เห็นผลลัพธ์อะไรในส่วนของริ้วรอยชัดเจนนักแต่เรารู้สึกว่า ผิวเราอิ่มและเนียนขึ้นในตอนเช้า บำรุงครีมและทาแป้งไปข้างนอกแต่ละวัน รู้สึกผิวดูไม่โทรม และผิวก็ไม่แห้งทั้ง ๆ ที่ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง เลยคิดว่าน่าจะมีส่วนช่วยบ้างค่ะ
สำหรับตัวนี้ราคาอยู่ที่ไม่เกิน 1500 / กระปุก ถือว่าราคาดีเลยนะ เมื่อเทียบกับส่วนประกอบที่ได้รับในการบำรุงผิว น่าซื้อค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส,คุ้มราคา,ซึมซาบเร็ว,ชุ่มชื้น,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
สำหรับ VICHY Mineral 89 ที่ได้รับจากเว็บไซต์ cosmenet นี้ มาในแพคเกจจิ้งรูปหลอดใส ใช้งานได้ง่าย เนื้อของผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อใส มีความหนืดพอดี ๆ สัมผัสแรกคือรู้สึกเย็นผิว ถ้าเกิดใครเคยใช้ตัวเซรั่มที่เป็นเนื้อเจลลี่จะให้ความรู้สึกแบบเดียวกัน
ในส่วนของกลิ่น พูดตามตรงว่าไม่รู้สึกเท่าไหร่ซึ่งก็คิดว่าน่าจะดีกับผิวเรา
สัมผัสแรกเมื่อทาไว้บนหน้าเรารู้สึกว่าเค้ามีความ rich ในที่นี้คือเหมือนกับ มีน้ำซึมเข้าไปในผิวของเรา พออ่านส่วนประกอบแล้วพบว่าตัวนี้โดดเด่นในเรื่องของการเติมเต็มน้ำให้ผิวเพิ่มความยืดหยุ่นและเติมเต็มผิวด้วย hyaluronic เข้มข้น แม้ว่สแบรนด์จะบอกว่า เหมาะสำหรับใช้เพื่อเตรียมผิวในการรับการบำรุงขั้นต่อไป(แบบที่เรียกว่าเป็นพรีเซรั่ม) ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้าใครไม่ได้มีปัญหาผิวมาก ใช้ตัวนี้ตัวเดียวและบำรุงผิวต่ออีกสัก 1 ขั้นตอนก็จบได้นะ ใช้ตอนเช้าก็ไม่ติด น่าจะซึมซาบเร็วมาก
หลังจากใช้มาสักระยะ เรื่องริ้วรอยไม่แน่ใจเท่าไหร่เพราะบางวันก็หน้ายับ บางวันก็ไม่ 55555 แต่ที่รู้สึกเลยคือผิวยืดหยุ่นดี ถ้ามีรอยย่นก็เด้งกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิมได้อาจจะไม่เต็มร้อยแต่ก็รู้สึกว่ารอยน้อยลงเหมือนกันนะ
หลอดนี้ใช้ได้ประมาณ 6-7 วัน ก็รู้สึกโอเคนะผิวนิ่มดีเด้งดี ระยะยาวก็น่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้ค่ะ
โดยสรุปคิดว่าตัวนี้ก็น่าจะเป็นเซรั่มอีกตัวนึงที่ควรมีติดบ้านไว้ หรือถ้าคิดไม่ออกว่าจะใช้อะไรตัวนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ชุ่มชื้น,ซึมซาบเร็ว,ผิวนุ่มเด้ง,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
สิ่งที่เรารู้สึกว่าแบรนด์ทำได้ดีขึ้นคือเรื่องของแพคเกจจิ้งที่มีการทำแยกชั้นระหว่างพัฟกับตัวแป้ง และตลับสีขาวดูน่าใช้ อัพลุควัยรุ่นขึ้นเยอะ ชอบที่คอสเมเนตติด QR มาส่องดูรายละเอียดสินค้าได้เลย
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ควบคุมความมัน,เฉดสีหลากหลาย,คุ้มราคา
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
มาดูกันในส่วนประกอบก่อนแล้วกัน คนเป็นสิวน่าจะคุ้นเคยกับสารประกอบพวก Salicylic Acid ที่ช่วยสลายสิวอุดตัน/ ดการสะสมแบคทีเรียและพวก Glycolic Acid ตัวช่วยลดความรุนแรงของสิว รวมถึง LHA ที่เป็นสารที่นิยมใช้ในการสลายสิวอุดตันและผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพบนชั้นผิวที่เกิดขึ้นหลังจากที่สิวหายไปแล้ว แต่ตัวนี้เค้ามีอีกสองตัวที่เรารู้สึกว่าน่าสนใจคือ Niacinamide ตัวช่วยสารพัดประโยชน์ในการฟื้นฟูผิว ไม่ว่าจะเป็น ลดรอยดำรอยแดง คุมมัน และกระตุ้นการผลิต ceramide ที่ทำให้ผิวแลดูกระชับและชุ่มชื้นขึ้น แน่นอนว่าเมื่อผิวเราสมบูรณ์มันก็จะฟื้นฟูตัวได้รวดเร็ว และแข็งแรงขึ้นอีกด้วย และยิ่งมาจากลาโรช โพเซย์ ก็ต้องมีน้ำแร่ธรรมชาติสูตรเฉพาะของแบรนด์ที่ได้ชื่อว่าช่วยปลอบประโลมผิวให้ชุ่มชื่นสดใสไปอีก สุดจะปังค่ะแม่!!
