รีวิวกันแดดนีเวียเกาหลี NIVEA SUN Sensitive Protect & Light Feel SPF50+ PA+++ เบาสบายผิว ฟีลกู๊ดรับซัมเมอร์!
อาหาร & ท่องเที่ยว

เที่ยวลุยๆ ไปเดินป่าที่ "เขาใหญ่"

50,144
23 เม.ย. 2558



     ทริปธรรมดาๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาในยุคนี้ เพราะไม่ค่อยมีใครอยากจะไปเดินป่ากันสักเท่าไหร่แล้ว ทั้งๆ ที่มันสนุก ท้าทาย และได้ความรู้ ระหว่างทางในป่า เราจะได้พบได้เห็นสิ่งที่เคยเห็นแต่ในหนังสารคดี รวมถึงกลิ่นป่าที่การเดินผ่านแต่จะจุดก็จะมีกลิ่นที่แตกต่างกันไปตามพรรณพืชตรงนั้น รวมถึงกลิ่นสุขาของเหล่าสัตว์ป่าทั้งหลายด้วย ซึ่งคงไม่โชคดีไปเดินผ่านสุขาของพี่เสือ พี่ช้างกันหรอกมั้ง เพราะ cosme*net จะไม่ฮาร์ดคอร์ เอ็กซตรีม ถึงกับพาไปเดินป่าโหดๆ เอาแบบป่าไม่ไกลแต่เป็นป่าสมบูรณ์ที่มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติสบายๆอย่างเขาใหญ่ แค่อาจต้องบริจาคเลือดให้น้องทากกันไปบ้างก็เป็นประสบการณ์เลือดสาดที่น่าตื่นเต้นดี๊ด๊าดีนะ

     แต่ก่อนจะไปเดินป่า ใช่ว่าโทรนัดเจอกันพรุ่งนี้กี่โมงเหมือนไปสยามสแคว์ ควรวางแผนล่วงหน้าดูสภาพอากาศ ฝนฟ้า อย่าให้เป็นช่วงมรสุมโหดๆ กำลังผ่านมา และควรฝึกความอึด เตรียมความพร้อมของร่างกายกันเอาไว้ด้วย ใครที่มีโรคประจำตัวร้ายแรงก็ควรคิดให้ดี เพราะอาจเหนื่อยเกินไปหัวใจจะวายกลางทาง ไม่มีโรงพยาบาลกลางป่าหรอกนะจ๊ะ



