Profile

#RD-209 สีสวย สุภาพ ทาแล้วปากจะฉ่ำๆ แต่ติดทนกว่าที่คิด ที่สำคัญ ทาแล้วปากไม่แห้งด้วย ชอบมากๆ อาจจะเป็นแบรด์ที่ไม่ค่อยมีใครนึกถึง แต่คุณภาพดีใช้ได้เลย แนะนำให้ลองใช้เลยค่ะ แถมพนักงานแบรนด์นี้นิสัยดีสุดๆด้วยนะเออ

ซื้อจากเดอะมอลล์ช่วงลด 15% เหลือ 254 บาท #830 Rose สีสวยค่ะ ไม่มีชิมเมอร์ด้วย แต่เนื้อลิปอ่อนมากๆ ถ้าเผลอมีอะไรไปโดนเข้านี่ เนื้อลิปอาจเละได้ง่ายๆ *ทาครั้งเดียว เนื้อก็บี้แว้ววว แล้วก็ตัดคะแนนแพ็คเกจเหลือ 0 คะแนนเลยค่ะ เพราะตัวลิปมันเลยออกมาจากแท่ง (เพิ่งจะเคยเจอ) เวลาจะเก็บใส่ปลอกช่วงแรกๆ จะต้องค่อยๆใส่ มิเช่นนั้นอาจมีลิปแหว่งไม่มากก็น้อยแน่ๆ T^T

#130 Rose Velvet ซื้อที่เดอะมอลล์ตอนลด 15% เหลือ 161 บาท สีสวยมากๆ แนะนำเลย สีจะออกแมท ไม่มีชิมเมอร์ ออกแนวสุภาพ ทาได้ทุกโอกาส เม็ดสีแน่นใช้ได้เลย ทาแล้วไม่เป็นคราบ สีติดทนปานกลาง ต้องมีเติมระหว่างวัน ปล.เราใช้เคาน์เตอร์แบรนด์แพงๆ มาหลายยี่ห้อ บางรุ่นก็ไม่ติดทนเช่นกัน แถมบางทีทำให้ปากแห้งด้วย เพราะงั้นราคาเท่านี้ ได้เท่านี้ก็คุ้มสุดแล้ววว ซื้อได้โดยไม่ต้องคิดมากเลย #ใช้ชั่วคราวช่วงกรอบแกรบ ^_^

ราคาประมาณ 1,200 บาท เราแลกซื้อช่วงปลายปี ตอนจัดเป็นชุด Beauty Box 2013 เลยมีโอกาสได้ลองใช้ตัวนี้ด้วย ทีแรกที่่อ่านรีวิิวก็ไม่คิดว่าจะใช้ดีขนาดนี้เลยนะ เราเทใส่สำลีแล้วลองแปะที่ตาประมาณ 10 วิ ก็สามารถเช็ดมาสคาร่าและอายไลเนอร์กันน้ำได้หมดจดเลยทีเดียว & ไม่ระคายเคืองตาเลยซักนิด (ของ Loreal ยังมีเคืองอยู่บ้าง) สรุปว่าชอบมากๆ ชอบตรงที่มีกลิ่นกุหลาบนิดๆ ด้วย ซื้อต่อแน่นอนค่ะ (แต่ต้องรอช่วงลดราคานะจ๊ะ) ^^

ใช้แล้วขนตาเด้งดีค่ะ แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องความยาวเท่าไหร่ ใช้ eye remover หยดใส่สำลี แปะค้างไว้ที่ตาประมาณ 10 วินาที จะช่วยให้เช็ดออกง่ายขึ้นค่ะ ^^

ได้ผลิตภัณฑ์ตัวอย่างจากการร่วมกิจกรรมของ cosmenet ค่ะ เป็นเจลใสๆ เราใช้นวดเบาๆให้ทั่วหน้าประมาณ 1 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ผลที่ได้นี่ดีกว่าที่คาดไว้เยอะเลยค่ะ เพราะนอกจากจะล้างเครื่องสำอางออกได้ง่ายมากๆ ยังรู้สึกว่าหน้าสะอาดแบบไม่ต้องใช้โฟมล้างล้างตามยังได้เลย (แต่เราก็ยังใช้โฟมล้างหน้าล้างตามอยู่ดี) สรุปว่าถูกใจมากๆเลยค่ะ ^^

