จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงไฮๆ สวัสดีค่ะ สาวๆ คอสเมเน็ตทุกคน
สำหรับใครที่หลงเข้ามาอ่านบทความนี้ เราขอทำนายทายทักสักนิดว่า พวกคุณกำลังประสบปัญหาผิวหน้าเป็นฝ้าเช่นเดียวกันกับดิชั้นเป็นแน่แท้ ใช่มั้ยล่ะคะ? เพราะถ้าผิวหน้าเราไม่เป็นฝ้า เราก็คงไม่ต้องมานั่งอ่าน นั่งหาข้อมูลวิธีรักษาฝ้ากันหรอกค่ะ 55555555 แต่ก็นั่นแหละค่ะ เป็นฝ้า กระรักษายาก แต่รักษาให้จางลงได้เพียงแต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย ต้องใจเย็นๆ ค่ะ
มาค่ะ มาว่าด้วยเรื่องฝ้าๆ ของเรากันดีกว่า ต้องขอบอกก่อนว่าเราอายุย่างก้าวเข้าวัย 30 แล้วค่ะ เริ่มมีปัญหาฝ้า กระ ปรากฎขึ้นมาให้เห็นบนใบหน้าเล็กน้อยค่ะ เราได้ลองใช้พวกครีมทาฝ้ามาหลากหลายยี่ห้อมากๆ เห็นผลบ้าง ไม่เห็นผลบ้าง แต่ก็ไม่ย่อท้อ 55555555
วันนี้เราเลยรวมครีมทาฝ้าทั้งหมด 3 ตัวที่เราให้แล้ว โอเคเห็นผล ฝ้าเริ่มจางลงแบบสังเกตุได้ ซึ่งครีมทาฝ้าที่เราเอามาแนะนำวันนี้คนผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้เด้อ มันปัง เพื่อไม่ให้เสียเวลาของสาวๆ คอสเมเน็ตมากจนเกินไป เรามาเริ่มกันเลยค่ะ
ตัวแรกคือ Skin Lab Story Active Skin Serum
ครีมทาฝ้ายี่ห้อดัง ราคาพอจับต้องได้ประมาณไม่เกิน 400 บาท ครีมทาฝ้าตัวนี้ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นะคะ ใครที่หน้าเซนซิทีฟหรือแพ้แอลกอฮอล์สามารถใช้ได้เลย เนื้อครีมมีกลิ่นอ่อนๆ เกลี่ยง่ายมากกก เนื้อครีมลื่นๆ ดีค่ะไม่หนักผิวเลย
ส่วนตัวใช้แล้วเวิร์ค เพราะพวกรอยฝ้าเริ่มจางลงแบบที่เราสังเกตได้ แต่แนะนำให้ลองใช้ไปสักประมาณ 1 เดือนนะคะถึงจะเริ่มเห็นผล (ต้องใจเย็นๆ ค่ะ)
ตัวที่ 2 Melamii Anti-Melasma Perfect White and Spot Corrector
ตัวนี้ได้มาโดยบังเอิญ มีอยู่ช่วงนึงที่เราไปบ่นๆ กับเพื่อนสาวว่าใช้เซรั่มทาฝ้ายี่ห้อนึงอยู่แต่ไม่เริ่ด ไม่เกิดผลอะไรกับฝ้าดิชั้นเลยเปลืองตังมาก นางเลยแนะนำเมลามิมา นางว่าปัง เราก็ไม่รอช้าจัดมาลองสักหลอดก็ไม่เสียหาย สรุปว่าเริ่ดจริงไม่จ้อจี้เด้อ ตัวนี้เป็นครีมทาฝ้าแบบ 4 in 1 ช่วยได้ทั้งจัดการฝ้าเก่า ป้องกันฝ้าใหม่ ลดริ้วรอย และทำให้ผิวหน้าใสได้ในหลอดเดียวเลย
หลังจากใช้ไปสักพักประมาณ 2-4 วีค เมลามิก็เริดตามที่เพื่อนสาวบอกจริงๆ ฝ้าจางลงไปค่อนข้างชัดมาก จากรอยเข้มๆ จะดูบางลงแบบสังเกตได้เลยค่ะ ผิวเนียนใสด้วย ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ พาราเบน น้ำหอม หยุดใช้ก็ไม่เกิดเอฟเฟคเรื่องผิวหน้าบางใดๆ ตามมา
และตัวสุดท้าย Yanhee Mela Cream
ครีมทาฝ้าของโรงพยาบาลยันฮีที่เจอด้วยความบังเอิญ (อีกเช่นกัน 555) เพราะตอนนั้นกำลังหาครีมทาฝ้าตัวใหม่อยู่ แล้วก็ไปเจอรีวิวในเวปบอร์ดที่หนึ่ง ด้วยความที่ราคาไม่แพงเลยแล้วก็ได้ปริมาณที่เยอะด้วย เลยตัดสินใจซื้อมาลอง ประกอบกับความโรงพยาบาลยันฮีเราเลยมั่นใจได้หนึ่งเปราะว่ามันจะปลอดภัยกับผิวหน้า
ครีมทาฝ้ายันฮีตัวนี้ให้ใช้แค่วันละครั้งนะคะ เราเอาไว้ทาช่วงก่อนนอน ครีมไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ รอยฝ้าก็ค่อยๆ จางลงค่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่าตัวนี้เห็นผลช้าสุดในสามตัวนะคะ ใครไม่รีบตัวนี้ก็ดีอยู่
และนี่ก็คือทั้งหมดของครีม / เซรั่มทาฝ้าที่ส่วนตัวเราใช้แล้วเวิร์ก เห็นผลกับผิวหน้าเราค่ะ สาวๆ คอสเมเน็ตเคยลองใช้ตัวไหนมาบ้างมาแชร์กันได้นะคะ เผื่อมีตัวไหนน่าสนใจเราจะได้แอบไปซื้อบ้าง
และสุดท้ายเราขอฝากไว้นิดนะคะสำหรับคนที่เป็นฝ้าและยังไม่เป็นฝ้า เราอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดดทุกวัน เพราะมันสำคัญมากจริงๆ ช่วงนี้อาจจะ WFH หลายๆ คนอาจจะละเลยการทาครีมกันแดด เพราะคิดว่าไม่ได้เอาหน้าไปปะทะกับแดดไม่ต้องทาก็ได้ แต่จริงๆ แสงไฟในห้อง แสงจากหน้าจอคอม หน้าจอมือถือ ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาฝ้ากระนะคะ ดังนั้นพยายามทาครีมกันแดดกันด้วยนะคะ ด้วยรักจากใจค่ะ วันนี้ไปแล้วค่ะ บ้ายบายยยยยย