ต่อมาคือ texture ตัวที่เราได้รับจะมาในแพคเกจจิ้งหลอดเล็ก ๆ ซึ่งต่างกับขนาดจริงที่เป็นขวดและมีดรอปเปอร์ ทำให้ตอนเริ่มใช้ออกจะกะปริมาณไม่ถูกสักเท่าไหร่เนื่องจากตัวเซรั่มค่อนข้างเหลว แต่พอเริ่มใช้ไปสักสองสามครั้งก็จะเทได้ถูกทิศทางมากขึ้น ไม่ไหลไปตามมือแล้ว แต่จะว่ามันเหลวจนหกเลอะเทอะก็ไม่ใช่ เพราะเค้ามีความเข้มข้นแบบที่สามารถชโลมไปกับผิวหน้าได้อย่างเหมาะสม
หลังจากเช็ดหน้าและทาโลชั่น/น้ำตบ เราใช้ตัวนี้ทาวนให้ทั่วใบหน้า เนื่องจากเนื้อของเซรั่มมีความบางเบาทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้แรงกดเพื่อให้มันซึมเข้าผิว นึกภาพตามคือเราแค่เอามือลูบ ๆ ไล้ ๆ บนหน้า โดยไม่ต้องออกแรงอะไรมาก ก็รู้สึกได้เลยว่าเนื้อเซรั่มเกาะและซึมลงบนผิวลงเรียบร้อย โดยที่ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้าแต่อย่างใด
ในวันแรกที่ใช้จากภาพรีวิวจะเห็นว่ามีรอยสิวช้ำ ๆ อยู่ตรงมุมปาก สารภาพว่าเกิดจากการแกะจนกลายเป็นแผลเปิด เวลาทาโลชั่นหรือครีมทาสิวคือแสบมาก แต่พอใช้ตัวนี้ทาลงสัมผัสบนผิวที่เป็นแผลของสิว ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกแสบร้อน กลับกันเรารู้สึกว่าผิวเราเย็นขึ้น พอทาทั่วหน้า ก็เหมือนกับผิวเราเนียนเรียบ ไม่แห้งเอี้ยดอ้าดเลย ซึ่งเป็นฟีลลิ่งที่ดีมาก ๆ เราสามารถลงครีมบำรุงผิวขั้นตอนต่อไปได้เลย ส่วนในตอนเช้า เราใช้ตัวนี้แล้วก็ทากันแดดตาม แต่งหน้าได้ ไม่หนักหน้าเลย เลิฟมาก
จากนั้นเราก็ใช้ตัวนี้บำรุงผิวเช้าเย็น โดยอยู่ในขั้นตอนก่อนลงกันแดด และ ก่อนลง night cream ในวันที่ 4 เราได้เขี่ยหัวสิวออกไป และใช้เซรั่มตัวนี้ต่อ ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าหลังจากนั้นประมาณ 4 * 5 วัน รอยที่เกิดขึ้นจากการบีบแคะสิวของเราลดลงอย่างเห็นได้ชัด และผิวหน้าก็มีความเรียบเนียนขึ้น จับหน้าไปคือเนียนขึ้นจนรู้สึกได้ คือแบบพึงพอใจกับผลลัพธ์เป็นอย่างมากกกกกกกอไก่ล้านตัว ที่สำคัญคือจับ ๆ ไปบนผิวที่เป็นสิว ปกติจะมีไต ๆ บางอย่างที่เรารู้สึกว่าอีกหน่อยอาจจะรีเทิร์นกลับมาเป็นสิวอีก รอบนี้ไตนั้นมันเล็กลงกว่าครั้งก่อน ๆ รอบแผลที่แกะสิวก็ไม่เป็นขุย ไม่แห้ง ดูผิวสม่ำเสมอกันมากขึ้นกว่าครั้งก่อน ๆ สิบคะแนนให้บ้านลาโรชไปเล้ยยยยยยยยยยยยย
และนี่ก็คือผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลองใช้ La Roche Posay Effaclar Ultra Concentrated Serum น่าจะช่วยในการตัดสินใจของเพื่อน ๆ ได้บ้าง เพราะสำหรับเรา ปลื้มมาก ต้องถอยขวดจริงเท่านั้น เจอกันจ้ะลาโรช
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : ใช้ซ้ำ
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส,ชุ่มชื้น,ผิวนุ่มเด้ง,ฟื้นฟูสภาพผิว,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ผิวเรียบเนียน,ซึมซาบเร็ว
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ส่วนตัวเลยถูกใจแพคเกจจิ้งก่อน สีสันน่ารัก
เห็นเค้าบอกเป็นสูตรสำหรับคนเป็นสิว พอดีช่วงที่ใช้ไม่ได้สิวเยอะเท่าไหร่ เลยไม่แน่ใจประสิทธิภาพด้านสิวมากนัก แต่ที่ชอบคือเนื้อสัมผัสใส ๆ อ่อนโยน ๆ ไม่ระคายเคืองผิวหน้า แต่พอล้างหน้าแล้วผิวดูไบรท์ขึ้นนิดนึง ไม่ทิ้งความมันหรือทำให้ผิวเอี๊ยด ขนาดที่ได้รับจากกิจกรรมเป็นขนาดพกพา นี่เอาไปฟิตเนสทุกวันเลย ชอบมาก ๆ ราคาก็น่ารัก หมดก็น่าจะซื้อติดกระเป๋าไว้เลยแหละ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ชุ่มชื้น,พกพาสะดวก,อ่อนโยน,ทำความสะอาดได้ดี,คุ้มราคา
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
เริ่มจากแพคเกจจิ้งค่ะ สีชมพูหวานแหววน่ารักตามสไตล์ อะไรก็ดีสำหรับเราแอบคิดว่ามันใหญ่เกินความจำเป็นไปนิดนึง ปกติชอบพกโรลออนไปฟิตเนส น้องคนนี้กินที่ค่ะ T_T เสียดายจัง
ที่ว่าเสียดายเพราะว่าโรลออนรุ่นนี้ ดูจากชื่อก็น่าจะเดาพอได้ว่าเกี่ยวกับการโกนขนรักแร้ปัญหากวนใจสาว ๆ หลายคนนั่นเอง ซึ่งเราเองก็เป็นหนึ่งคนที่ชอบโกน แวกซ์ เลเซอร์ขนรักแร้เป็นประจำ ตอนใช้ขวดนี้เพิ่งแวกซ์มาไม่นาน ยิ่งส่วนตัวเป็นคนแพ้โรลออนบางชนิด (เช่นแบบครีมเซรั่ม บางยี่ห้อเราจะใช้ไม่ได้เลยเพราะจะแสบและคันตลอดทั้งวัน) แต่ว่าตัวนี้เราสามารถใช้หลังการแวกซ์ขนตั้งแต่วันแรกได้เลย ไม่มีคัน ไม่ระคายเคือง กลิ่นหอมแป้งสดชื่นมาก ๆ ค่ะ ตัวหัวโรลออนก็ดีลื่นปริีดดดดไม่ฝืดแต่อย่างใด แต่ข้อเสียนี้ดนึงคือน้องแอบแห้งช้าไปหน่อย ทาแล้วต้องรอสักพักถึงจะแห้งสนิท รีบทารีบใส่เสื้อผ้าก็อาจจะแอบเหนอะได้ค่ะ
โดยสรุปก็ถือว่าน้องโอเคนะคะ ให้ความรู้สึกสดชื่นตลอดวันดี ราคาก็น่าคบหา ถ้ามีทำขนาดเล็กพกพาก็น่าซื้อติดกระเป๋าค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม,อ่อนโยน,ไม่ระคายเคือง,ใช้งานง่าย,ระงับกลิ่นระหว่างวัน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