ไม่เคยใช้ลิปสติกแบรนด์นี้มาก่อน พอใช้แล้ว บอกได้เลยว่าประทับใจมาก เนื้อลิปนุ่ม ทาง่าย เม็ดสีชัดเจน น้องที่ทำงานซื้อสี NIAGARA มาให้(สีโทนชมพูอมส้ม) สีสวยเป็นธรรมชาติมากๆ ทาแล้วไม่เป็นคราบเลย (ทั้งนี้ ต้องบำรุงริมฝีปากอย่างสม่ำเสมอนะ) ตัวแพ็คเกจก็แปลกดี จับแล้วรู้สึกด้านๆ คล้ายยาง แท่งเล็กกะทัดรัดดีด้วย ทำให้พกพาง่าย สรุปว่าถูกใจสุดๆ ^o^ (& มีแววต้องเสียตังค์ให้แบรนด์นี้ในไม่ช้า T^T)

ราคารีฟิล 750 เคสพร้อมพัฟ 450 ตัวเคสเป็นสีขาวมุก มีลายดอกไม้น่ารัก ตลับไม่ใหญ่ มีกระจกให้ พกพาสะดวก พัฟเป็นแบบผ้า (นุ่มมาก) เนื้อแป้งหอมอ่อนๆ บางเบาสุดๆ เลยไม่เน้นปกปิดเท่าไหร่ เติมระหว่างวันได้เรื่อยๆ ไม่ทำให้หน้าดูหนา หรือเป็นคราบ สรุปว่าถูกใจค่ะ & อยากจะลองซื้อแบบผสมรองพื้นมาไว้ในครอบครองอีกตัวด้วย ^o^

ตัวนี้เป็นตัวใหม่นะคะ เค้ามีการปรับสูตรให้ดีขึ้น (ฝาเดิมเป็นสีขาว ไม่มี EX) ราคา 1,150 บาท ใช้ตัวนี้แล้วชอบมากๆ ตรงที่ไม่แพ้ & เกลี่ยง่ายสุดๆ ไม่เป็นคราบด้วย รู้สึกว่าเครื่องสำอางติดทนขึ้น(นิดนุง) ส่วนเรื่องปกปิดรูขุมขนกับควบคุมความมันยังไม่ดีเท่าที่คิด แต่รู้สึกได้เลยว่าหน้ามันน้อยลงกว่าเดิมนิดนึง ประมาณว่าปกติต้องซับมันครั้งละ 2 แผ่นเต็มๆ แต่พอใช้แล้วเหลือแค่ 1 แผ่นนิดๆ สรุปว่าชอบค่ะ แต่ราคาสูงไปหน่อย หมดแล้วอาจจะขอลองอย่างอื่นต่อ แต่ต้องรอตอนลด 10% เท่านั้นนน!!) >.<

ราคา 155 บาท (100 ml) ชอบตรงที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ฟองไม่เยอะมาก ล้างออกง่ายนะ รู้สึกว่าหน้าสะอาด & ไม่แห้งตึง แต่ไม่ชอบตรงที่เป็นฝาหมุน (เลยทำหล่นบ่อย) สรุปว่าชอบนะคะ แต่หมดแล้วก็อยากเปลี่ยนไปลองใช้ตัว bamboo บ้าง ^^

ชอบตรงที่กลิ่นสดชื่นมาก ฉีดแล้วสบายหน้าสุดๆ ซึมเข้าผิวเร็วด้วย ที่สำคัญ ... ใช้แล้วไม่แพ้ & ไม่ระคายเคือง แต่ถ้าหัวสเปรย์ฟุ้งกว่านี้จะดีมากๆ ^^

ราคา 800 บาท (รอซื้อตอนลด 10% เหลือ 720) เราซื้อเบอร์ 08 (Peach Beige) เป็นเฉดสีพิเศษที่เพิ่งมาใหม่ ^^ สีสวยสุดๆ .. เวลาปัด สีจะไม่ออกเข้มมาก ปัดซ้ำได้เรื่อยๆ ไม่เป็นตูดลิง (มือใหม่น่าจะใช้ง่าย) แต่ถ้าผิวสีเข้มมาก อาจจะเปลืองเนื้อบรัชหน่อยนะ ชอบตรงที่มีแปรงมาให้ด้วย (ขนม้า 100%) ไม่ต้องลำบากพกแยก แต่แอบเสียใจตรงที่ไม่มีกระจกมาให้ >.< ตลับอาจจะดูอ้วนไปนิด พกลำบากนิดนึงนะ เพราะต้องเผื่อที่ไว้วางแปรง (ตัวตลับจะมีถาดพลาสติกใสๆรองด้านบน เอาไว้สำหรับวางแปรง) สรุปว่าชอบค่ะ แต่ถ้าหมดแล้วอาจจะเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นต่อไป (ชอบลองเปลี่ยนไปเรื่อยๆ)