ก่อนเดินป่า เราควรเตรียมอะไรบ้าง?
  • เสื้อผ้า ควรเป็นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้ารัดกุมค่อนข้างเบาและสวมถุงเท้าเพื่อป้องกันรองเท้ากัน และมีถุงเท้ากันทากด้วย หาซื้อได้ตามร้านเดินป่าทั่วไป หรือที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก็มีขาย นอกจากนี้ก็ควรเตรียมเสื้อกันฝนและเสื้อผ้าสำรองเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะถ้าจะค้างคืนนี้ป่าก็เตรียมไว้สัก 2 ชุดสำหรับใส่นอน ใส่กลับ
  • กระเป๋าสะพายหลังหรือเป้ที่ใช้เดินป่า ควรเป็นแบบกันน้ำ และค่อนข้างเบา
  • หมวก เคยเห็นในหนังใช่ไหมว่าคนเดินป่าต้องใส่หมวก ไม่ใช่แค่เท่ห์เป็นอินเดียนน่า โจนส์ แต่เพื่อป้องกันกิ้งไม้เกี่ยวหรืออะไรตกใส่ศีรษะ หาหมวกที่ใส่แล้วไม่รำคาญ แคล่วคล่องแบบไม่เน้นเท่ห์กันอย่างเดียว
  • เต็นท์หรือเปลสนาม พร้อมฟลายชีท หรือพลาสติกขึงกันน้ำค้างอีกที
  • เสบียง ควรเผื่อเสบียงไว้เผื่อคนอื่นด้วย รวมถึงน้ำดื่ม ซึ่งเมื่อรวมกับสัมภาระ ไม่ควรหนักจนเกินไป
  • ของจำเป็นอื่นๆ เช่น ไฟฉาย ถุงขยะ มีด ไฟแช็ก ยาประจำตัว เชือก และอื่นๆที่อาจลองถามเจ้าหน้าที่ดู 
ข้อควรปฏิบัติ
  • เดินเรียงเดี่ยวและมองคนข้างหน้าเสมอ อย่ามัวเหม่อ เพลิดเพลิน เดี๋ยวจะหลง ควรเดินเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบมาก ความเร็วสม่ำเสมอ
  • เงียบๆ ไว้ อย่ารบกวนสัตว์ป่า เดี๋ยวจะหนีหายไปหมดด้วย อดเจอสัตว์ที่หาดูยาก
  • ไม่เดินออกนอกเส้นทางและไม่เดินแยกไปตามลำพัง ไม่ว่าจะเจอสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจอะไรก็ตาม
  • พัก 5-10 นาที ทุก 1 หรือ 2 ชั่วโมง
  • เมื่อพบแหล่งน้ำให้เติมไว้ให้เต็ม
  • ห้ามให้อาหารสัตว์และห้ามแกล้งแหย่สัตว์
     เหล่านั้นคือหลักในการปฏิบัติโดยทั่วไป เผื่อไว้สำหรับทุกกรณี ทั้งเดินป่าแบบค้างคืน ทรหดอดทน และเดินแบบสำรวจเส้นทางธรรมชาติที่ไม่โหดนัก ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าไปเดินด้วย โดยจะมีค่าใช้จ่ายไม่ได้แพงมากนัก และถ้าขี้เกียจแบกของหนักสำหรับทริปค้างคืนในป่าก็จะมีค่าจ้างลูกหาบอีกต่างหาก


"5 เส้นทางเดินป่าในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่"

เส้นทางเดินป่า เขาใหญ๋


cr photo : bloggang.comgoto.canon.co.thteeneecm.com, wikimapia.org


เส้นทางที่ 1
กิโลเมตรที่ 33 หอดูสัตว์หนองผักชี

     เป็นเส้นทางที่สามารถเดินกันได้เอง ไม่มีอะไรน่ากลัว อาจเจอน้องทากหลงทางมาป้วนเปี้ยนบ้าง แต่หน้าฝนโอกาสเจอจะมีเยอะหน่อย เส้นทางนี้ไม่ไกล ประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้นเอง หลังจากจอดรถ เดินเข้าไปยังหอดูสัตว์ จะพบเห็นสัตว์ป่าระหว่างทางได้ง่าย เส้นทางนี้ไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่นัก ไปดูเส้นทางต่อไป

เส้นทางที่ 2 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ดงติ้ว-หนองผักชี
     เริ่มเดินจากฝั่งตรงข้ามศูนย์บริการักท่องเที่ยวเยื้องร้านอาหารขึ้นเนินไปทางทิศใต ซึ่งเมื่อเดินไปประมาณ 2.5 กม. ก็จะถึงทุ่งหญ้าและป่าที่กำลังฟื้นฟู มองเห็นจุดชมทิวทัศน์เขาเขียวมีทางแยกให้เดินไป ทางขวาจนถึงหอดูสัตว์หนองผักชีจากนั้นโดยไปอีกประมาณ 1 กม. บนถนนลูกรังจะถึงลานจอดรถริมถนนลาดยาง เดินต่ออีก 2 กม. ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเป็น เส้นทางนี้จะพบสัตว์ป่าและนกพอสมควร แต่สบายไปนิด ลองไปดูเส้นทางที่สามกัน

เส้นทางที่ 3 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ดงติ้ว- อ่างเก็บน้ำสายศร
     เป็นเส้นทางสั้นๆ ไม่ถึง 3 กิโลเมตร จะเดินผ่านทุ่งหญ้าไปถึงอ่างเก็บน้ำมอสิงโต หรืออ่างเก็บน้ำสายศร ง่ายไปไหม ต้องเจอเส้นทางที่สี่กันเลย