มาในส่วนแพคเกจ เปลี่ยนแปลงไปจากสมัยที่เคยใช้นั่นคือเค้าเป็นหลอดใหญ่ ๆ ฝาจุกสีขาว(คล้ายยาสีฟันเลย) เนื้อเจลเป็นสีเขียว ๆ กลิ่นเหมือนเดิม (คิดเองว่าน่าจะ)เป็นกลิ่นสะอาดถูกหลักอนามัยดี สัมผัสเนื้อเจลปาดง่าย ทิ้งไว้สักพักจะเป็นฟิล์มบาง ๆ เคลือบบนผิว เหนียวนิดหน่อย ต้องทิ้งไว้ให้แห้งสนิทถึงจะลงครีมอื่นหรือลงแป้งได้ ไม่งั้นปนกันหมด
ประสิทธิภาพ อย่างที่บอกไปในภาพว่าต้องใช้เวลา คือมันจะมียาแต้มสิวบางยี่ห้อที่เจ็บ ๆ แดง ๆ วันนี้ ปาดคืนเดียวยุบ แต่เข้าใจว่าน่าจะทำร้ายผิวพอสมควรเพราะตอนทาจะแสบมาก ซึ่ง Mentholatum Acnes Sealing Jell เค้าไม่ได้ทำให้รู้สึกแสบ แต่จะเป็นความรู้สึกเย็น ๆ จากเนื้อครีมที่เป็นฟิล์มมากกว่า ซึ่งสิวที่เราเป็นตรงแก้ม(ที่วงไว้) เป็นสิวแบบไม่มีหัวแต่กดแล้วเจ็บนิดหน่อย พอใช้ตัวนี้โปะสี่วันสี่คืนก็ยุบลง แต่ใต้ผิวยังมีไต ๆ และมีรอยดำเล็กน้อย (แบบที่วงไว้อีกรูป) ซึ่งก็ถือว่าใช้ได้ แต่ยังไม่ที่สุด เลยให้สี่ดาวเพราะจุดนี้
อย่างไรก็ตามถ้าเทียบกันในท้องตลาด น้องก็เป็นเจลแต้มสิวที่โอเคนะ ราคาย่อมเยาว์ หลอดใหญ่ใช้ได้นาน เนื้อครีมอาจจะต้องทิ้งไว้นานหน่อยแต่แต่งหน้าทับได้ ไม่ระคายเคือง มีติดบ้านไว้ก็ดีจ้าาาา
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ผิวไม่แห้งเป็นขุย,คุ้มราคา,ไม่ระคายเคือง,ซึมซาบเร็ว,รักษาสิว,ใช้งานง่าย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระชับรูขุมขน,กระจ่างใส,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ซึมซาบเร็ว,ชุ่มชื้น,คุ้มราคา
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
เราใช้หลังออกกำลังกายที่ฟิตเนส ชอบที่เค้าขึ้นฟองได้ไว นุ่ม และเนียนกับผิวมาก ๆ ตอนล้างออกก็ล้างง่าย และไม่ทำให้เกิดความรู้สึกหน้าเอี๊ยด ซึ่งถือว่าเป็นคุณสมบัติที่เราชอบมาก ๆ ค่ะ และหลังจากล้างโฟมแล้ว ก็ไม่มีสีของเมคอัพหรือความสกปรกใดตกค้างมากนัก แถมผิวก็ยังนุ่ม ๆ ไม่แห้งจนเกินไป
ในแง่ของการดูแลรักษาสิวอาจจะบอกอะไรไม่ได้มาก แต่ไม่ได้ทำให้แสบหัวสิว หรือกระตุ้นให้สิวเห่อเหมือนโฟมล้างหน้าบางตัวนะคะ น้องก็จะยุบไปตามวันเวลาที่มัสมควรจะยุบตามปกติค่ะ
ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดนี้อาจกล่าวได้ว่า SENKA Perfect Whip Acne Care ถือเป็น Budget Face Wash ที่เหมาะจะใช้ในทุก ๆ วัน ราคาไม่สูงมาก ฝาปิดปิดสนิทพอดี พกพาได้สะดวกค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : อ่อนโยน,ไม่มีสารตกค้าง,พกพาสะดวก,ทำความสะอาดได้ดี,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ล้างออกง่าย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ส่วนตัวติดใจกันแดดของ KA ตั้งแต่ตัวที่เป็น COVER Protection นับว่าเป็นกันแดดราคากลาง ๆ ใช้พกพาไปไหนต่อไหนได้ค่อนข้างสบายใจ และช่วยคุมมัน ไม่ทำให้หน้าหมองคล้ำระหว่างวันด้วย พอรุ่นนี้เหมือนเป็นตัว Power Up ตามคำโปรยของเค้าคือ "กันแดดที่บางเบาที่สุดที่ (KA) เคยมีมา โฮ่ น่าสนใจ
มาดูจากหลอดกันเลย เทียบจะ ๆ ระหว่าง COVER PROTECTION แถบส้ม ที่ชูจุดเด่นคือการเบลอรูขุมขนให้ผิวแลดูเรียบเนียน สำหรับ UV WHITENING SOFT CREAM SPF50+ PA++++ (ชื่อยาว) นับว่าคุณสมบัติใกล้เคียงกัน แต่อาจจะไม่ได้เน้นในเรื่องปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนจนเห็นได้ชัดแบบรุ่นก่อน รุ่นนี้จะให้ผลลัพธ์แบบผิวจริงมากกว่า แต้ข้อได้เปรียบอย่างเช่น ความบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ ไม่อุดตันนั้น เรารู้สึกว่าตัวนี้ทำได้ดีกว่า เพราะความที่เป็นเนื้อ soft cream เค้าก็จะมีความเหลวกว่า และเมื่อเกลี่ยลงผิวก็ให้ความรู้สึกว่ามันซึมซาบลงไปในชั้นผิวได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับรุ่นเก่า
ในส่วนประสิทธิภาพกันแดดเราคิดว่าใกล้เคียงกัน คือออกแดดพอได้ ไม่แสบหน้า หยิบมาทาซ้ำ ตัวนี้อาจจะได้เปรียบกว่าอีกนิดเพราะเนื้อบางเบากว่า รวมถึงการคุมความมัน ตัวนี้ไม่ค่อยทำให้ผิวหน้ามัน เลยไม่รู้สึกเหนอะหนะอะไรระหว่างวัน โดยสรุปคือค่อนข้างโอเค มีให้เลือกหลายขนาดหลายราคา
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : อ่อนโยน, ชุ่มชื้น, ควบคุมความมัน, กันแดดได้ดี, ไม่เหนอะหนะ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
SENKA รุ่นสีฟ้าสดใส ภายใต้ชื่อ Senka Deep Moist Lotion II จุดเด่นของรุ่นนี้ก็น่าจะเป็นความชุ่มชื้นและอ่อนโยน(มากกกกก) หลังจากที่ได้ทดลองใช้ Cleansing Gel ไปเราคิดว่าพลังขจัดต่าง ๆ อาจจะสู้รุ่นพี่อย่าง Whip Foam ไม่ได้เท่าไหร่ เพราะน้องนางอ่อนโยนเบาบางเหลือเกิน