ราคาประมาณ 550 เราใช้ร่วมกับแปรงเขียนคิ้วของ kate (ราคาร้อยต้นๆ) ตัวนี้ที่ซองเขาบอกว่าใช้แต่งตา แต่เราเอามาใช้เขียนหางคิ้วแทน เขียนได้สวยสุดๆ ดีกว่าใช้ดินสอเยอะ ^^ แพงไปหน่อย แต่น่าจะใช้ได้นานเพราะดูแข็งแรงดี

ใช้เบอร์ 05 สีโทนน้ำตาล ชมพู สีสุภาพ ใช้ได้ทุกวัน สีสวยทุกสี เม็ดสีละเอียดมากกก วิ้งเล็กน้อยแบบผู้ดี๊ผู้ดี & ตลับหรูหรามั่กๆ :D ข้อเสีย: ติดไม่ค่อยทน ต้องใช้คู่กับ eyelid base (ประมาณ 950) จะทำให้สีติดทนขึ้น (T^T)

ซื้อสีดำตอนลดราคา เหลือ 261 บาท เขียนง่ายมาก สีเข้ม ติดทน ล้างออกไม่ยากมาก แต่ต้องเอาสำลีชุบที่เช็ดเครื่องสำอางให้ชุ่มๆหน่อย แปะค้างเอาไว้ซักพักแล้วเช็ดออก ถึงจะหลุดออกหมด แต่ข้อเสียสำหรับเรา คือ 1.มักจะเป็นแพนด้าตรงหางตาล่าง แต่ถ้าเขียนแค่ขอบตาบน ไม่เขียนแบบตวัดหางตา ก็จะไม่แพนด้านะ 2.รู้สึกว่าปลาย หัวเมจิกมันแห้งง่ายไปหน่อย สรุปว่ายังไม่ถูกใจเท่าไหร่ .. ถ้าหมดแล้วคงขอลองเปลี่ยนเป็นตัวอื่นต่อปายย

ราคา 349 บาท เบอร์ W3 Golden Beige เป็นแป้งไม่ผสมรองพื้น ชอบตรงเนื้อแป้งเนียนดี สีค่อนข้างเข้ากับหน้าดี ไม่วอก ไม่หมอง ไม่ได้ช่วยเรื่องคุมมัน แต่สามารถเติมได้ทั้งวัน โดยไม่รู้สึกหนา และไม่เป็นคราบ แต่แพ็คเกจก๊องแก๊งไปหน่อย พัพก็เล็ก (ไม่ใช่ฟองน้ำ แต่เป็นแบบขนๆ แบนๆ) แถมกระจกก็มาอยู่ด้านล่างอีก ทำให้ใช้ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ เพราะต้องเปิดสลับไปมาเวลาเติมแป้ง โดยรวมก็ถือว่าคุ้มค่านะ แต่ถ้าแพ็คเกจยังเป็นแบบนี้ก็คงไ่ม่ซื้อต่ออ่ะ..ลำบากเกิน <(_ _)>

เป็นเนื้อเซรั่มสีมุก ซึมเร็วพอสมควร ใช้นิดเดียวก็เกลี่ยได้รอบดวงตาแล้วค่ะ เซรั่มบางเบามาก ไม่เหนอะหนะ ไม่แพ้ หรือระคายเคือง อยากได้ขนาดจริงแต่ราคาแพงไปหน่อย >.<

ไม่เคยซื้อมาใช้จริง แต่เคยไปลองทาในร้าน เพราะต้องซื้อให้พี่ที่ทำงาน ข้อดี (ลอกมาจากที่เคยรีวิวของ chanel) สีสวย ทาง่ายมาก เม็ดสีละเอียด ไม่เป็นรอยแปรงถ้าทาซ้ำ แห้งเร็ว กลิ่นไม่ฉุน แต่ติดทนหรือเปล่าไม่รู้ แต่ก็น่าทนนะ (แพงซะขนาดนี้ ^^) ข้อเสีย (ลอกมาจากที่เคยรีวิวของ chanel เช่นกัน) 1.แพงมาก (900.-) มีลดหรือเปล่าไม่รู้ พนักงานยุ่งเหลือเกิน (--) แต่เคยซื้อ gloss ก็มีลดนะ (คงลดเป็นช่วงๆ) 2.ขวดทรงเดียวกับ Chanel เป็นฝา 2 ชั้นเหมือนกัน เลยรู้สึกยุ่งยากเล็กน้อย .. ชอบแบบเปิดขวดแล้วทาเลยอ่ะ 3.มีสีให้เลือกไม่มาก น้อยกว่า chanel อีก ปล.ที่เปรียบเทียบกับ chanel เพราะราคาเท่ากันอ่ะ (เคาน์เตอร์ติดกันด้วย ^^)