เส้นทางที่ 4 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวกรองแก้ว-อ่างเก็บน้ำเหวสุวัต
     เส้นทางนี้ไกลสุดคือ 8 กิโลเมตร ได้เห็นอะไรเยอะแยะแน่นอน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ต้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยนำทาง และอย่าเดินเพลินจนหลงป่า ได้เหนื่อยและได้เลือดสาดกันบ้างเพราะต้องเดินผ่านลำธารที่ชื้นแฉะ ทางค่อนข้างลำบาก เดี๋ยวราบเดี๋ยวชัน ใช้เวลา 4-5 ชัวโมง แต่ไปกับเจ้าหน้าที่ก็ไม่ต้องห่วง เมื่อไปถึงน้ำตกเหวสุวัต ควรมีรถรับกลับที่พักจากตรงนั้นด้วย

เส้นทางที่ 5 เดินจากสถานที่กางเต็นท์ผากล้วยไม้-น้ำตกเหวสุวัต
     แม้จะเป็นระยะทางสั้นๆ เพียง 3 กิโลเมตร แต่ก็สนุกทีเดียว ได้เสียเลือดกันแน่นอน ถ้าไม่ป้องกันตัวให้ดี เส้นทางนี้เดินเลียบลำธาร ผ่านน้ำตกผากล้วยไม้ ไปถึงน้ำตกเหวสุวัต ใครไม่พร้อมจะเดินไกล แนะนำเส้นทางนี้ เพราะเหมือนเดินป่า สนุกดี มีทากเยอะพอสมควร ไม่ได้เดินผ่านทุ่งหญ้าเหมือนเส้นทางแรก แล้วไฮไลท์ของเส้นทางนี้ก็คือ ผากล้วยไม้เป็นที่ซึ่งพบจรเข้เมื่อไม่นานมานี้เอง

     แต่ถึงยังไง ไปถึงเขาใหญ่ ควรค้างคืนสัก 2 คืน ทั้งกางเต็นท์ และนอนบ้านพัก ที่มีทั้งแบบห้องรวมและบ้านเดี่ยว ซึ่งคงต้องจองล่วงหน้า ก็บอกแล้วว่าต้องวางแผนกันบ้างถ้าจะมาเดินป่า สำหรับหน้าฝน การนอนเต็นท์ดูจะลำบากไปสักนิด แต่ก็สนุกเหมือนกัน เตรียมอุปกรณ์พร้อมก็รอด แต่เชื่อสิ ไม่น่าจะรอดจากกองทัพทาก ขู่ไว้ แต่ต้องไปนะ เพราะสนุกมากจริงๆ

"กิจกรรมดูดาว ดูนก"



     นอกจากจะได้เดินป่าแล้ว กลางคืนยังมีดาวเต็มฟ้าสุกสกาว หากฟ้าเปิด เพราะบนเขา กลางป่า ฟ้าจะเป็นนางเอก ไฟฟ้าไม่มี ดาวจึงปรากฎชัดเจน หากใครมีกล้องดูดาวก็อย่าได้พลาด อาจได้เห็นกลุ่มดาวสวยๆ ชัดเจนถ้านอนดึก



     ดูดาวกันแล้ว ก็ลองหัดดูนก หาหนังสือ Birds Guides ติดไปด้วย ถ้าคิดว่า อยากจะลองทำกิจกรรมใหม่ๆ ดู การดูนกไม่ได้เพลินแค่เดินชมนกชมไม้ แต่ต้องมีทั้งกล้องสองตา ส่องทางไกล มีกล้องที่ซูมได้ไกลๆ มีสมุดวาดรูป กับดินสอสำหรับวาดรูปนก ควรต้องมีสีด้วย เพราะนกแต่ละพันธุ์ก็มีรูปร่างและสีสันที่ต่างกันไป กิจกรรมดูนกเป็นกิจกรรมอนุรักษ์ที่เก๋มาก จะบอกให้ ลองเข้าร่วมกลุ่มดูนกดู แล้วจะได้เดินป่ากับมืออาชีพ สร้างสมประสบการณ์กับเรื่องราวใหม่ๆให้ชีวิต