แต่สำหรับตัว Senka Deep Moist Lotion II ตัวนี้ค่อนข้างโอเคสำหรับเรา เนื่องจากเค้าเป็นโลชั่นสไตล์ Water Lotion ที่มีคุณสัมบัติเฉพาะตัวคือ เหลว เกลี่ยง่าย ซึมซาบเร็ว และไม่ทำให้เกิดการเหนอะหนะ/ระคายเคือง สังเกตเนื้อผลิตภัณฑ์มีความเหลวแต่ไม่ไหลไปตามแขน คงรูปอยู่พอสมควร และเมื่อเกลี่ยก็ซึมซาบลงบนผิวอย่างรวดเร็ว โดยให้ผลลัพธ์เรื่องของความชุ่มชื้นบนผิวได้อย่างทันที สังเกตจากภาพคือ ข้างที่ทาแล้วดูฉ่ำกว่ามาก ๆ แต่ไม่มีความรู้สึกมัน เหนอะหนะ หรือมีอะไรติดอยู่บนผิวเลย กลิ่นก็อ่อนมาก ๆ บางทีเหมือนนม ๆ นิดนึงแต่ไม่แน่ใจว่าจมูกเพี้ยนไปรึเปล่า ก็นับว่าดี เพราะทำให้รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์บริสุทธิ์ดีมาก
ในแง่การใช้งานก็น่าจะเหมาะกับการบำรุงพื้นฐาน สำหรับคนผิวขาดน้ำ ใช้เป็นประจำน่าจะดี แต่ส่วนตัวคิดว่าคงต้องใช้เซรั่มหรือครีมอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่การบำรุงขั้นกว่า
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : อ่อนโยน, ชุ่มชื้น, ไม่เหนอะหนะ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
สำหรับ Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Age Defense SPF50+ PA+++ หลอดนี้ เป็นกันแดดที่ค่อนข้างคุ้มในความคิดของเรานะ
ปกติแล้วเคยใช้สูตรที่เป็นสูตรเย็นหรือสูตรเพิ่มความขาวจริง ๆ ก็ชอบทั้ง 2 อันนั่นแหละ แต่เรารู้สึกว่าหลอดนี้มันมีความพิเศษกว่าอีก 2 หลอดอยู่
ตอนทดสอบ เราเอามาทากันแดดตอนไปวิ่งที่สวน ตัวเนื้อของเขาก็ยังคงความซึมซาบเร็วมีกลิ่นหอมแล้วก็ไม่ติดขนตามแบบฉบับของ Biore แต่ตัวนี้เนี่ย เหมือนช่วยทำให้ตัวเราแห้งๆ เลยทำให้เราไม่แน่นะไปด้วย ซึ่งก็ถือว่าดีนะ
ประสิทธิภาพการกันแดดอาจจะยังวัดอะไรไม่ได้มากถ้าเทียบกับครีมกันแดดแท้ๆเลยก็อาจจะสู้ไม่ได้ แต่สำหรับการกันแดดในชีวิตประจำวันหรือวิ่งในสวนสาธารณะหลอดนี้ก็น่าจะเพียงพอไม่เหนอะหนะ ไม่ติดผิว ค่อนข้างโอเคเลยค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้, ชุ่มชื้น, กันแดดได้ดี, กันน้ำ/กันเหงื่อ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
สวัสดีชาว cosme*net ค่ะ สำหรับวันนี้เราได้สินค้าตัวนี้มารีวิว SENKA Perfect Gel Gentle Wash น้องเป็นเจลล้างหน้าจากค่ายเซนกะ เครือชิเซโด้ที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือตัววิปโฟมหนานุ่มตัวดังนั่นเองงงงง ซึ่งส่วนตัวเราแอบไม่ค่อยถูกกับวิปโฟมเซนกะเท่าไหร่ เนื่องจากผิวเราค่อนข้างแห้งภายใน ใช้วิปโฟมเค้าจะผิวแอบแห้ง ๆ เอี๊ยด ๆ ค่ะ เมื่อก่อนอาจจะพอไหวแต่เดี๋ยวนี้อาจจะต้องห่างกันสักพัก แต่นาน ๆ ใช้ทีก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
สำหรับตัวนี้ ชื่อก็บอกว่าเป็นเจลวอช เนื้อเจล มาในแพคเกจจิ้งสีฟ้าสดใสดูน่าใช้ สะอาดมาก ๆ เปิดฝาบีบออกมาก็สมชื่อเลยค่ะ เนื้อเจลใสบริสุทธิ์ ไม่เหลว แต่ก็ไม่เหนียวเหนอะ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ก็ดูน่าใช้ดีนะคะตอนเกลี่ยก็ยังรู้สึกนะว่าเออ เนื้อเค้าลื่น ๆ ดีเนอะ พอผสมน้ำนั่นแหละ รู้เรื่องงง คือน้ำกับเนื้อเจลนางผสมผสานแทบจะเป็นหนึ่ง มองแทบไม่เห็นว่าไหนเนื้อเจล ไหนน้ำค่ะ ซึ่งพอมาลูบกับหน้าก็แอบสับสนว่า ชั้นเอาแต่น้ำมาถูหน้ารึเปล่า เพราะน้องเนื้อเนียนมาก ข้อดีคือเรารู้สึกว่าตัวเจลเค้าอ่อนโยนมากจริง ๆ ไม่มีอะไรเสียดสีกับหน้าเลย และบางเบามาก ๆ แต่ข้อเสียคือเราจะสับสนเล็กน้อยว่านี่คือการทำความสะอาดหรือเปล่านะ ซึ่งพอถู ๆ นวด ๆ ไปสักพักก็ล้างออกด้วยน้ำ สารภาพเลยว่าไม่แน่ใจว่าน้องหลุดออกหมดหรือยัง เป็นการล้างหน้าที่สับสนพอสมควรค่ะ
แต่ผลลัพธ์จากการล้างหน้าก็คือ ผิวเรานุ่มเนียนนะ แม้ว่าในแง่ของความสะอาดจะไม่ได้เห็นชัดเจน (คือลืมแปะรูป เราเช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่งยังมีรอยดำ / รอยแป้งติดออกมา เลยต้องล้างหน้าด้วยโฟมซ้ำอีกรอบ) แต่คิดว่าตัวนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบใช้อะไรอ่อนโยนล้างหน้า อย่างของเราพบว่าตัวนี้เหมาะมาก ๆ สำหรับการใช้ในตอนเช้า ที่เราต้องการความสดชื่น และอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว คือมันทำให้หน้าเรานิ่ม ๆ เนียน ๆ ทาเซรั่ม ทากันแดดอะไรต่ออะไรเหมือนมันซึมซาบดีกว่าเวลาเช็ดหน้าแห้ง ๆ หลังจากใช้โฟมตัวอื่นนะคะ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่โดยสรุปก็คืออาจจะไม่ใช่ตัวทำความสะอาดที่ให้ผลลัพธ์ด้านความสะอาดแบบที่คาดคิด คนติดใจฟองโฟมอาจไม่ค่อยปลื้ม แต่ในแง่ความอ่อนโยน และทำให้ผิวนุ่มเนียน ก็ช่วยได้มากจริงๆ หรือถ้าใครกังวลเรื่องฟองเข้าตาล่ะก็ ตัวนี้ล่ะตอบโจทย์ค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : อ่อนโยน, ชุ่มชื้น, ล้างออกง่าย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
ปกติเราจะชินผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นเต่าแบบที่เป็นลูกกลิ้งหรือแป้งอัดแข็ง แป้งโรย ใด ๆ ก็ตามแต่ แต่ตัวนี้เรียกได้ว่าปฏิวัติวงการดับกลิ่นเต่ากันไปเลย เพราะนางเป็นเซรั่มดูแลผิวใต้วงแขนจากวาสลีน Vaseline Dry Serum Ultra Whitening ชื่อบ่งบอกสรรพคุณชัดเจน ทั้งแห้ง เป็นเซรั่ม เพิ่มความขาวกระจ่างใส
ตัวบรรจุภัณฑ์ อันนี้เราชอบมากเพราะน้ำหนักเบา พกไปไหนมาไหนสะดวก เปิดฝาออกมา บีบนิดนึงก็ทาได้ทั่ว สามารถใช้งานได้ง่ายมาก ๆ เรามีกิจวัตรคือไปฟิตเนส ดังนั้นก็จะค่อนข้างกังวลกลิ่นตัว และเรื่องของเหงื่อใต้วงแขน ปกติเวลาใช้โรลออนรุ่นอื่น ๆ ก็แอบกังวลเรื่องความเหนอะหนะ แต่หลอดนี้นอกจากจะใช้งานง่าย ยังแห้งเร็ว แถมยังทำให้รู้สึกใต้วงแขนแห้งสบายตลอดการออกกำลัง อาจจะมีเหงื่อออกบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเหนอะหนะ ส่วนเรื่องของกลิ่นก็ให้ความรู้สึกสะอาดมาก ๆ ที่สำคัญคือตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ ไม่เลอะเทอะหรือเป็นคราบเปื้อนบนเสื้อผ้าด้วย
ในส่วนความขาว เราไม่ค่อยแน่ใจผลลัพธ์ แต่ตอนยกแขนขึ้นส่องก็รู้สึกว่ามันไม่ดำกว่าสีผิวปกติของเรา ก็ถือว่าน่าจะโอเค
โดยรวมเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าใช้ดี แต่สำหรับเราจะต้องหยุดใช้หลังจากที่ไปโกนขนจั๊ก คิดว่าน่าจะโกนแล้วมีแผลนิดหน่อย พอเวลาทาเซรั่มตัวนี้ไปตกบ่ายจะแอบมีอาการคันนิดหน่อย คิดว่าน่าจะเป็นเพราะผลิตภัณฑ์เขาทำให้วงแขนเราแห้งสะอาด แต่อาจจะระคายเคืองคนที่เป็นแผลบริเวณวงแขนนิดนึง คิดว่าต้องรอสักพัก เดี๋ยวกลับไปใช้ใหม่ค่ะ T__T
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เคยใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ใช้งานง่าย, ไม่เหนอะหนะ, ระงับกลิ่นระหว่างวัน, ไม่เป็นคราบ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
หน้าร้อนแบบนี้เราก็คงต้องการอะไรที่มันสดชื่น ๆ แม้ว่าจะต้อง WFH ก็ตาม ซึ่งสบู่ Parrot Natural Hyaluron Vitamin C&E สบู่เหลวนกแก้วสูตรสีส้มเนี่ย ก็ตอบโจทย์เราแทบทุกประการ ให้ไปเลยสามผ่าน +++
อันดับแรก จากที่เคยใช้ขวดสีชมพู (Morning Peony) ซึ่งจุดเด่นมาก ๆ คือกลิ่นที่หอมฟุ้งขจรกระจายมาก ๆ แอบเกรงใจคนใช้ห้องน้ำต่อจากเรา เพราะกลิ่นเค้าคงทนแข็งแรงจริง ๆ จนแอบฉุนในบางที คราวนี้รุ่นนี้ เป็นกลิ่นส้มสดชื่น ส่วนตัวเราว่าโอเคขึ้นมาก ๆ เพราะคนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่ากลิ่นสไตล์นี้ให้ความรู้สึกสดชื่น สบาย มากกว่ากลิ่นสไตล์ดอกไม้ อันนี้ผ่านมาก ๆ จุดที่หนึ่ง
อันดับต่อมา เรื่องของ texture ยังคงดีงามตีฟองง่ายเช่นเคย แบบไม่ใช้ตาข่าย ขยำ ๆ กับน้ำสักครู่ก็ขึ้นฟองแล้ว ลูบไล้บนผิวเปียกน้ำนิด ๆ ก็ลื่น ถูตัวได้สบาย และยิ่งใช้ฟองน้ำตีนะ โอ้โห ฟองขึ้นเป็นลูก ๆ ลูบผิวนิ่มมาก อันนี้ผ่านที่สอง
ผ่านที่สาม เนื่องจากว่าช่วงนี้อาศัยอยู่กับบ้าน ทำงานที่บ้านทั้งวัน เปิดแอร์ทั้งวันก็อาจจะรู้สึกกลัวเปลืองไฟ พอว่าง ๆ (ขี้เกียจ) เมื่อไหร่ ก็จะไปอาบน้ำให้ตัวเย็น ๆ ซึ่งสบู่เหลวขวดนี้ก็สามารถล้างน้ำออกได้ง่ายมาก ๆ รู้สึกผิวสะอาดมาก ตอนที่ล้างเสร็จใหม่ ๆ แอบรู้สึกเอี๊ยด ๆ ที่ผิว เหมือนผิวเราจะแห้ง แต่พอเช็ดตัว นั่งพัก ตัวก็ยังเย็น ๆ แต่ผิวกลับไม่รู้สึกแห้งผากอย่างที่คิด ทาครีมโลชั่นบำรุง อยู่ในห้องแอร์ก็ผิวไม่แห้งตึง ก็ขอให้ผ่านอีกหนึ่งข้อ
โดยสรุปเป็นสบู่เหลวที่เหมาะมากสำหรับช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ควรมีติดบ้านไว้ค่ะ ถ้าแบรนด์ทำโลชั่นกลิ่นนี้ เราซื้อนะ ชอบ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : สดชื่น , กลิ่นหอม, ล้างออกง่าย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
Mask ตัวดังของ Kose ตัวนี้ ใช้มาเป็นหลอดที่ 8 แล้วมั้งตั้งแต่เริ่มรู้จักเครื่องสำอาง ขออนุญาตลงภาพที่อาจจะดูน่ากลัวสักนิด แต่จะบอกว่ามันเป็น mask ชนิดทาแล้วลอกออกที่ลอกสิวเสี้ยนที่ดีมากสำหรับเรา ข้อเสียอย่างเดียวคือตัวเนื้อโคลนสีดำตอนทากับตอนที่ลอกชอบเหนอะติดมือ ตอนลอกเศษก็ติดหน้า แต่ผลลัพธ์คือสะใจมากจริงๆสิวเสี้ยนขาวๆหลุดออกมาเป็นตอเลย วิธีใช้ที่ดีคือทาให้หนาๆหน่อยแล้วทิ้งไว้ให้แห้งแต่อย่าแห้งเกินไปเพราะตอนดึงมันจะดึงขนหน้าเราออกมาด้วยซึ่งเจ็บมาก พอใช้เสร็จหน้าจะดูเรียบเนียนขึ้น รู้สึกขาวขึ้นนิดหน่อ บำรุงผิวต่อก็ชุ่มชื่นขึ้นมาก อยากจะรวยมากๆ อันนี้ซื้อที่ Lazada ตอน Birthday sale ราคา 500 กว่าบาทเองของแถมเพียบ ยกให้เป็นที่ 1 เลยหลอดเน้
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : ใช้ซ้ำ
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส, กลิ่นหอม, กระชับรูขุมขน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : ชอปปิ้งออนไลน์