ใช้เบอร์ EX07 Coral Orange ตอนแรกก็คิดว่าแอบแพงเหมือนกันนะ ไปลองสีที่เคาน์เตอร์ แล้วก็ตัดใจซื้อมาใช้จนได้ ผลปรากฎว่า .. สีสวยถูกใจมากๆ ไม่เข้มหรืออ่อนเกินไป แอบเป็นประกายนิดหน่อยด้วย เกลี่ยง่ายมาก คนเพิ่งเริ่มใช้ก็ทาออกมาสวยได้ ใช้นิดเดียวก็เกลี่ยนได้เต็มพวงแก้มแล้ว 1 หลอดก็น่าจะใช้ได้นานโข สรุปว่าชอบมากมาย ไม่เสียดายตังค์เยย ฮิ้วๆๆ ^o^

ราคา 349 บาท... ซื้อตอนโปร + สมาชิดลด 5% เหลือ 303 บาท เนื้อครีมสีขาว เกลี่ยง่าย ซึมเร็วจริง & ไม่เป็นคราบ แต่เรื่องกันน้ำเนี่ย..ยังไม่เคยลอง.. ้แต่ตอนเหงื่อไหลเต็มหน้าเพราะต้องเดินตากแดดเปรี้ยงไปหม่ำข้าว หน้าก็ยังไม่เป็นคราบเลยอ่ะ เทพจริงๆ สรุปว่า ..เป็นกันแดดที่น่าประทับใจสุดๆ เพราะตัวนี้ไม่มีน้ำหอม เราใช้แล้วไม่แพ้ แถมคุณภาพก็พอกันกับของอีกแบรนด์ แต่ราคาถูกกว่าตั้งครึ่งแหน่ะ ให้คะแนน 10/10 เลย สำหรับของดี ราคาไม่แพงแบบนี้ ปล.เรารู้สึกว่าตัวบอดี้มันอ่อนไปนิด ถ้าหมุนฝาครั้งแรกจะยากหน่อย แต่ต่อไปก็เปิดง่ายหล่ะ ^^

เราผิวขาวเหลือง ใช้เบอร์ 2 ก็เข้ากับสีผิวดี แต่ตัวนี้ไม่เน้นปกปิด & ไม่ได้ช่วยเรื่องคุมมันอย่างที่คิดเท่าไหร่ ชอบตรงที่ราคาไม่แพงแล้วก็ใช้แล้วไม่แพ้นี่แหล่ะ แต่ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ ... ถ้าหมดคงต้องขอลองตัวอื่นต่อ ^^

ราคา 600 บาท (10 g) ตอนนี้มี Package ออกมาหลายแบบ หลายลาย (แต่ราคา 600 เท่ากัน) สรรพคุณในเว็บเค้าบรรยายไว้ว่า .. ป้องกันการลอกของริมฝีปากพร้อมปกป้องริมฝีปากจากรังสียูวีและความ แห้งกร้าน มอบความชุ่มชื้น เนียนนุ่ม ดูอิ่มเอิบ ช่วยให้ริมฝีปากมีสีชมพูอ่อนใส พร้อมความเงาสวย - SPF 18 PA++ - ปราศจากน้ำหอม ซื้อเพราะตรงปราศจากน้ำหอมนี่แหล่ะ (ความชอบส่วนตัว) เราใช้ตัวมาใหม่ เป็นหลอดสีเหลืองทองที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง >> lip essence (HONEY) ปากเราไม่ได้เป็นขุย แต่จะแอบแห้งนิดหน่อย เลยอยากได้ลิปบำรุงดีๆซักตัว อ่านรีวิวมาก็เยอะ ตัวที่อยากลองจริงๆ คือ Lunasol .. แต่รู้สึกว่าแพงไปหน่อย เลยมาสอยตัวนี้แทน (ความจริงอยากสอยหลายตัว แต่คงต้องขอลองทีละอันอ่ะนะ ^^) ตัวเจลจะมีกลิ่นหอมนิดๆ และหนืดนิดหน่อย (ไม่รู้ว่าเป็นเฉพาะตัว Honey หรือเปล่านะ .... แต่ก็ยังหนืดน้อยกว่าของ Clinique นะเออ) หลังจากใช้ตัวนี้ได้สัก 2 -3 วัน รู้สึกว่าปากแห้ง/เป็นร่องน้อยลง .. แต่เนื่องจากเราดื่มน้ำมากขึ้นด้วย เลยไม่รู้ว่าลิปช่วย หรือน้ำช่วยกันแน่ -_- ถึงลิปตัวนี้จะมีกันแดด แต่เราเน้นทาตอนกลางคืนมากกว่า เพราะด้วยความที่มันหนืดนิดหน่อยนี่แหล่ะ เลยทำให้ทาลิปสติกยาก ..เลยต้องเอามาเน้นทาบำรุงตอนกลางคืนแทน >.< ถ้าหมดก็คงจะต้องขอลองรุ่นดั้งเดิมซะหน่อย .. เห็นรีวิวกันว่าไม่เหนียวนี่เนอะ ^^