การเดินทางไปเขาใหญ่ โดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. สามารถเดินทางไปได้ 2 เส้นทาง
  • เส้นทางที่ 1 จากถนนพหลโยธินผ่าน รังสิต-สระบุรี เลี้ยวขวาอีกครั้งหนึ่งตรงทางแยกก่อนถึง อ.ปากช่อง บริเวณ กมที่ 58 เข้าสู่ถนนธนะรัตน์ผ่านด่านเขาใหญ่มุ่งตรงสู่ที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งเป็นทางขึ้นเขารวมทั้งสิ้นประมาณ 190 กม.
  • เส้นทางที่ 2 จากถนนพหลโยธินเลี้ยวขวาบริเวณรังสิตเข้าทางหลวงหมายเลข 305 เข้านครนายกแล้วเปลี่ยนไปใช้ทางหลวงหมายเลข 33 ถึงสี่แยกเนินหอม (วงเวียนนเรศวร) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนปราจีนเขาใหญ่
     ใครที่เริ่มเดินป่าระยะสั้นแล้วรู้สึกว่ามันใช่ ลองไปเข้ากลุ่มนักเดินป่าทั้งหลายดู ก็มีอยู่บ้างที่จัดกันไปเดินอยู่บ่อยๆ สักวันถ้าฝีมือแก่กล้า อาจได้เอ็กซตรีมจนหลงป่าได้อีกประสบการณ์ แต่หนุ่ม-สาว cosme*net ไม่น่าจะลุยถึงขนาดนั้น เอาแค่พอประมาณ ลองไปเริ่มเดินกันดูที่เขาใหญ่ ถือเสียว่าเป็นทริปบริจาคเลือดก็แล้วกัน น้องทากก็สำคัญอยู่ในระบบนิเวศน์ เกิดเป็นทากไม่เรื่องมาก ใครมาบริจาคก็ได้หมดไม่เลือกกรุ๊ปเลือด เตรียมร่างกายและเตรียมความพร้อมกันเอาไว้เลยค่ะ หน้าฝนนี้ ต้องเข้าป่าถึงจะใช่นะ


เรียบเรียงข้อมูลโดย : cosmenet.in.th
ขอขอขคุณข้อมูลจาก : thailandtreks.com, orientalescape.com


What's new
รีวิวกันแดดนีเวียเกาหลี NIVEA SUN Sensitive Protect & Light Feel SPF50+ PA+++ เบาสบายผิว ฟีลกู๊ดรับซัมเมอร์!รีวิวไพรเมอร์สกินแคร์ SHISEIDO บำรุงผิวเรียบเนียน เมคอัพติดทนป้ายยา! 5 โฟมล้างหน้าลดสิว เคลียร์ทุกสิว ผิวสะอาดใส ไบร์ทขั้นสุดMEDMAKER Vitamin E Cream (เมดเมเกอร์ วิตามินอี ครีม)...ลด 3 รอย พร้อมบำรุง...ครีมวิตามินอีที่ควรมีติดบ้านจัดด่วน! 12 สีลิปมงคล เสริมดวงตามราศีเกิด สายมูต้องมี11 Dry Shampoo (ดรายแชมพู) ไอเทมลับจัดการผมมัน ผมเหนียวผิวขาดน้ำใช้อะไรดี? 10 แผ่นมาส์กหน้าฉ่ำโกลว์ ผิวฟูดูสุขภาพดี!ดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 21 - 27 เม.ย. 67 (ทุกราศี) มือเหี่ยว มือแก่ ทําไงดี? 6 วิธีดูแลมือให้สวย อ่อนเยาว์ บอกลาปัญหามือเหมือนคนแก่กิจกรรม :: ชวนทดลองใช้ กันแดด BSC Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++ ปิดจบทุกจุดดำ ผิวปังรับซัมเมอร์ จำนวน 50 รางวัล
COMMENTS