เคยประทับใจกับตัวแป้งของยี่ห้อนี้มาก่อน ทั้งแป้งฝุ่นแล้วก็แป้งตลับ พอรู้ว่ามีครีมก็สนใจมาก ครีมกระปุกนี้ แพคเกจจิ้งดูดีมากเป็นกระปุกแก้วสีแดง(แอบนึกถึง innisfree รุ่นสีแดงเลยแหละ) เปิดกระปุกมา มีฝาล็อค ดู สะอาดสะอ้านมาก
สำหรับตัวเนื้อครีมมีความเป็นเจลครีมที่ซึมซาบค่อนข้างเร็ว แต่ตัวนี้พอทาไปแล้วไม่ได้ซึมลงไปแบบหายไปเลย แต่ยังคงความชุ่มชื้น ทานแล้วผิวเย็นๆ ยังไม่ได้ใช้จนเห็นผลอะไรนักแต่รู้สึกว่าค่อนข้างใกล้เคียงกับ moisture surge ของ Clinique เพราะว่าใช้สลับกันไปมา กลิ่นหอมอ่อน ๆ ดี
ส่วนตัวที่ไม่ชอบอย่างเดียวคือ ปากกระปุกค่อนข้างแคบควักครีมมาใช้ยากค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ชุ่มชื้น, ใช้งานง่าย, คุ้มราคา, ซึมซาบเร็ว
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
Aveeno Skin Relief Moisturizing Lotion ตัวนี้เป็นบอดี้โลชั่นที่ เหมาะมากๆสำหรับคนที่อยู่ในห้องแอร์หรืออยู่ในที่อากาศเย็นเป็นประจำรวมถึงเป็นคนที่มีผิวแห้งมาก
ตอนแรกเราทาครีมตัวนี้แล้วก็เปิดพัดลม ส่วนตัวแอบรู้สึกว่ามันเหนอะเหมือนกันกว่าจะซึม หยิบจับของแล้วมือไม้ลื่นไปหมด แต่พอทาอยู่ในห้องแอร์ เงหรือช่วงที่ผิวเริ่มแห้ง ๆ เฮ้ยเขาซึมเร็วมาก พอทาไป อาการคันเป็นขุยเหมือนเวลาที่นอนห้องแอร์เย็นๆแล้วไม่ได้ทาครีมก่อนนอนไม่เกิดขึ้นเลยนะคะ แถมตื่นมาตอนเช้ายังรู้สึกว่าผิวนุ่มๆอีกด้วย
ในส่วนของความอ่อนโยน ด้วยความที่ตัวนี้เขาเคลมว่าไม่ได้มีน้ำหอม แต่กลิ่นจากธรรมชาติหอมอ่อน ๆ ดีค่ะ เราเอามาทาตรงบริเวณรอยสักปรากฏว่าไม่คันยิบๆเหมือนครีมบางตัวที่มีน้ำหอมด้วยนะ
โดยรวม : ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนผิวแห้งโดยกำเนิดแต่ถ้าเกิดอยู่ในที่อากาศแห้ง/เย็นบ่อย ๆ ก็ควรจะมีขวดนี้ติดเอาไว้นะคะมันเวิร์คจริง
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม, ชุ่มชื้น
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
เป็น Item ที่ขาดไม่ได้เลยทุกวันนี้
กลิ่นหอมสไตล์โอเล่สตอเบอรี่ มีความเย็นๆ
ซึมไวพกพาสะดวกไม่หกเลอะเทอะ
ได้มาจากเซเว่นเดี๋ยวนี้หาไม่ค่อยเจอแล้วถ้าเจออีกก็ต้องรีบตุน
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม, ชุ่มชื้น, ไม่ระคายเคือง
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : ร้านสะดวกซื้อ (7-11, แฟมิลี่ มาร์ท, ลอว์สัน)
ได้กระปุกจิ๋วนี้มาจากห้างในกัมพูชา ตอนแรกกะว่าเอามาใช้ แก้ขัดปรากฏว่าดีเกินคาดเมื่อไหร่ใช้ตัวนี้มารู้สึกเลยว่าฝากเราลอกน้อยลงมาก จากที่เมื่อก่อนจะมีอาการแบบนี้ค่อนข้างบ่อยแล้วว่าจะกินน้ำเยอะแค่ไหนก็ตาม ข้อดีคือมันตลับเล็กพกพาง่ายเอาไปไหนก็สะดวกดี แต่ข้อเสียคือ ป๋าปากค่อนข้างแคบ เอานิ้วควักไปเนี่ยพอถึงซักกลางตลับมันจะเริ่มยากละ เศษของวาสลีนก็แอบติดนิ้ว แต่โดยรวมโอเคกินโกโก้หอมๆดี
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ชุ่มชื้น, ดูเป็นธรรมชาติ, เรียบเนียน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : ซุปเปอร์มาร์เก็ต (โลตัส, บิ๊กซี, ท็อปส์, แม็กซ์แวลู, โฮม เฟรช มาร์ท)
เราขอเรียกตัวนี้ว่า Item กู้หน้าแบบฉุกเฉิน ได้เลย
ชอบเนื้อที่เป็นเจลใสอ่อนโยน พอผสมกับตัวเนื้อครีมที่เป็นลายดอกบัวมันเข้ากันดีมาก พอทาบนหน้า นอกจาก จะซึมซาบได้ค่อนข้างดีแล้วยังมีกลิ่นที่หอมมาก ๆ เรียกได้ว่าผู้ดีเลย ถ้าเคยใช้รุ่นที่เป็นสลิปปิ้งมาร์(กระปุกดำ)ตัวนั้นกลิ่นจะคล้ายๆกัน
วิธีใช้ค่อนข้างใช้เวลา ต้องทาบนหน้าทิ้งไว้ สัก 10-15 นาที เอาน้ำล้างหรือสำลีเช็ดก็ได้ ผลสุดท้ายหน้าเราจะฟูมากและนิ่มมาก เคยใช้วันที่นอนน้อยๆ ทาตัวนี้ โปะทิ้งไว้ พอล้างไปปุ๊บ แต่งหน้าอีกทีติดทนทั้งวัน! เวิร์คมาก
หักคะแนนอย่างเดียวคือราคาแรง
นอกนั้นชอบมากกกกกกกกกกกกกควรค่าแก่การลงทุนค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : ใช้ซ้ำ
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ลดริ้วรอย, กระจ่างใส, กลิ่นหอม, อ่อนโยน, ควบคุมความมัน, กระชับรูขุมขน, ช่วยให้ผ่อนคลาย, ลดจุดด่างดำ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : บิวตี้ชอป (อีฟ แอนด์ บอย, เซโฟร่า,แลชเชส)
ปกติเป็นสาวก Cleansing Oil อยู่แล้ว ชอบในคุณสมบัติทำความสะอาดและบำรุงแถมไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง ดังนั้นเมื่อมีกิจกรรมแบบนี้ เราเลยรีบไปรับมาอย่างรวดเร็ว น้องพนักงานน่ารักมาก ๆ ดูผิวหน้าเราแล้วก็หยิบขวดสีชมพูสดใสมาให้ พร้อมกับบอกว่า เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันทีโซนและรูขุมขน(อย่างพี่ - ที่น้องไม่ได้กล่าวแต่พี่เข้าใจ) เป็นที่สุด แม้ใจจะแอบเสียดาย อยากได้ตัว ultimate 8 ที่กำลังโปรโมท แต่พอได้รับมาใช้จริง กลายเป็นว่า ต้องขอขอบคุณน้องพนง (สาขาเอมโพเรียม) แทน เนื่องจากว่า POREfinist² Sakura Refreshing Cleansing Oil ขวดนี้เนี่ย เหมาะกับผิวเรามาก ๆ อย่างแท้จริง!
