จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงไฮจ้าสาวๆ เอาตรงๆ ตามหัวข้อเลยว่าวันนี้จะมาขอเปิดศึกท้าชน 3 คลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางที่หาซื้อได้ที่วัตสัน งานนี้เราจะมอบมงคลีนซิ่งตัวแม่ให้ใคร ต้องมาลองดูกัน ไม่เกริ่นเยอะ เข้าประเด็นเปิดศึก Battle 3 สัญชาติคลีนซิ่ง เยอรมัน ฝรั่งเศส อเมริกัน ล้างเครื่องสำอางกันน้ำในวัตสัน งานนี้ใครจะได้มงไป มาดูกันจ้า!
ผู้เข้าประกวดของเราทั้ง 3 ท่านก็คือออออออออ
1.Nivea Micellair Expert Micellar Water
2.Garnier Micellar Oil-Infused Cleansing Water
3.Pond's White Beauty Brightening Oil-infused Micellar Water
และนี่คือเมคอัพหน้า ตา ปาก กันเเดด และรองพื้นที่เราจะใช้ในวันนี้ โดยเราจะจับเวลาการเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดแค่ 20 วิทั้งหน้า ดูสิว่าคุณคลีนซิ่งสัญชาติไหนจะเป็นที่สุดในเรื่องของคลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางที่หาซื้อได้ที่ร้านวัตสันกันนนนน และทุกตัวอย่าลืมเป็นคลีนซิ่งแบบผสมออยล์ ดังนั้นต้องเขย่าขวดทุกครั้งก่อนใช้ด้วยนะคะ
Pond's White Beauty Brightening Oil-infused Micellar Water
มากันที่คลีนซิ่งสัญชาติแรกจากอเมริกันกันค่ะ นั่นคือ Pond's White Beauty Brightening Oil-infused Micellar Water ตัวนี้เค้าเคลมว่าเป็นคลีนซิ่งสำหรับเช็ดเครื่องสำอางกันน้ำให้ออกได้ภายใน 3 วิ ที่สามารถใช้ได้ทั้งรอบดวงตาและริมฝีปาก สูตรพิเศษผสานไมเซลลาร์กับเมลาแคร์ออยล์ ที่ช่วยสลายเครื่องสำอางติดทนอย่างอ่อนโยน พร้อมบำรุงให้ผิวกระจ่างใส อ่อนเยาว์ สุขภาพดี เราซื้อมาราคาปกติ 289 บาท ขนาด 400 MLราคาเทียบต่อ ml จะอยู่ที่ 0.72 บาท
ทีนี้เรามาลองเช็ดเครื่องสำอางที่โบกไว้กันดู จับเวลาที่ 20 วินาที อันนี้เรารู้สึกว่าความเก่งด้านการเช็ดทำความสะอาด ยังไม่ค่อยดี โดยส่วนตัวคิดว่าคลีนซิ่งพอนด์น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้า หรือเน้นการแต่งบางๆ จริงๆตอนใช้ก็จะมีออยล์ในขวดต้องเขย่าเล็กน้อย เห็นข้างขวดบอกว่ามีส่วนผสมของวิตามิน B3 ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสอีกด้วย ปาดแล้วไม่ทำให้ผิวแห้ง ผิวยังคงความชุ่มชื่น แต่สำหรับเราเนื่องจากรู้สึกทำความสะอาดได้ยังไม่ดีกว่าจะเช็ดหมดทั้งหน้าก็จะมีความแสบหน้าหน่อยๆ