ได้รับขนาดจริงจากการเข้าร่วมกิจกรรมของ Cosmenet นะคะ ^^ เป็นหัวปั๊ม กดง่าย ... กดทีเดียวก็ได้ปริมาณเซรั่มที่พอเหมาะกับหน้าเราแล้ว เนื้อเซรั่มดูเข้มข้น แต่ซึมเร็วมาก .. ทาได้ทั่วหน้าก็ซึมหมดพอดี ... เราผิวผสม ทาแล้วรู้สึกไม่เหนอะหนะเลย แถมใช้แล้วรู้สึกหน้าตึงๆเหมือนความเห็นก่อนหน้าจริงๆนะเออ ^^ ส่วนเรื่องกลิ่น .. บางคนอาจจะไม่คุ้นกับกลิ่นแนวนี้ .. แต่เราชอบแฮะ (แนะนำให้ไปเทสกลิ่นตามเคาน์เตอร์ก่อนก็ดีนะ) ตอนนี้ใช้ใกล้หมดแล้วหล่ะ ... ยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่เรื่องความกระชับ แต่ด้วยราคาที่ไม่แพงมาก และยังไม่เกิดอาการแพ้ใดๆ ... ถ้าหมดแล้วก็อาจจะสอยมาใช้อีกซักขวด (แต่คงต้องรอให้มีการจัดโปรฯก่อนน๊า)^o^

แนะนำให้ใช้ตัวใหม่ เพราะราคาเท่ากัน แต่ดีกว่า ^^ Chubby Stick Intense Moisturizing Lip Colour Balm ราคา 650 บาท (ซื้อตอนลด 10% ที่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน เหลือ 585 บาท) ใช้เบอร์ 01 Curviest caramel สีออกชมพูนู๊ดๆ ... สีสวยมากกก ... ไม่เข้มหรืออ่อนเกินไป ^^ เนื้อเนียน ไม่เป็นคราบ ติดทนพอควรค่ะ แต่ต้องมีเติมระหว่างวันบ้าง ส่วนจะช่วยเรื่องความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากได้มั๊ย? อันนี้ไม่แน่ใจ แต่เราทาแล้วปากก็ไม่แห้งนะ ถ้าหมดแล้วก็น่าจะซื้อต่อ (ตอนลด) เพราะถือว่าราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับแพ็คเกจน่ารักๆ กับคุณภาพของตัวลิปสติก

ได้ตัวทดลองจากการร่วมกิจกรรมค่ะ เป็นเจล ซึมเข้าผิวเร็วค่ะ ไม่เหนอะหน่ะ และเนื่องจากเรานอน-ทำงานห้องแอร์ตลอด ทำให้ผิวค่อนข้างแห้ง แต่พอเริ่มใช้ตัวนี้ ตื่นมารู้สึกหน้าชุ่มชื้นขึ้นเล็กน้อย และไม่แพ้ค่ะ ปล.ราคาสูงไปนิด ถ้ามีโปรลดราคาก็ว่าจะไปสอยขนาดจริงมาลอง ... ใช้ต่อเนื่องน่าจะเห็นผลได้ดีกว่านีิ้