บอกก่อนว่าเราเป็นคนผิวมันทีโซน แต่งหน้าไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่ มีรูขุมขนกว้างขวางและเห็นชัดเจน
เจ้าขวดนี้ ด้วยความเป็นออยล์เนื้อเหลว ลูบไล้บนผิวง่าย ไม่ต้องนวดขยี้แรง บรรดาเครื่องสำอางที่เราโปะบนหน้าก็จับตัวกับเนื้อออยล์ได้อย่างง่ายดาย เหมือนแค่ลูบ ๆ วน พวกสีบนหน้าเราก็หลุดออกเกือบหมด คือมีความรู้สึกเลยว่าได้รับการชำระล้างออกไป นอกจากจะทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างรวดเร็วแล้ว เขณะที่เราหยอดน้ำ นวดน้ำมันจนกลายเป็นเนื้อน้ำนม เรารู้สึกเหมือนกำลังทาครีมบำรุงเบา ๆ แบบพวกเนื้อโลชั่น แต่ไช่ความรู้สึกที่ทำให้หนักหน้า รู้สึกสบายผิวมากกว่า
ด้วยความที่เราสงสัยว่า เอ๊ะ ที่นวด ๆ ไปนี่เครื่องสำอางออกมั้ย เลยเอาสำลีมาเช็ดหนึ่งปื้ด โอ้โห เต็ม ๆ หยดออยล์นวด ๆ ทั้งหน้าอีกรอบ นุยอมแล้ว พี่เค้าแน่มากจริงจ้าา
จากนั้น ทันทีที่ล้างหน้า ซึ่งก็ล้างง่ายมาก ไม่รู้สึกเหนอะหรือมีอะไรติดค้างบนผิวเลย เช็ดหน้าเสร็จมันเบาหน้ามาก พอส่องกระจกแบบ เฮ้ย ผิวเราเนียนเด้งและนิ่มมาก รูขุมขนที่ปกติจะชัดเจนหลังอาบน้ำล้างหน้าก็หายไป (ทั้งๆ ที่ล้างโฟมล้างหน้าตามปกติ) อันนี้คือแบบปลื้มมาก
อีกอย่างที่ชอบคือกลิ่น หอมมาก เหมือนเป็นพืชพรรณธรรมชาติดอกไม้นานาพันธุ์ อธิบายไม่ถูก แต่รู้สึกอ่อนโยนสุด ๆ
เอาจริงเอาจัง นี่คือคลีนซิ่งออยล์ที่ถูกใจเรามาก ๆ อีกขวด ขอเก็บเงินสักนิดแล้วจะไปไถ่ตัวนุมาใช้นะจ๊ะ เยิฟ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ทำความสะอาดได้ดี, เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้, ล้างออกง่าย, ไม่เหนอะหนะ, ไม่อุดตัน, พกพาสะดวก
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : แบรนด์ชอป
ก่อนอื่นต้องขอบคุณ cosmenet ที่จัดกิจกรรมให้สาว ๆ อย่างเราได้ทดลองเครื่องสำอางดี ๆ มาตลอด ขอบคุณมากเลยนะคะ ครั้งนี้เราได้รับโอกาสรีวิว CLINIQUE Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter ที่จะขอเรียกสั้น ๆ ว่า เซรั่มหน้าใส ตัวล่าสุดของคลีนิกข์แล้วกันค่ะ
ออกตัวก่อนว่าเราเองก็เป็นแฟนคลับคลีนิกข์มานาน (ตอนนี้ก็ใช้ moist surge,cleansing balm แถมยังมีเซรั่มปั๊มที่ยังไม่ได้แกะอีก XD) คงพอการรันตีได้ว่าหน้าเรากับคลีนิกข์ค่อนข้างไปด้วยกันได้ดีค่ะ ดังนั้นตอนอ่านสรรพคุณของเซรั่มหน้าใสตัวนี้ เราจึงมีแต่ความอยากรู้อยากเห็นอยากลองใช้ และมั่นใจว่าไม่แพ้แน่นอน
สำหรับตัว CLINIQUE Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter ดูจากส่วนผสมและสรรพคุณ เหมือนจะเน้นไปเรื่องการลดเลือนริ้วรอยเฉพาะจุด เป็นตัว Power Up ของสูตรเก่าที่เป็นหัวปั๊มแบบสองเนื้อครีมผสมกันนั่นเอง
ตัวทดลองที่เราได้มา มีขนาด 10 ml. ซึ่งถือว่ากำลังดีกับการพกพา และใช้งานได้เกือบสองสัปดาห์เต็ม ๆ มาพูดถึงจุดที่ชอบก่อนเลยค่ะ
- เนื้อ เบาบาง เกลี่ยง่าย แต่ไม่ได้ซึมแว้บเข้ากับผิวทันที ให้ความรู้สึกเหมือนครีมได้ทำงานบนผิวเราก่อนที่จะค่อย ๆ ซึมลงไปในชั้นผิว
- ไม่เหนอะหนะ ทาเสร็จแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ลงหมอน ทาครีมอื่นต่อได้สบาย
- ลดเลือนจุดด่างดำ ที่จริงเราเคยคิดว่าเราไม่ได้มีปัญหาผิว ไม่ได้มีเรื่องจุดด่างดำ แต่ปรากฎว่าใช้ครบสองสัปดาห์ มีจุดนึงบนผิวเราที่เหมือนจะแลดูจางลง ทั้ง ๆ ที่ไปเที่ยวเจอแดดแรงมากในช่วงที่เริ่มใช้หลอดนี้ คิดว่าน่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รอยบาง ๆ นั้นของเราจางลงค่ะ
จุดที่ไม่ค่อยชอบ
- มีกลิ่นแบบแอลกอฮอล์นิด ๆ ค่ะ ถ้าคนที่ไวกับกลิ่นสไตล์คลีนิกข์อาจจะไม่ค่อยชอบ
ตอนนี้นึกไม่ออกแล้วว่ามีข้อเสียอะไร คิดว่าปลายเดือนนี้น่าจะได้สอยหลอดจริงมาใช้งานต่อแน่ ๆ เลยค่ะ ^^''
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ลดริ้วรอย, กระชับรูขุมขน, ไม่เหนอะหนะ, เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
สวัสดีทุกคนค่าาาา วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณ cosmenet อีกครั้งกับผลิตภัณฑ์ดี ๆ ที่เราได้รับมารีวิว จากแบรนด์ St.Ives นั่นเองค่ะ