เทียบให้ดูตอนแต่งหน้ากับหลังเช็ดหน้าแล้ว หน้าก็จะดูชุ่มชื้นอาจดูมีความมันวาวอยู่บ้าง แต่ไม่มันเยิ้มนะคะ แต่มาสคาร่าอาจจะต้องเช็ดซ้ำอีกสักหน่อย เราแอบทำตารางคะแนนไว้ให้ดูง่ายขึ้นด้วย
Nivea Micellair Expert Micellar Water
ตัวต่อมาคลีนซิ่งสัญชาติเยอรมัน Nivea Micellair Expert Micellar Water คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอาง สูตรพิเศษสำหรับเมคอัพติดทนและกันน้ำ 0% ความมัน ลบเมคอัพกันน้ำหมดจดแม้ซิลิโคนตกค้างที่มองไม่เห็น มีส่วนผสมของไมเซลแอร์ คอมเพล็กซ์ ที่ทำหน้าที่ดูดจับเครื่องสำอางกันน้ำที่ติดทนนานและมาสคาร่าที่เสมือนแม่เหล็กโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง และส่วนผสมที่ช่วยบำรุงอื่นๆ อย่าง สารสกัดแบล็คทีช่วยลดการเกิดริ้วรอยจากแสงแดดและสารสกัดบิลเบอร์รี่ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส และผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและจักษุแพทย์มาแล้วว่าไม่ระคายผิวรอบดวงตาอีกด้วย ใครที่แพ้ง่ายหรือผิวบอบบางก็สามารถเช็ดเครื่องสำอางด้วยตัวนี้ใช้ได้เลยจ้าา
ราคาปกติ 129 บาท ขนาด 125 ML ราคาเทียบต่อ ml จะอยู่ที่ 1.03 บาท
คลีนซิ่งตัวใหม่ของนีเวียตัวนี้ชอบตรงที่เช็ดเครื่องสำอางออกง่าย แค่เขย่าให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปาดเบาๆ ก็ออกและไม่ทิ้งคราบมัน ใช้แล้วไม่ต้องถูหน้าแรงๆ ด้วย รู้สึกว่าสะอาดที่สุดล่ะ ผิวรู้สึกมีความชุ่มชื้นและสบายผิวมากๆ ขนาดกระทัดรัดสามารถพกสะดวก ใช้แล้วไม่แสบหน้า แสบตาเลย ใครที่แต่งหน้าจัด ๆ บอกเลยว่าขวดนี้เอาอยู่
สภาพผิวหลังเช็ดคือเหมือนล้างหน้าเลย คือสะอาดจริงๆ แล้วก็รู้สึกว่าชุ่มชื้นพอดี ไม่มีคราบมัน
Garnier Micellar Oil-Infused Cleansing Water
มาที่ตัวสุดท้ายคลีนซิ่งสัญชาติฝรั่งเศสกันค่ะ Garnier Micellar Oil-Infused Cleansing Water เป็นคลีนซิ่งอีกตัวที่ใช้นวัตกรรมไมเซล่ากับอาร์แกนออยล์ ที่เค้าเคลมนักหนาว่าช่วยเพิ่มพลังขจัดเครื่องสำอางที่ติดทนและกันน้ำได้หมดจด พร้อมบำรุงผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่ทำให้หน้ามัน ไม่ทิ้งความรู้สึกมันบนใบหน้าหลังเช็ด สามารถทำความสะอาดได้ทั้งหน้า รอบดวงตา และริมฝีปาก เพื่อผิวสะอาด กระจ่างใส หมดจรดแม้เครื่องสำอางกันน้ำ
ราคาปกติ 299 บาท ขนาด 400 ML
ราคาเทียบต่อ ml จะอยู่ที่ 0.74 บาท