ราคา 500 บาท ซื้อช่วงลด 25% + ใช้บัตร Advantage ของ boots ลดเพิ่มอีก 5% สรุปเหลือแท่งล่ะ 356.25 บาท เมื่อเทียบกับคุณภาพ ถือว่าดีกว่าที่คิดไว้เยอะ เราชอบสีเข้มๆ เลยเลือกสี Sugar plum สีออกโทนชมพูม่วงอมแดงเล็กน้อย ... อธิบายไม่ถูก แต่ว่าสีสวยมาก เป็นเนื้อครีม ทาแล้วรู้สึกว่าเนื้อลิปนุ่มลื่น แต่สีแน่น ชัดเจน ปากไม่แห้ง ไม่เป็นขุย ไม่ตกร่อง (เราทาลิปบาล์มก่อนทุกครั้งนะ) ตินทนพอควร อาจต้องมีเติมบ้างหลังหม่ำข้าว (ถึงเป็นลิปสติกราคาแพงแค่ไหน สีก็ต้องมีเลือนบ้างเป็นปกติ .. ถ้าสีติดหนึบ ไม่เลือนเลย เราว่ามันออกจะน่ากลัวไปนะ) ในส่วนของแพ็คเกจก็ใช้ได้ สีดำ เรียบๆ สไตล์ No7 & ่ไม่ก๊องแก๊ง สรุปว่าน่าพอใจค่ะ คุณภาพดีสมราคา (ถ้าซื้อช่วงโปร) เสียแค่มีสีให้เลือกน้อยไปหน่อยเท่านั้น

นุ่มจริงๆ คอนเฟิร์มค่ะ .. ราคาประมาณ 275 บาท ตอนแรกว่าจะซื้อตัวนี้แล้ว เพราะเห็นรีวิวกันเยอะ แต่ ba เชียร์ของ impress แทน .. ราคาแพงกว่าหน่อย (300 บาท) & เล็กกว่าของ lunasol นิดนึง แต่นุ่มกว่ามากกกก ... แบบว่าสบายหน้ามากเวลาโบ๊ะๆแป้งฝุ่น ^^ ถ้าใครชอบพัฟใหญ่ๆหน่อยก็ lunasol ถ้าเอาแบบถนัดมือก็ impress แต่จะให้ดี ... ไปลองเทสดูที่เคาน์เตอร์แน่นอนสุด เราซื้อที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน .. ba น่ารักมากๆ ลองเทสสี นู่น นี่ นั่น ได้ ไม่มีทำส ายตาจิกแขว่ะ หรือบังคับซื้อ ^^

เราได้ตัวทดลองมา ก็ใช้ดีนะคะ ขนตาดูดำ & ยาวขึ้น แต่พอใช้ไปนานๆ ขนตามันจะเริ่มติดกันแล้ว ไม่แน่ใจว่าใช้นานเกิน หรือเพราะอากาศมันร้อน) ความจริง ถ้าราคาไม่เกินพันก็อยากจะซื้อต่อนะคะ แต่สรุปว่าเกิน .. น่าจะ 1,100 มั้ง เลยต้องขอเบรคไว้ก่อน ^^ ปล.สำหรับเรา ยังไม่เคยเป็นแพนด้าเลยอ่ะ

ไปลองที่เคาน์เตอร์ก่อนซื้อจริง เลยได้สีที่เข้ากับหน้าเราเป๊ะ ^^ เนื้อเหลว บางเบา เกลี่ยง่ายมากๆ ใช้นิดเดียวก็ทั่วหน้าแล้ว แต่ตัวนี้ไม่เน้นปกปิด & ไม่ได้ควบคุมความมันนะคะ เราแค่ทาเพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนเฉยๆ นานๆถึงจะใช้ซะที ปล.เราไม่แพ้นะคะ

ชอบมากค่ะ ราคาไม่แพง ประมาณ 800 หน่อยๆ ใช้แล้วขนตาดูหนา และยาวขึ้น แถมเรียงเส้นสวยมากด้วย ไม่แพนดา ไม่จับเป็นก้อนๆที่ปลายขนตา หมดแล้วซื้อต่อแน่นอนค่ะ ^^

สีสวยค่ะ มีเกือบร้อยสี แต่ติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่ ต้องซื้อตลับแยกอีกต่างหาก แต่ถ้าใครไม่ใช้ตลับก็น่าจะตุ้มกว่า (เรารอซื้อวัน ops ช่วงชิ้นที่ 2 ลด 50%) eye shadow ราคา 85 บาท ตลับแบบใส่ได้ 3 สี ประมาณ 155 บาท ตลับแบบใส่ได้ 6 สี ประมาณ 175 บาท (เอา eye shadow มาใส่แทนบรัชออน)