ถ้าพอจะจำ ๆ กันได้ ตัวที่ดังของแบรนด์นี้ก็คือ Peach Scrub และ Facial Foam ค่ะ จุดเด่นคือความหอม และเม็ดสครับละเอียดที่ถูหน้าได้สะใจมาก แต่กลับไม่ระคายเคืองผิวเลย แถมชะล้างความมันและสิวเสี้ยนออกได้ดีสุด ๆ ตอนนั้นยังวัยรุ่น ถือว่าเป็นสครับในดวงใจเลยก็ว่าได้
เร็ว ๆ นี้ ทางแบรนด์ได้เริ่มนำเข้าผลิตภัณฑ์ไลน์บำรุงผิวหน้าเข้ามาขายในบ้านเรา มากันถึงสามสูตรเนื้อครีมสามคุณสมบัติ ได้แก่
1.Smooth & Glowing Pudding Cream Apricot เนื้อพุดดิ้ง
ส่วนผสมจาก Apricot วัตถุดิบตัวเด่นของแบรนด์ ช่วยให้ผิวนุ่ม โกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ
2.Bright & Radiant Hydrating Gel Pink Lemon & Peach เนื้อเจลครีม
ครีมเนื้อเจลด้วยส่วนผสมจาก Pink Lemon และ Peach ธรรมชาติ 100% มี antioxidants และ วิตามิน C ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส
3.Renewing Soft Cream Avocado & Coconut Oil เนื้อครีม
ด้วยส่วนผสมจาก Avocado และมะพร้าว ช่วยเรื่องการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เพื่อผิวนุ่มดูอ่อนเยาว์
ด้วยคอนดิชั่นผิวเราช่วงนี้ค่อนข้างหมองคล้ำ เลยตอบรับคำเชิญของสูตร Bright & Radiant Hydrating Gel Pink Lemon & Peach ไปค่ะ
เริ่มกันที่แพคเกจจิ้งก่อนเลย
สำหรับสูตร Pink Lemon & Peach จะมีแพคเกจจิ้งสีชมพู ดูสดใสมากค่ะ คำโปรยรอบ ๆ กล่องก็บ่งชี้ถึงคุณสมบัติที่ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส เพราะเลม่อนกับพีชอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเด่นในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ขจัดความหมองคล้ำนั่นเอง
เปิดกล่องออกมาเจอเป็นครีมกระปุกพลาสติกลวดลายสีชมพูคล้าย ๆ กับหล่องค่ะ เอาจริง ๆ แอบรู้สึกกระปุกเบา ๆ แต่เปิดฝาออกมาก็มีแผ่นพลาสติกอีกชั้นกั้นเนื้อครีมกับฝากระปุก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและรักษาความสะอาดของครีม เอ้า โอเค ผ่าน ๆ
กลิ่น
กลิ่นดีมากกกกกกกกกก ด้วยความที่เป็นเลม่อนกับพีช กลิ่นเค้าก็จะหอม ๆ หวาน ๆ มีความเปรี้ยวนิด ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อันนี้คือแบบให้คะแนนร้อยเต็มสิบไปเลย
ต่อมาเป็นเรื่องของเนื้อครีมค่ะ
อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าตัวนี้ Pink Lemon & Peach จะเป็นเนื้อเจลครีม ที่บอกว่าเป็นเจลครีมไม่ใช่เจลเฉย ๆ ก็เพราะว่าเนื้อเค้ามีความเป็นครีมเจืออยู่ด้วย ปกติเราใช้เจลทาบำรุงผิวหน้า เนื้อเค้าจะซึมลงผิวทันที จนบางครั้งเหมือนว่ายังไม่ทันเกลี่ยก็แห้งแล้ว แต่สำหรับตัวนี้ แม้ว่าจะเกลี่ยลงบนผิว แต่ก็ไม่ได้ซึมทันทีค่ะ คือพอมีเวลาให้เราได้นวดวนเนื้อของครีมลงบนผิว ตัวเนื้อครีมซึมซาบได้เร็วดีค่ะ แรก ๆ ทาแอบเย็น ๆ นิดนึงด้วย เมื่อทาเสร็จก็ยังรู้สึกได้ว่าผิวยังมีความชุ่มชื้น ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว รู้สึกสบายหน้ามาก ๆ
ประสิทธิภาพของครีม
เราใช้ตัวนี้มา 2 สัปดาห์ (แต่ถ่ายรูปแค่สัปดาห์แรกมานะคะ) จริง ๆ ทุกอย่างโอเคหมดเลย ผิวชุ่มชื้นขึ้น เรื่องความอิ่มฟูอาจจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่เราว่าผิวหน้าเราจับ ๆ แล้วเนียนเรียบขึ้นค่ะ ในส่วนของความกระจ่างใสก็เช่นกัน ยังไม่ได้เห็นชัดขนาดนั้น ต้องสังเกตดี ๆ ด้วยตัวเองค่ะ คาดว่าอาจจะต้องอีกสักพัก ถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนกว่านี้
โดยสรุป
เป็นครีมอีกกระปุกที่เหมาะสำหรับคนทุกสภาพผิวค่ะ ชาวผิวมันก็ใช้ได้เพราะไม่เหนอะหนะ ชาวผิวแห้งขาดน้ำใช้แล้วก็รู้สึกได้ค่ะว่าผิวมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถใช้ในตอนเช้าก่อนแต่งหน้าได้เลยค่ะ
ซื้อต่อมั้ย : ด้วยประสิทธิภาพกับราคา 80% ถ้ายังไม่มีใครมาโค่นล้มได้
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส, ชุ่มชื้น, ลดจุดด่างดำ, ไม่เหนอะหนะ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th