เค้าจะมาในขวดใสแยกชั้น ซึ่งพอได้ลองก็บอกเลยว่าเช็ดเครื่องสำอางออกง่ายพอๆ กันกับนีเวีย แต่กลิ่นน้ำหอมแรงสุด ตอนปาดลงบนเปลือกตารู้สึกแสบหน่อยๆ คือถึงแม้จะเช็ดเครื่องสำอางได้ดีแค่ไหน แต่กับคนที่เป็นสิวและมีผิวแพ้ง่ายอันนี้อาจจะต้องพักก่อนนน ที่สำคัญยังแอบมีความมันหลังใช้มากสุดด้วยค่ะ
ของการ์นิเย่สภาพผิวหลังเช็ดเครื่องสำอางออกค่อนข้างเยิ้มค่ะ อันนี้ไม่ปลื้มตั้งแต่กลิ่นแล้ว แต่ยอมรับว่าเช็ดทุกอย่างออกง่ายและเร็ว เสียอย่างเดียวคือแสบตาเบาๆ แต่อาจจะต้องเสียเวลาเช็ดหน้าหรือล้างหน้าออกด้วยน้ำอีกรอบไม่งั้นสิวอาจจะบุกแน่ๆ
เทียบกันให้เห็นชัดๆ ว่าผิวหลังเช็ดเครื่องสำอางออกเป็นยังไง อันไหนทิ้งความเหนอะความมันไว้บนหน้าบ้าง ถ้าเรียงลำดับความสะอาดที่เรียกได้ว่าหมดจรดแบบรู้สึกได้ว่าไม่ต้องล้างออกเนี่ยของนีเวียคือมาวินเลยนา
จา ตามมาด้วยพอนด์ และอันที่ทิ้งน้ำมันไว้บนหน้าที่สุดก็จะเป็นการ์นิเย่ค่ะ
มาเทียบกันต่อที่สำลีที่ใช้ปาดทำความสะอาดเครื่องสำอางกันค่ะ อันนี้โนคอมเม้น
ให้ดูภาพเอาเองล่ะกัน ไม่พูดเยอะนะ เจ็บคอ
มาถึงช่วงสุดท้าย ถ้าพูดถึงราคาก็ของพอนด์นำไปล่ะ ทีนี้พอลองได้ทำสอบการเช็ดเครื่องสำอางนีเวียก็ยังถูกจริตเราที่สุด ดังนั้นเวทีนี้ต้องยกให้คลีนซิ่งนีเวีย ขอมอบมงให้กับ Nivea Micellair Expert Micellar Water ไปเลยจ้า
แต่สำหรับอีก 2 คลีนซิ่งแบบผสมออยล์ผู้ท้าชิงก็ไม่อยากให้น้อยใจ อันนี้ผลการทดสอบมันอยู่ที่ผิวใครผิวมัน และความพึงพอใจส่วนบุคคล แต่อยากจะฝากไว้แค่นี้ว่าถ้าได้คลีนซิ่งดีๆ จะช่วยชีวิตเราได้เยอะ โดยเฉพาะคนที่แต่งลบ แต่งลบ เพราะลบออกยากไม่ทันกิน และยิ่งถูแรงหน้ายิ่งแหกไปอีก สำหรับวันนี้ไปแล้วนะคะ บะบาย
มาคอนเฟิร์มอีกเสียง ตัวไมเซล่าของนีเวียใช้ดี เพราะเผลอเช็ดแ้ลวรู้สึกสบายหน้ามากกก แล้วเผลอนอน เพราะคิดว่าตัวเองอาบน้ำแล้ว เอิ่ม มึนได้อีก ปรากฏตื่นมาตอนเช้า สิวไม่ถามหานะจ่ะ ชอบเลย ราคาก็ถูกใจเรา
nivea ขวดดำ คือดีนะ เราว่ามันล้างคราบเครื่องสำอางออกหมดจดดีอะ เเต่มันไม่ทำลายผิวชั้นบนของเราไป คือ เช็ดออกเเล้วหน้าไม่แหัง ยังชุ่มชื้นอยุ่
ยอมใจ จขกท.กล้าเช็ดโชว์หน้าสดมาก แต่ก็ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าอันไหนเช็ดไม่เหลือคราบ
เห็นสำลีแต่ละแผ่นที่เช็ดละ นึกถึงว่าเราแต่งหน้าหมดตังซื้อเครื่องสำอางกันไปเท่าไหร่แล้ว55555
เราเทใจให้ นีเวียมาตลอดเลยค่ะ ด้วยสูตรที่อ่อนโยน ล้างคราบคสอ สะอาดหมดจด เเถมยัง ไม่ทำให้เกิดสิว เเละยังคงความชุ่มชื้นให้ผิวอีกอะ รักมากกตัวนี้
ขอบคุณค่ะ